“กิตติศักดิ์” ชี้ไม่ใช่เรื่องง่ายแก้วาระ 8 ปีนายกฯ เหตุสภาหมดอายุ ต้องรอรัฐบาลหน้าเอาด้วยหรือไม่ ยันส.ว.เลือกนายกฯ ไม่ฝืนเสียงประชาชน
17 ม.ค.2566 - เวลา 10.00 น.ที่รัฐสภา คณะกรรมาธิการ(กมธ.)การพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา ที่มีนายเสรี สุวรรณภานนท์ ส.ว.เป็นประธาน ได้พิจารณาเรื่องรายงานความคืบหน้าการดำเนินงาน ของคณะทำงานศึกษาการปรับปรุงโครงสร้างและเนื้อหาของรัฐธรรมนูญเพื่อการปฏิรูป ทั้งประเด็นการแก้มาตรา 158 วาระดำรงตำแหน่ง8 ปีของนายกรัฐมนตรี มาตรา 159 เรื่องคุณสมบัติของนายกฯต้องมาจาก ส.ส. และมาตรา 272 เกี่ยวกับยกเลิก ส.ว.ร่วมโหวตนายกรัฐมนตรี และเรื่องการแก้ปัญหาองค์ประชุมสภาล่ม
นายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ ส.ว.ในฐานะกมธ.ฯ กล่าวว่า เรื่องการแก้ไขวาระการดำรงตำแหน่งของนายกฯ 8ปี เนื่องจากที่ผ่านมาได้ลงพื้นที่แล้วประชาชนฝากมาว่า เบื่อส.ส.ไม่ทำหน้าที่ ทำสภาล่มตลอด ควรให้ส.ส. มีวาระการดำรงตำแหน่งหรือไม่ ดังนั้นสิ่งที่เราศึกษาต่อไปคือถ้าเช่นนั้นเมื่อส.ส.ไม่มีวาระ และก่อนนี้นายกฯก็ไม่มีวาระ เราจึงคิดว่าถ้าอย่างนั้นปล่อยให้เสรีเลย คือปลดล็อกนายกฯ 8 ปี ตามมาตรา 158 การที่เราคิดตรงนี้ ไม่ใช่ว่าส.ว.จะไปเสนอแก้มาตรา 158 วรรคสุดท้ายที่บอกว่านายกฯปฏิบัติหน้าที่เกิน 8 ปีไม่ได้ และไม่มีทางแก้ได้เพราะรัฐบาลนี้เหลือเวลาอีกไม่กี่วัน และส.ว.แก้โดดๆไม่ได้ เพราะพ.ร.บ.การทำประชามติได้ออกมาบังคับใช้แล้ว และหากจะแก้รัฐธรรมนูญเพียงมาตราเดียวน่าจะต้องทำประชามติอย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 2 ครั้ง ซึ่งต้องใช้เงินนับ 10,000 ล้านบาท
“ฉะนั้นเป็นไปไม่ได้เลย และสิ่งที่กมธ.ฯคิดไว้คือ หากรัฐบาลหน้า ใครจะมาเป็นรัฐบาลไม่ทราบ เสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญ ฝ่ายการเมือง หรือประชาชนเสนอแก้ ซึ่งส.ว.ศึกษามาแล้ว ซึ่งมีหลายประเด็นเช่นการซื้อเสียง การทุจริตในการเลือกตั้ง รวมถึงมาตรา 158 ด้วย ขอย้ำอีกครั้งว่าการแก้ไขน่าจะเป็นรัฐบาลหน้าแน่นอน แต่เขาจะแก้หรือไม่แก้ไม่ใช่หน้าที่ ส.ว. หากมีการแก้ ส.ว.ก็จะมีการเสนอประเด็นเข้าไปร่วมแก้ไขด้วยและต้องทำประชามติ ไม่เช่นนั้นทำไม่ได้ และหากผ่านประชามติแล้ว ก็ต้องมีมติของรัฐสภาเกินกว่าครึ่งหนึ่ง ต้องมีเสียงฝายค้าน และส.ว.ด้วย ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เข้าใจว่านักการเมืองในขณะนี้ ใกล้หาเสียงก็ด่าได้ ตำหนิได้ ก็ว่าไป เป็นเรื่องของการเมืองมากกว่า” นายกิติศักดิ์ กล่าว
เมื่อถามถึงกรณที่ส.ว.มีสิทธิ์เลือกนายกฯอีกครั้งและมีการยอมรับว่าส.ว.มีการแบ่งกลุ่มเป็น2 ฝ่ายลุ่งตู่ ลุงป้อม นายกิตติศักดิ์ กล่าวว่า ฝ่ายลุงตู่ ลุงป้อม ตอนเข้ามาอาจจะมี แต่ถึงการลงมติแล้วจะเห็นได้ว่าการพิจารณากฎหมายต่างๆ ส.ว.จะไปในแนวทางเดียวกัน ดังนั้นถ้าสมมติพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) มีคะแนนมากพอที่จะจัดตั้งรัฐบาลได้ แน่นอนว่า ส.ว.ก็ไป แต่ถ้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ได้คะแนนมากพอที่จะจัดตั้งรัฐบาล ส.ว.ก็เชียร์ลุงป้อม ขณะเดียวกันตรงกันข้าม สมมุติอาจจะเป็นพรรคเพื่อไทย (พท.) พรรคก้าวไกล (กก.) ได้ส.ส.รวมกันแล้วสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ และอีกฝ่ายเป็นเสียงข้างน้อย เชื่อว่าส.ว.ไม่ฝืนมติประะชาชน ไม่ไปเลือกรัฐบาลเสียงข้างน้อยแน่นอน
ถามว่าที่ผ่านมาถึงขนาดส.ว.มีการเช็กชื่อใครอยู่กับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ใครอยู่กับพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ นายกิตติศักดิ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ทราบ ตนเป็นส.ว.ปลายแถวเลยไม่มีใครมาขอชื่อตน เราอยู่ตรงนี้เป็นสภาสูงที่พิจารณาแต่งตั้งบุคคล และองค์กรตามรัฐธรรมนูญ และตามกฎหมาย เราต้องทำหน้าที่ให้ดี ส่วนเรื่องการเมืองควรให้เป็นฝ่ายของการเมืองมากกว่า
เมื่อถามถึงความเหมาะสมในการลงพื้นที่หาเสียงโดยเฉพาะฝั่งรัฐบาล นายกิตติศักดิ์ กล่าวว่า เป็นหน้าที่ของฝ่ายบริหาร ส.ว.ก็มองดูเหมือนประชาชนทั่วไป การที่จะหาเสียง ไม่ใช่เฉพาะรัฐบาลนี้ รัฐบาลที่ผ่านๆมาใกล้เลือกตั้งก็ต้องลงหาเสียงกับประชาชน ส่วนจะมีความเหมาะสมในเรื่องการใช้งบประมาณในฐานะที่เป็นรัฐบาลหรือไม่ ประชาชนและพรรคการเมืองจับตาดูอยู่ ดังนั้นความเหมาะสมที่จะใช้งบประมาณแผ่นดินไปหาเสียงก็ไม่เหมาะสม
ถามด้วยว่า มองกระแส พล.อ.ประยุทธ์กับพล.อ.ประวิตร ที่ลงพื้นที่หาเสียงแข่งกันอย่างไร นายกิตติศักดิ์ กล่าวว่า ตรงนี้ตนไม่ทราบ เพราะเห็นบอกเป็นพี่น้องกัน ส่วนเลือกตั้งแล้วพล.อ.ประวิตรจะไปไหน จะไปเพื่อไทย หรือไปกับพล.อ.ประยุทธ์ ก็ปล่อยให้เป็นเรื่องของการเมือง และหากพล.อ.ประวิตร ไปรวมกับเพื่อไทยตนก็ไม่รู้สึกอะไรเลย เพราะถือเป็นเรื่องของการเมือง ส่วนการลงมติจะเป็นอย่างไรต้องดูหน้างานก่อนว่าถ้าใครต่อใครไปรวมกันแล้วประเทศชาติเดินไปได้หรือไม่ หรือไปแล้วจะมีปัญหาเกิดขึ้น จะมีม็อบหรือไม่ ส.ว.ก็จะไปดูหน้างานแล้วตัดสินใจตอนนั้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'พริษฐ์' ยันต้องแก้รธน.ทั้งฉบับ เพราะขาดความชอบธรรมทางประชาธิปไตย
นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาชน กล่าวถึงกรณีที่นายวิษณุ เครืองาม อดีตรองนายกรัฐมนตรี ระบุ หากต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เร็ว ต้องแก้รายมาตรา ว่า เป็นความเห็นของนายวิษณุ สามารถแลกเปลี่ยนกันได้
'วันนอร์' ยันเปิดสภาฯ ถกร่างแก้รธน. รายมาตรา 17 ฉบับ ภายใน ธ.ค.นี้
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร แสดงความเห็นกรณีที่นายนิกร จำนง ผู้อำนวยการพรรคชาติไทยพัฒนา ระบุ
กมธ.ประชามติ สรุปใช้เสียงข้างมาก 2 ชั้น ชงรายงานให้ สส.-สว. ถ้าเห็นแย้งจะถูกแขวน 180 วัน
คณะกรรมาธิการ (กมธ.) ร่วมกันเพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ นำโดย นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร สว. โฆษก กมธ., นายกฤช เอื้อวงศ์ โฆษก กมธ. และนายนิกร จำนง เลขานุการ กมธ. ร่วมกันแถลงถึงมติของกมธ.ร่วมกันฯ
สว.พันธุ์ใหม่ อ้างต่างประเทศใช้เกณฑ์เสียงข้างมาก 2 ชั้น ทำผลประชามติบิดเบือน
น.ส.นันทนา นันทวโรภาส สว.กลุ่มพันธุ์ใหม่ แถลงจุดยืนถึงร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ ว่า ไม่ว่ามติของคณะกรรมาธิการ(กมธ.)ร่วมเพื่อพิจารณาร่างพ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ จะออกมาเป็นอย่างไร
'ไพบูลย์' เย้ยรัฐบาลไม่มีทางแก้รธน.ทั้งฉบับได้ทัน คาดอยู่ไม่ถึง 1 ปี
นายไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการพรรค พปชร. กล่าวถึงกรณีนายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ระบุว่าร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ จะตีความเป็นกฎหมายการเงิน
'นิกร' ยอมรับสภาพ พรบ.ประชามติ แก้รธน.ล่าช้าไป 1 ปี คาดทำครั้งแรกต้นปี 69
นายนิกร จำนง ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) ร่วมเพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ กล่าวถึงกรณีที่มีการระบุว่ากฎหมายประชามติเป็นกฎหมายการเงิน เพื่อลดเวลาพักร่างกฎหมาย 180 วัน