หายใจก็ผิด! อนุสรณ์โยง รมต.พร้อมใจลาประชุม ครม.สะท้อน 'ประยุทธ์' หมดสภาพ

'อนุสรณ์' จับงานถนัด อัด 'ประยุทธ์' ไปต่อไม่ไหวแล้ว โยงตั้งแต่แต่งตั้งคนใน รทสช.รวมไปถึงการประชุม ครม.ที่รัฐมนตรีลากันเพียบ

18 ม.ค.2566 - นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองเลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมทยอยแต่งตั้งคนในพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เข้ามารับตำแหน่งในรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง ว่า พล.อ.ประยุทธ์ ต้องกลับไปศึกษาจุดจบของพรรคทหารเฉพาะกิจ ตั้งแต่สามัคคีธรรมเปรียบเทียบกับพลังประชารัฐ และจะลามมาถึงพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่สุดจะมีชะตากรรมเดียวกัน พล.อ.ประยุทธ์ จะถูลู่ถูกังตะแบงต่อไปไม่ได้ ส.ส.แห่ลาออกแทบทุกวัน จนสภาล่มทุกสัปดาห์ ประชุม ครม.ที่ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรทำให้คนมาประชุมไม่ครบ แต่กลับมีรัฐมนตรีพร้อมใจกันลาประชุมเกือบสิบคน

นายอนุสรณ์กล่าวต่อกว่า พี่ใหญ่ 3 ป. ขอไปใช้ใจบันดาลแรงลงพื้นที่โดยไม่เกรงใจ พล.อ.ประยุทธ์ อีกต่อไปเพราะใน ครม.พล.อ.ประวิตรก็ไม่เห็นด้วยในหลายเรื่อง ภารกิจเดียวที่ พล.อ.ประยุทธ์ ยังคงดำรงเป้าหมายอยู่คือความพยายามในการทยอยตั้งคนในพรรครวมไทยสร้างชาติเข้ามารับตำแหน่งในรัฐบาลให้ได้มากที่สุด พล.อ.ประยุทธ์ ต้องรับสภาพว่ารัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ไปต่อไม่ไหวแล้ว ประชาชนจะถามทุกวันเป็นนายกฯ ของพรรคพลังประชารัฐ แต่ลาออกไปอยู่พรรครวมไทยสร้างชาติ ในขณะที่หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐเขาประกาศความมั่นใจพร้อมเป็นนายกรัฐมนตรีแข่ง พล.อ.ประยุทธ์ จะแสดงความรับผิดชอบอย่างไร พล.อ.ประยุทธ์ อาจไม่อาย แต่พล.อ.ประวิตร และคนในพรรคพลังประชารัฐอาย

“ผู้นำในอดีตที่สืบทอดอำนาจโดยยึดประโยชน์ของตัวเองและพวกพ้องก่อนประเทศชาติและประชาชน จบไม่สวยสักราย พล.อ.ประยุทธ์ก็มีแนวโน้มจะตามรอยมีจุดจบแบบเดียวกับคนเหล่านั้น” นายอนุสรณ์กล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

นายกฯ ยัน ร่วมโต๊ะอาหารเที่ยงกับ 'เอกนัฏ'

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ(รทสช.) ร่วมโต๊ะอาหารกลางวันกับนายกรัฐมนตรีและคณะ

'ทวี' ยันไม่เคยได้ยิน เพื่อไทยจะเอาตำแหน่งประธานสภาฯ

พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงกรณีมีกระแสว่าพรรคเพื่อไทยจะขอเก้าอี้ประธานสภา ว่า รัฐธรรมนูญได้มีการเขียนเอาไว้อย่างชัดเจนถึงการเข้าดำรงตำแหน่งประธานสภาว่าเป็นเรื่องของสภา ส่วนเรื่องคณะรัฐมนตรีนั้นเป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรี