‘อนุทิน’ มั่นใจปักธง กทม. ใช้ลูกขยันลงพื้นที่ขอคะแนนคนกรุง

‘อนุทิน’ มั่นใจปักธงในกทม.ได้ ยัน นโยบายลดค่าโดยสารรถไฟฟ้าทำได้แน่ ศึกษามาแล้ว เล็ง ใช้รูปแบบ ตจว. มาแก้ปัญหาชุมชนแออัด โอ่ กระแสลุงหนูก็ดี โยนประชาชนตัดสินกระแสสู้ลุงตู่ได้หรือไม่ วอน เลิกด่า ภท.เป็นพรรคดูด บอกทุกพรรคเป็นหมด ระบุ เลือกตั้งครั้งนี้เป็นการแข่งกันของพรรคการเมืองอย่างแท้จริง

23 ม.ค.2566-ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.)  กล่าวถึงการลงพื้นที่เขตห้วยขวาง กทม.เมื่อวันที่ 22 ม.ค.ที่ผ่านมาว่า ได้รับการตอบรับจากประชาชนดี โดยเราได้นำนโยบายของ ภท.ไปบอกประชาชน ดูจากปฏิกิริยาแล้วประชาชนชื่นชอบ จากนี้จะลงไปทุกพื้นที่ใน กทม. เราตั้งใจจะส่งผู้สมัคร ส.ส.กทม.ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ และเราคาดหวังจากทุกเขต แต่ขึ้นอยู่กับหลายอย่าง ทั้งนโยบายพรรค ความขยันและความนิยมของผู้สมัคร ยืนยันจะทำให้ดีที่สุด  

 ถามว่า มั่นใจจะปักธงใน กทม.ได้หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า มั่นใจสิ ต้องมั่นใจ เพราะ กทม.ถือเป็นเมืองที่สำคัญ ภท.ทำสิ่งที่เป็นประโยชน์กับจังหวัดอื่นๆ หมดแล้ว เหลือแต่ กทม.ที่ ภท.ยังมีผู้แทนไม่ได้ จึงอยากจะเสนอตัว กทม.เป็นเขตผู้บริหารพิเศษอยู่แล้ว แต่มีอยู่หลายเรื่อง ถ้ามีผู้แทนของ ภท.เอง เชื่อว่าจะมีปัญหาหลายอย่างที่ ภท.สามารถแก้ไขได้ ในรูปแบบของการร่วมมือช่วยกันให้เกิดประโยชน์กับประชาชนให้มากที่สุด ไม่ใช่ไปแข่งกันทำงานหรือแย่งกันทำงาน แม้ว่าในกทม. จะมีผู้ว่าฯกทม.อยู่แล้ว แต่เราจะเข้ามาเสริม แบ่งเบาภาระผู้ว่าฯกทม.อีกแรงหนึ่ง สิ่งที่ดีที่สุดคือ ประชาชนได้ประโยชน์สูงสุด

 เมื่อถามว่า คิดว่านโยบายอะไรที่จะโดนใจคน กทม. เพราะมีหลายพรรคที่ต้องการปักธงใน กทม.ให้ได้ และมีการแข่งขันกันสูง นายอนุทิน กล่าวว่า เราใช้ผลงานของเราในช่วงที่เป็นรัฐบาล 4 ปีที่ผ่านมา สามารถนำนโยบายที่สัญญาเอาไว้กับประชาชนออกมาเป็นรูปธรรมได้แทบทุกนโยบาย อีกทั้ง ภท.เป็นพรรคที่ไม่มีความขัดแย้งกับใคร ไม่ชอบเรื่องความขัดแย้ง ไม่เชื่อว่าความขัดแย้งจะพาประเทศไปสู่ความก้าวหน้าได้ แต่เชื่อว่าการทำงานที่เป็นประโยชน์จะทำให้บ้านเมืองได้ประโยชน์สูงสุด จะเน้นในเรื่องนี้ เป็นแนวทางการหาเสียงของ ภท. จะไม่มีการพูดถึงพรรคอื่น ไม่ด้อยค่านโยบายของใครทั้งสิ้น นโยบายของพรรคการเมืองอื่นหากเป็นประโยชน์เราจะสนับสนุนด้วยซ้ำ เพราะถือว่าทุกคนมีความปรารถนาดีที่จะทำงานให้บ้านเมือง สิ่งที่เป็นอุปสรรคมากๆ คือ ความขัดแย้งกัน ด้อยค่ากัน เสียดสีกัน ด่าทอกัน ตรงนี้คนที่อาสาเข้ามาเป็นตัวแทนประชาชนไม่ควรทำ ถ้ามัวทะเลาะกันจะหาความร่วมมือไม่ได้ 

 นายอนุทินกล่าวถึงนโยบายของพรรคเรื่องลดค่าโดยสารรถไฟฟ้าว่า มั่นใจ เพราะ 4 ปีที่ผ่านมา ภท.กำกับดูแลกระทรวงคมนาคม ถ้าพูดว่าค่าโดยสารต้องไม่เกิน 40 บาท แสดงว่าเรามีการศึกษาความคุ้มค่าในการลงทุนและประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับมาแล้ว ไม่ใช่มาพูดเพื่อให้ประชาชนรู้สึกดีและมาเลือกเรา คนที่บริหารบ้านเมืองมา 4 ปีแล้วจะไปพูดชุ่ยๆ ไม่ได้    

 ถามว่า ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ประกาศยุบสภาในตอนนี้ ภท.มีความพร้อมใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า อย่างไรก็ต้องพร้อมแล้วตอนนี้ ต่อให้นายกฯไม่ยุบสภา ตอนนี้เหลืออีกแค่ 2 เดือน และแนวโน้มหลังจาก พล.อ.ประยุทธ์มาเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) คาดเดาว่าการยุบสภาน่าจะเกิดขึ้น ซึ่งมันน่าจะน้อยกว่า 2 เดือน สำหรับ ภท.มีความพร้อมตั้งแต่ปีที่แล้ว ดังนั้น จะยุบเมื่อไหร่เราก็พร้อม 

 เมื่อถามว่า มองกระแส พล.อ.ประยุทธ์ ที่ลงพื้นที่เยาวราช เมื่อวันที่ 22 ม.ค.อย่างไรบ้าง นายอนุทิน กล่าวว่า เมื่อวันที่ 22 ม.ค. พล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้ลงคนเดียว แต่ลงกันถึง 3 พรรค ทั้งพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พรรคก้าวไกล รทสช. ส่วนตนไปที่เขตห้วยขวาง ซึ่งไม่ได้ต่างกัน และโปรแกรมเยาวราชตนเองคงจะต้องไป โดยการลงพื้นที่เป็นเรื่องปกติในการเดินเข้าหาประชาชน ถือเป็นสิ่งที่ดี เพราะจากการลงพื้นที่จะเห็นเลยว่าทุกวันนี้คน กทม.ไม่ได้มีความเป็นอยู่ที่ดีมากกว่าคนต่างจังหวัดเลย บางที่คนต่างจังหวัดมีคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าคน กทม.ด้วยซ้ำ เราต้องเอารูปแบบการแก้ปัญหาในต่างจังหวัดมาแก้ใน กทม. โดยเฉพาะคนที่อยู่ในชุมชนแออัด ซึ่งเมื่อเราตัดสินใจที่จะเข้ามาในกทม. ได้เห็นปัญหา ต้องแก้ไขให้ได้

 ซักว่าเท่าที่ดูกระแส พล.อ.ประยุทธ์ ถือว่าน่ากลัวและน่ากังวลหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ต้องให้กำลังใจท่าน ให้กำลังใจทุกพรรค ตรุษจีนได้อวยพรให้หัวหน้าพรรคทุกพรรค เพราะทุกคนมีความปรารถนาที่จะรับใช้ประชาชน ได้ให้กำลังใจกัน ส่วนคนที่จะตัดสินใจคือประชาชน เมื่อถามย้ำว่า มีความกังวลหรือไม่กับกระแสตอบรับของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่ค่อนข้างดีในขณะนี้ นายอนุทิน กล่าวว่า “ผมว่ากระแสลุงหนูก็ดี เวลาลงพื้นที่ต่างๆ ก็ได้รับการตอบรับที่ดีมากจากประชาชน” หลายคนเข้ามาให้กำลังใจ ซึ่งในฐานะหัวหน้าพรรคตนถือว่าดีมาก และการที่เราเข้ามาใน กทม. ทำให้รู้ว่าประชาชนรู้จัก ภท.มากขึ้น และมีความเชื่อมั่นในการทำงานของ ภท. แต่จะประสบความสำเร็จแค่ไหนอยู่ที่ชาว กทม. ได้ ส.ส.ก็ทำงาน หรือต่อให้ไม่ได้ ส.ส. เราก็ทำงานอยู่ดี ถ้าได้ใน กทม.ถือว่าเป็นการเสริมความแข็งแกร่ง 

 เมื่อถามว่า ขณะนี้ทุกพรรคอาจจะแข่งกัน แต่หลังเลือกตั้งสามารถจับมือกันได้ใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ทุกอย่างอยู่ที่ผลของการเลือกตั้ง ภท.ชัดเจนอยู่แล้ว วันนี้ตนคิดว่าเราเลิกพูดกันได้แล้วว่าใครอยู่พรรคนี้เป็นประชาธิปไตย ใครไม่อยู่พรรคนี้ไม่เป็นประชาธิปไตย หรือ ภท.พรรคดูด แต่ปรากฏว่า ภท.ก็ถูกดูด ถือว่าครบหมดแล้ว องค์ประกอบของพรรคการเมืองครบหมดแล้ว มีคนเข้ามา มีคนออกไป และคนที่ไปก็เคยอยู่ฝ่ายตรงข้ามกับพรรคที่ตัวเองไปอยู่ด้วย ฉะนั้น คำว่าไล่หนูตีงูเห่า รับใช้เผด็จการ ไม่มีความเป็นประชาธิปไตย ซึ่งด้วยการกระทำและสิ่งที่เกิดขึ้นชัดเจนแล้วว่าทุกพรรคการเมืองเหมือนกันหมด มีรูปแบบและองค์ประกอบในทางการเมืองเหมือนกันหมด ภท.ไม่เคยพูดถึงเรื่องเหล่านี้เลย พูดอย่างเดียวคือ ทำงานรับใช้บ้านเมืองและประชาชน เพราะถึงอย่างไรเป็นประชาธิปไตยโดยเสียงโหวตของสภา ยิ่งครั้งหน้ายิ่งชัดเจนว่าเป็นการต่อสู้ของพรรคการเมืองทั้งหมด ไม่ได้เป็นการเปลี่ยนผ่านวงจรอำนาจจาก คสช.มาเป็นรัฐสภา

“ครั้งหน้าจะเป็นพรรคการเมืองล้วนๆ ขอให้แข่งกันทำความดีให้กับประชาชน ประชาชนจะตัดสินเองว่าจะเลือกใคร ถ้าทำดี รวมกันได้ ไม่มีความขัดแย้งก็เป็นรัฐบาล ถ้าเสียงไม่พอ ไม่เป็นที่ต้องการของพรรคการเมืองอื่นก็ไปเป็นฝ่ายค้าน ฝ่ายค้านก็ทำงานได้ ไม่ใช่ทำงานไม่ได้ เมื่อถามย้ำว่า กระแสลุงหนู จะสู้ลุงตู่ได้หรือไม่ นายอนุทิน หัวเราะและกล่าวว่า ให้ประชาชนเป็นคนตัดสินใจ” 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'อนุทิน' การันตี ภท. ไม่ปรับ ครม. ชี้ 8 รมต. ทำงานคืบหน้า

'อนุทิน' ย้ำรัฐมนตรีภูมิใจไทย 8 คน ไม่มีขยับ ชี้ทุกคนทำงานเต็มที่ผลักดันนโยบายคืบหน้าตลอด นายกฯ ยังไม่ส่งสัญญาณปรับ ครม. พร้อมอุ้ม 'เกรียง' มอบ พช. ดูแลเพิ่มอีกกรม

'รทสช.' ดีเอ็นเอพรรค คือ 'ลุงตู่' สู้ทุกปัญหาพึ่งพาได้ทุกเรื่อง

รวมไทยสร้างชาติจัดประชุมใหญ่ประจำปี “พีระพันธุ์”ย้ำหนักแน่นดีเอ็นเอของพรรค คือ “ลุงตู่” ขอเป็นพรรคที่สู้ให้ทุกปัญหาพึ่งพาได้ทุกเรื่อง “เอกนัฏ” ตั้งเป้าดัน “พีระพันธุ์”นั่งนายกฯ

ซูเปอร์โพลตอกย้ำ คะแนนนิยม ‘ก้าวไกล’ เหนือกว่า ‘เพื่อไทย’ 1 เท่าตัว

พรรคก้าวไกลมีคะแนนสูงกว่าเพื่อไทยอยู่ประมาณหนึ่งเท่าตัว แต่พรรคก้าวไกลก็ยังจะไม่มีคะแนนนิยมมากพอที่จะชนะการเลือกตั้งจนตั้งรัฐบาลพรรคเดียวได้ ถ้ายังทำงานการเมืองแบบนี้ต่อไป

หรือจะเหนื่อยฟรี! โพลชี้ ‘ทักษิณ’ เคลื่อนไหว ไม่มีผลต่อคะแนนนิยม ‘เพื่อไทย’ ครั้งหน้าก็ยังแพ้

ถามถึงความเป็นไปได้ที่พรรคเพื่อไทยจะชนะการเลือกตั้งในครั้งต่อไป พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 32.98 ระบุว่า เป็นไปไม่ได้เลย