
‘ไทยสร้างไทย’ กางโพลตอกหน้า ‘รวมไทยสร้างชาติ’ ชี้คนอีสานอยากได้ ‘สุดารัตน์’ นั่งนายกฯ ไม่ใช่ ‘ประยุทธ์’
23 ม.ค. 2566 – นายสิรภพ สมผล (บ่าวนิก) รองโฆษกพรรคไทยสร้างไทย และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 จังหวัดสกลนคร และนายสยมพร วรรณูปถัมภ์ (บักยอช) ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ขอนแก่น เขต 1 โพสต์เฟซบุ๊กตอบโต้กรณีที่นายวิทยา แก้วภราดัย รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ให้สัมภาษณ์ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีลูกคนอีสานที่พี่น้องชาวอีสานที่อยากได้นั้น
โดยนายสิรภพ ได้นำผลอีสานโพลปี 2563-2565 เปรียบเทียบกันระหว่างคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย กับ พล.อ.ประยุทธ์ พร้อมระบุว่า นายวิทยาคงจะเข้าใจอะไรบางอย่างผิดไปอย่างแน่นอน เพราะคนอีสานที่แท้จริงนั้น เป็นคนรักประชาธิปไตยและมั่นคงในอุดมการณ์ประชาธิปไตยมาโดยตลอด คงจะไม่ลงคะแนนเสียงสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ ที่เคยฉีกรัฐธรรมนูญและทำการปฏิวัติรัฐประหาร เพื่อให้มีอำนาจขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกเป็นอันขาด เพราะผลงานที่ผ่านมาตลอดระยะเวลากว่า 8 ปี ได้สร้างรอยแผลและความบอบช้ำที่ฝังลึกในใจชาวอีสานอย่างลบเลือนไม่ได้ ทั้งการที่ปล่อยให้ค่าครองชีพพุ่งขึ้นสูง ราคาผลผลิตทางการเกษตรที่ตกต่ำ ประสบกับภัยแล้งและน้ำท่วมซ้ำซาก ราคาปุ๋ยที่สูงขึ้นที่สุดเป็นประวัติการณ์ หนี้สาธารณะที่ทะลุเพดาน สถานการณ์โรคระบาดที่ควบคุมไม่ได้ อีกทั้งเรื่องความไม่โปร่งใสของ พล.อ.ประยุทธ์ที่ไม่ยอมเปิดเผยบัญชีทรัพย์สิน การที่ พล.อ.ประยุทธ์ขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีไม่ได้มาจากการที่ประชาชนได้เลือกตั้งเข้ามา แต่เป็นเพราะเสียงของ ส.ว. บวกกับพรรคเล็กที่หักหลังประชาชนและยกมือโหวตให้ พล.อ.ประยุทธ์ ได้เป็นนายกรัฐมนตรีในที่สุด เป็นเหมือนการตบหน้าพี่น้องชาวอีสานอย่างเลือดเย็น ซึ่งพี่น้องชาวอีสานจะไม่มีทางลืมอย่างแน่นอน
ส่วนนายกรัฐมนตรีคนอีสานตัวจริงที่พี่น้องชาวอีสานได้พูดถึงนั้น นายสิรภพ กล่าวว่า คือคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย ลูกโคราช หลานย่าโม หรือคุณหญิงหน่อยต่างหาก ที่กำลังครองใจพี่น้องชาวอีสานที่อยากจะก้าวผ่านความเจ็บปวดและความขัดแย้ง เพื่อเข้ามาบริหารประเทศและทำตามนโยบายที่พรรคไทยสร้างไทยได้เริ่มรณรงค์หาเสียงมากว่า 2 ปี นั่นคือการผลักดันให้มีบำนาญประชาชนเดือนละ 3,000 บาทสำหรับผู้สูงอายุทุกคนที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป ซึ่งอีสานโพลได้ทำการสำรวจความเห็นของประชาชนภาคอีสานมาตั้งแต่เดือนมีนาคม 2563 จนถึงเดือนพฤศจิกายน 2565 เห็นได้ว่าคะแนนความนิยมในตัวคุณหญิงสุดารัตน์ สูงกว่าพลเอกประยุทธ์ ในทุกครั้งที่สำรวจ
เมื่อเทียบกับความโปร่งใสของคุณหญิงสุดารัตน์ที่ทำงานการเมืองมากว่า 30 ปี ไม่เคยโดนตรวจสอบความโปร่งใสในการทำงานการเมือง ไม่เคยถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจในสภาผู้แทนราษฎรเลยสักครั้งเดียว ต่างกับ พล.อ.ประยุทธ์ที่มีความไม่โปร่งใสในหลายๆ เรื่อง และข้อกังขาของคุณสมบัตินายกรัฐมนตรีทั้งในประเทศและต่างประเทศ อีกทั้งจากการที่นายสิรภพ ซึ่งเป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.สกลนคร ที่ลงพื้นที่นำเสนอนโยบายต่างๆ ของพรรคไทยสร้างไทยมาอย่างต่อเนื่อง ได้สัมผัสถึงความนิยมในตัวคุณหญิงสุดารัตน์ในพื้นที่ที่เพิ่มสูงขึ้น และมีแต่กระแสต่อต้านพลเอกประยุทธ จึงเป็นไปไม่ได้ว่าคะแนนนิยมของคนอีสานที่อยากมีนายกรัฐมนตรีคนอีสาน จะไม่ใช่คุณหญิงสุดารัตน์ แต่กลับเป็น พล.อ.ประยุทธ์แทน”.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'วิทยา' ใจกว้าง! ถอนแจ้งความ 'ณัฐวุฒิ' หลังยอมรับผิด ปราศรัยด้วยข้อมูลเท็จ
สส.วิทยา แสดงสปิริต ถอนแจ้งความไม่ติดใจเอาความทั้งแพ่ง- อาญาต่อ ‘ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ’ ที่ปราศรัยใส่ร้ายด้วยข้อมูลเท็จ ล่าสุดเจ้าตัวยอมรับผิด โพสต์ขอโทษอย่างเป็นทางการ
'เต้น' ขอโทษ 'วิทยา' ปราศรัยหาเสียง เข้าใจคลาดเคลื่อน ก่อสร้างถนนเลียบชายฝั่งทะเล
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้ช่วยหาเสียงพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า จากการเปิดเวทีปราศรัยใหญ่ของพรรคเพื่อไทย ช่วงการหาเสียงเลือกตั้งปี 2566
'หัวหน้าเท้ง' เรียกร้อง 'อุ๊งอิ๊ง' แสดงบทบาทนำฉีกรัฐธรรมนูญฉบับปราบโกงให้สำเร็จ
นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีที่ประชุมรัฐสภาจะพิจารณาร่างแ
'รทสช.' ยันพรรคร่วมรัฐบาลเร่งทำงานเต็มสูบ ไม่หวั่นศึกซักฟอก มั่นใจแจงได้
'ธนกร' ยันพรรคร่วมรัฐบาล เร่งเครื่องทำงานเต็มสูบ ลุยแก้ปากท้องเศรษฐกิจให้ประชาชน ห่วงปัญหาหนี้ท่วม-รายจ่ายเพิ่ม มั่นใจศึกซักฟอกแจงฝ่ายค้านได้
'เอกนัฏ' ยัน 'รทสช.' แน่นปึ้ก ไม่หวั่นกระแสข่าวปรับครม.
เอกนัฏ ไม่รู้สึกกวนใจหลังมีกระแสข่าวปรับครม. ลั่นนายกฯ มีความชัดเจน บอก อยู่กับปัจจุบันทำงานให้เต็มที่ ยืนยัน รทสช. แน่นปึ้ก
รองโฆษก รทสช. เตือน สส.ฝ่ายค้าน ฉาวคนเดียวระวังเหม็นทั้งประเทศ
นายพงศ์พล ยอดเมืองเจริญ รองโฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวถึงกรณีศาลออกหมา