'วัชระ' โต้เดือด 'ศิธา' ดีลล่มควบรวม 'พรรคตระกูลสร้าง'

วัชระ ศิธา1 ก.พ.2566 - ที่ทำการพรรคสร้างอนาคตไทย(สอท.) นายวัชระ กรรณิการ์ รองเลขาธิการพรรคสร้างอนาคตไทย กล่าวถึงกรณี น.ต.ศิธา ทิวารี เลขาธิการพรรคไทยสร้างไทย(ทสท.) ออกมาให้ข่าวถึงสาเหตุดีลล่มระหว่างพรรคสร้างอนาคตไทยกับพรรคไทยสร้างไทยว่าเป็นเพราะพรรคสร้างอนาคตไทยหนุนเผด็จการว่า ตนคิดว่าน.ต.ศิธา รู้ดีว่าสาเหตุที่แท้จริงของดีลล่มคืออะไร เพียงแต่ไม่เอาความจริงมาพูดทั้งหมด ดังนั้นการสร้างวาทกรรมดังกล่าวจึงเป็นสิ่งที่เป็นไปในลักษณะของการปิดทองใส่หน้าตนเอง เป็นการเอาดีเข้าตัวเอาชั่วเข้าคนอื่น

"ผมอยากถามว่าใครกันแน่ที่ไม่จริงใจในการเจรจา เท่าที่ผมเห็นและติดตามมาตลอดทั้งนายอุตตม สาวนายน อดีตหัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทย และนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ อดีตเลขาธิการพรรคสร้างอนาคตไทย ใช้ความพยายามและความอดทนเป็นอย่างมากในการเจรจาและยอมถอยแทบจะในทุกประเด็นแล้ว แต่ก็มีเงื่อนไขใหม่ๆเกิดขึ้นตลอดเวลา จนยากที่จะทำงานร่วมกันได้ ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับการที่ น.ต.ศิธา อ้างถึงเรื่องเผด็จการหรือประชาธิปไตยใดๆทั้งสิ้น เพราะดีลนี้ล่มตั้งแต่ก่อนหน้านั้นแล้ว อันเนื่องมาจากความเอารัดเอาเปรียบและความไม่จริงใจในการเจรจามากกว่า

นายวัชระ กล่าวว่าตนแปลกใจที่นายศิธาออกมาพูดในลักษณะนี้ เพราะในความเป็นจริง นายศิธาย่อมรู้ดีแก่ใจว่า ดีลนี้ล่มเกิดขึ้นเพราะสาเหตุใด ถ้าจำไม่ได้หรือแกล้งไม่รู้ ตนจะพูดให้ฟังอีกที ฟังชัดๆนะ ดีลนี้ล่มเพราะสิ่งที่เรียกว่า “การได้คืบจะเอาศอก” บนพื้นฐานของการไม่เคารพซึ่งกันและกัน และไม่ให้เกียรติคู่เจรจา ผู้ใหญ่ของพรรคสร้างอนาคตไทยทุกคนไม่ว่าจะเป็นหัวหน้าหรือเลขาธิการพรรคฯ อดทนและอดกลั้นอย่างยิ่งในการเดินหน้าในการเจรจาเพื่อให้ประสบความสำเร็จ จนแทบจะเรียกว่าถอยจนสุดซอยแล้ว แต่ก็ไม่จบสิ้นเสียที

"มันมีลักษณะที่ภาษาชาวบ้านเขาเรียกว่า ขี่กันตลอด ดังนั้นดีลนี้จึงไม่เกิดขึ้น ผมจึงค่อนข้างประหลาดใจที่คุณศิธาไปผูกโยงหรือไปจับแพะชนแกะ และกล่าวหาเรื่องที่พรรคหรือผู้ใหญ่ของพรรคสร้างอนาคตไทยไปสนับสนุนเผด็จการ ทั้งๆที่ไม่เกี่ยวกันเลย แต่ก็ไม่ถือสาถ้าจะหาเสียงกันแบบนี้ แต่ครั้งหน้าเอาให้มันเนียนกว่านี้หน่อยนะครับ” นายวัชระกล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

พฤฒสภา คือ สภาปรีดี จริงหรือ ? (31)

ก่อนจะเกิดรัฐธรรมนูฉบับที่ 4 หรือรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ. 2490 เรามีรัฐธรรมนูญฉบับที่ 2 คือฉบับ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2475

รัฐบาลพรรคเดียวในทางทฤษฎี กับการเมืองจริงของพรรคส้ม

พรรคประชาชน หรือที่ถูกเรียกกันทั่วไปว่า “พรรคส้ม” ตั้งเป้าหมายทางการเมืองไม่ใช่แค่การชนะเลือกตั้ง แต่คือการได้เสียงเกินครึ่งสภา มากกว่า

สถานการณ์แรงงานข้ามชาติปี 2568 จับตาพรรคการเมืองปั่นกระแส บิดเบือนข้อมูลเพื่อโจมตีทางการเมือง

เข้าสู่ช่วงนับถอยหลังกำลังจะผ่านพ้นไปแล้วสำหรับปี 2568 หลายภาคส่วนมีการวิเคราะห์-สรุปสถานการณ์ในด้าน”การเมือง-เศรษฐกิจ-สังคม-สิ่งแวดล้อม-เทคโนโลยี

ดร.อนุสรณ์ ธรรมใจ บทบาทใหม่ บนถนนการเมือง หวั่นใช้ทุนเทาซื้อเสียงเลือกตั้ง!

สนามเลือกตั้งเมืองหลวง ประเทศไทย"กรุงเทพมหานคร"เป็นอีกหนึ่งสนามเลือกตั้งที่คนทั้งประเทศจับตามองกันว่าผลการเลือกตั้ง 8 ก.พ.2569 "พรรคประชาชน"