นายกฯ เตรียมลงพื้นที่สุราษฎร์ธานี 13 ก.พ. นี้ ตรวจเยี่ยมพื้นที่บริหารจัดการน้ำ อ.ไชยา เปิดงานมหกรรมว่าว ดันเป็น Soft power สร้างแรงดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวไทย-ต่างชาติ
10 ก.พ. 2566 – นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีกำหนดการปฏิบัติราชการในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ในวันจันทร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ 2566 ดังนี้
เวลาประมาณ 13.30 น. นายกรัฐมนตรีและคณะ ออกเดินทางออกจากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง กรุงเทพมหานคร ไปยังท่าอากาศยานทหารกองบิน 7 ตำบลมะลวน อำเภอพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยเครื่องบินของกองทัพอากาศ จากนั้น นายกรัฐมนตรีเดินทางต่อไปยังวัดพระบรมธาตุไชยาราชวรวิหาร ตำบลเวียง อำเภอไชยา เพื่อสักการะบูชาพระบรมธาตุไชยา นมัสการพระครูพิทักษ์เจติยานุกูล เจ้าคณะอำเภอไชยา รักษาการเจ้าอาวาสวัดพระบรมธาตุไชยาราชวรวิหาร
เสร็จแล้ว นายกรัฐมนตรีเดินทางไปที่ว่าการอำเภอไชยา เขตเทศบาลตำบลตลาดไชยา เพื่อตรวจติดตามการบริหารจัดการน้ำ การแก้ไขปัญหาอุทกภัยพื้นที่อำเภอไชยา และปัญหาที่ดินทำกิน โดยนายกรัฐมนตรีจะตรวจเยี่ยมบริเวณน้ำท่วมหน้าอำเภอไชยา ซึ่งเป็นพื้นที่ราบลุ่มรับน้ำจากตำบลเวียง ก่อนออกสู่ทะเล และประสบปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากมาโดยตลอด และเป็นประธานสักขีพยานการมอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน (ส.ป.ก. 4-01) ได้แก่ เขตปฏิรูปที่ดินโครงการป่าชนะ อำเภอไชยา และเขตปฏิรูปที่ดินโครงการป่าใสท้อนและป่าคลองโซง อำเภอชัยบุรี พร้อมพบปะกับประชาชนผู้ได้รับความเดือดร้อนด้วย
จากนั้นเวลาประมาณ 18.00 น. นายกรัฐมนตรีจะเป็นประธานเปิดงานมหกรรมว่าวสุราษฎร์ธานี (Suratthani Kite Festival) ณ บริเวณหาดนายอำเภอ อำเภอไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยนายกรัฐมนตรีและคณะ จะเดินทางกลับถึงท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง กรุงเทพมหานคร ในเวลาประมาณ 21.00 น. ทั้งนี้ กำหนดการอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามความเหมาะสม
“การลงพื้นที่ในครั้งนี้ นายกรัฐมนตรีต้องการไปตรวจติดตามการบริหารจัดการน้ำ การแก้ไขปัญหาอุทกภัยพื้นที่อำเภอไชยา และปัญหาที่ดินทำกิน รวมทั้งส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดสุราษฎร์ธานี รวมถึงศิลปวัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่น โดยใช้พระเพณีการเล่นว่าวของจังหวัดสุราษฎร์ธานีเป็นสื่อกลางในการประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยว และของดีจังหวัดสุราษฎร์ธานีให้เป็นที่รู้จัก หวังให้เป็น Soft power สร้างแรงดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ให้เข้ามาท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น และเพื่อส่งเสริมกระตุ้นเศรษฐกิจให้กับชุมชน ท้องถิ่น และจังหวัดสุราษฎร์ธานี” นายอนุชา ระบุ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
นายกฯ อิ๊งค์บอกข่าวดี! เมียนมาจะปล่อย 4 คนไทยหลังปีใหม่
นายกฯ เผยข่าวดีปม 4 คนไทยเรียบร้อยหลังปีใหม่ ส่วนเรื่องคดีความต้องคุยกันต่อ
ท้านายกฯอิ๊งค์ ถ้าให้เกียรติสภา ควรมาตอบกระทู้สดผู้นำฝ่ายค้าน
'ปธ.วิปค้าน' ลั่น 'หัวหน้าเท้ง' ถามกระทู้สดนายกฯ แน่นอน ข้องใจทำไมต้องแถลงผลงานวันเดียวกัน ทั้งที่รู้ล่วงหน้าแล้ว เหน็บ 'อิ๊งค์' ถ้าเห็นความสำคัญสภา สะดวกตอบสัปดาห์ไหนก็พร้อมเสมอ
นายกฯ อิ๊งค์รับลางานไปสัมมนาพรรคที่หัวหิน!
'นายกฯอิ๊งค์' เผยลางานร่วมสัมมนาเพื่อไทย 13 ธ.ค.นี้
‘นายกฯอิ๊งค์’ ไม่ได้ไปงานวันต่อต้านคอร์รัปชันสากล ส่ง ‘ชูศักดิ์’ เปิดงานแทน
‘นายกฯอิ๊งค์’ มอบ ‘ชูศักดิ์’ เปิดงานวันต่อต้านคอร์รัปชันสากล ยัน ให้ความสำคัญปราบโกง ลั่น พร้อมผลักดักกม.สกัดซื้อตําแหน่ง-เรียกรับสินบน
ลงถนนมาเป็นพันเท่า! ‘สนธิ’ นำมวลชน ยื่น 6 ข้อ จี้นายกฯอิ๊งค์ เลิก MOU44 ขีดเส้น 15 วัน
‘สนธิ’ นำมวลชน ยื่นหนังสือ นายกฯอิ๊งค์ เรียกร้อง 6 ข้อยกเลิก เอ็มโอยู 44 ให้เวลา 15 วันจะทวงถามคำตอบ อุบวันนัดรวมพลลงถนน ชี้ขอทำตามขั้นตอน ลั่นออกมาสู้ครั้งนี้ต้องชนะ
กระตุกจิตสำนึก 'นายกฯอิ๊งค์' อย่าทำตัวเป็นคุณหนู จนไม่สัมผัสความเดือดร้อน ปชช.
ขอให้นางสาวแพรทองธาร เอาเยี่ยงอย่างนายเศรษฐา อย่าทำตัวเป็นคุณหนูจนไม่ยอมสัมผัสความเดือดร้อนของประชาชน ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเป็นข้าราชการทางการเมือง ไม่ใช่ข้าราชการประจำ ที่ต้องหยุดทำงานในวันเสาร์อาทิตย์