'วิษณุ' โผล่วิเคราะห์การเมืองรับอยากเห็นรัฐบาลเสียงข้างมาก!

'วิษณุ' ชี้โพลมีส่วนทำกระแสเปลี่ยน ระบุ ที่ผ่านมาไม่มีใครจับขั้วก่อนเห็นตัวเลขผลเลือกตั้ง พูดก่อนเอาแน่เอานอนไม่ได้ รับอยากเห็นรัฐบาลเสียงข้างมากตั้งแต่ต้น

03 พ.ค.2566 - นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการหาเสียงในช่วงโค้งสุดท้ายที่เริ่มดุเดือดมากขึ้น ว่าเป็นธรรมดาของการหาเสียงเลือกตั้งที่เหมือนทุกๆ ครั้งที่ผ่านมา เมื่องวดเข้ามาต่างต้องพยายามที่จะทำอย่างไรให้ผู้คนจำเบอร์ให้ได้ จำชื่อให้ได้ ซึ่งคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ก็รู้อย่างนี้จึงได้มีกฎหมายห้ามทำโพลก่อนวันเลือกตั้งช่วงโค้งสุดท้าย เนื่องจากจะมีผล เป็นธรรมดาที่อาจจะดุเดือดรุนแรงหน่อย อย่างไรก็ตาม โพลต่างๆ จะมีส่วนทำให้กระแสเปลี่ยนหรือไม่นั้น เชื่อว่าคงมีส่วน

ผู้สื่อข่าวถามว่า หวั่นใจอะไรหรือไม่ หลังโพลให้พรรคการเมืองที่ไม่ได้เป็นพรรครัฐบาลขณะนี้นำลิ่ว นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่หวั่น ไม่เกรง เพราะไม่ใช่เรื่องของตนเอง เป็นเรื่องของโพล เรื่องของประชาชน และโพลมีหลายโพล ทั้งเอกชน องค์กรของรัฐ ซึ่งไม่ทราบว่าอันไหนถูก อันไหนผิด อันไหนตรงหรือไม่ หรือเป็นเช่นนั้นหรือไม่

เมื่อถามว่า ขณะนี้มีการพูดถึงขั้วทางการเมืองบ้างแล้ว นายวิษณุ กล่าวว่า ปกติเขาจะไม่พูดกันก่อนวันเลือกตั้ง แต่ในคืนวันเลือกตั้งที่ผลออกแล้วเขาถึงจะพูดกัน และเมื่อพูดแล้วมันยังไม่แน่นอน เราเห็นการจัดตั้งรัฐบาลหลายครั้งมาแล้วที่ทำท่าว่าขั้วจะออกมาอย่างนี้ แต่ยังไม่ได้มีการประกาศผลเลือกตั้งออกมาอย่างเป็นทางการ เพียงแต่พอรู้บ้างแล้ว เช่น เมื่อเลือกตั้งเมื่อวันที่ 23 มี.ค.2562 พอเช้าวันที่ 24 มี.ค.2562 เมื่อรู้คะแนนเราจึงได้เห็นการจับขั้วกันเกิดขึ้นอย่างหนึ่ง แต่เมื่อถึงเวลาเอาเข้าจริง ทิ้งเวลาไปอีก 1-2 เดือน กว่าจะประกาศผลการเลือกตั้งออกมาเป็นทางการ ขั้วรัฐบาลก็เปลี่ยนแปลงไป ฉะนั้น เอาแน่เอานอนไม่ได้ แต่แค่รู้คร่าวๆ พอรู้ได้หลังปิดหีบ 24 ชั่วโมง แต่ยังปักใจไม่ได้ การเมืองก็เป็นอย่างนี้ เป็นเรื่องธรรมดา

ถามอีกว่า หากผลเลือกตั้งออกมาคะแนนสูสีแต่เลือกนายกรัฐมนตรี และตั้งรัฐบาลยังไม่ได้ จะเกิดสุญญากาศหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ในที่สุดต้องหาทางตั้งให้ได้ เพราะในรัฐธรรมนูญกำหนด ตามมาตรา 270 ว่าให้ทำอย่างไร ไม่เกิดสุญญากาศแน่ เพียงแต่อาจจะช้าหน่อยเท่านั้น อย่างไรก็ตาม อย่างแรกที่จะต้องทำคือ เลือกประธานสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งไม่ค่อยพลิกโผ เมื่อได้ประธานสภาแล้ว จะมีการจับขั้วกัน นั่นค่อยว่ากันอีกที นอกจากนี้ หลังปิดหีบเลือกตั้ง กกต.ยังมีเวลาที่จะประกาศผลภายใน 60 วัน ไทม์ไลน์เป็นแบบนี้ แต่ตอบไม่ถูกว่าจะได้เห็นรูปร่างหน้าตารัฐบาลใหม่เมื่อไหร่ เพราะผลยังไม่ออก คะแนนยังไม่ได้ อะไรก็ยังไม่รู้เลย และในรัฐธรรมนูญไม่ได้กำหนดว่าต้องหานายกฯได้ภายในกี่วัน แต่ในที่สุดต้องเลือกกันจนได้ ทั้งนี้ แม้จะยังไม่ได้รัฐบาลใหม่ แต่จะไม่เกิดสุญญากาศและไม่เกิดเดดล็อกแน่นอน เพราะในรัฐธรรมนูญมาตรา 169 ให้รัฐบาลรักษาการทำอะไรได้หลายเรื่อง เช่น ขอใช้งบกลางก็ได้

เมื่อถามว่า มีความเป็นห่วง กกต.หรือไม่ เนื่องจากถูกโจมตีหนักในช่วงนี้ จนต้องออกมาแถลงชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อปกป้องตัวเอง นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ทราบว่ามีเรื่องอะไร ไม่ได้ติดตามข่าว

ถามอีกว่ากรณีที่มีข่าวว่ามี 2 ราย ขุดเรื่องสูตรคำนวณเลือกตั้งเมื่อปี 62 ขึ้นมา ซึ่ง กกต.กำลังจับตาอยู่ นายวิษณุ กล่าวว่า เห็นจากข่าวว่าจะมีจำเลย 2 คน ขอให้ไปถาม กกต.เอาเอง เขาอุตส่าห์บอกมานิดหน่อยแล้ว แต่เรื่องอะไรตนเองไม่รู้

เมื่อถามว่า ถ้าผลการเลือกตั้งออกมาคล้ายกับเมื่อปี 2562 จะทำให้เกิดความวุ่นวายหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่รู้คะแนนเลยแม้แต่พรรคเดียว เอาไว้รอดูวันที่ 15 หรือ 16 พ.ค. แล้วมาค่อยวิเคราะห์ผลกันว่ามันจะออกมาในสูตรไหน อย่างไร

ถามอีกว่าส่วนตัวคิดว่าจะเกิดรัฐบาลเสียงข้างน้อยหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า เห็นทุกพรรคการเมืองพร้อมใจกันพูดว่าจะไม่ให้เกิดไม่ใช่หรือ แต่โดยมากแล้วรัฐบาลเสียงข้างน้อยนั้นไม่ควรจะตั้ง แต่ถ้าหนีไม่พ้นแล้วจำเป็นต้องตั้งก็จะเป็นเสียงข้างน้อยอยู่ไม่กี่วันและจะเป็นเสียงข้างมากขึ้นมาเอง คงไม่อยู่ไปถึงขนาดไปเจอกฎหมายงบประมาณ

“คงไม่เป็นเหมือนปี 18 รัฐบาลของ ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช ซึ่งตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย ตอนนั้นหวังว่าตั้งขึ้นเสร็จแล้วจะเป็นแม่เหล็กดึงดูดให้พรรคเล็กตามเข้ามา โดยสูตรการจัดตั้งรัฐบาลเป็นเช่นนั้นจริง พรรคไหนที่บอกว่าไม่เอา ไม่อยู่ ไม่ร่วม แต่พอดูแล้วทำท่าว่ามีคนอื่นเป็นแกนนำก็จะดึงเข้าไป การต่อรองก็จะเกิดขึ้น แต่เมื่อปี 18 นั้น เสียงข้างน้อยอยู่ได้ไม่นาน เพราะรัฐธรรมนูญขณะนั้นกำหนดว่ารัฐบาลขณะนั้นต้องแถลงนโยบาย เมื่อแถลงนโยบายเสร็จแล้วให้ลงมติได้ว่าไว้ใจนโยบายหรือไม่ ถ้าไม่ไว้ใจให้คว่ำได้เลย ฉะนั้น ไม่มีเวลาที่จะเป็นแม่เหล็กกดึงดูด แต่ถ้ามีการแถลงนโยบายโดยไม่มีการลงมติ ตอนนั้นไม่มีใครคว่ำรัฐบาลได้ จะคว่ำอีกทีต้องไปเข้าชื่อเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ กว่าจะถึงวันนั้น แม่เหล็กมันแสดงฤทธิ์ และที่ผมพูดมานี้เป็นเรื่องปกติ ไม่ใช่ว่าไปคาดหมายอะไรทั้งสิ้น เราไม่อยากเห็นเหตุการณ์อย่างนี้ อยากเห็นรัฐบาลข้างมากตั้งแต่ต้นมากกว่า”นายวิษณุ กล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'เพื่อไทย' จ่อเคลียร์ใจ 'ปานปรีย์' ชวนนั่งกุนซือพรรค ไม่รู้ 'นพดล' เสียบแทน

'เลขาฯ เพื่อไทย' รับต้องคุย 'ปานปรีย์' หลังไขก๊อกพ้น รมว.ต่างประเทศ แย้มชงนั่งที่ปรึกษาพรรค มั่นใจไม่เกิดแรงกระเพื่อม ปัดวางตัว 'นพดล' เสียบแทน ชี้ 'ชลน่าน-ไชยา' หน้าที่หลักยังเป็น สส.

พท. จัดใหญ่! '10 เดือนที่ไม่รอ ทำต่อให้เต็ม 10' ตีปี๊บผลงาน 'รัฐบาลเศรษฐา'

'เพื่อไทย' เตรียมจัดงาน '10 เดือนที่ไม่รอ ทำต่อให้เต็ม 10' สรุปผลงาน 'รัฐบาลเศรษฐา' 3 พ.ค.นี้ เดินหน้าเติมนโยบายที่สัญญาไว้กับประชาชน พร้อมเปิดตัวผู้สมัครนายก อบจ.

‘เศรษฐา’ แจงยิบปรับครม. ขอโทษ ‘ปานปรีย์’ ทำให้ไม่สบายใจ บอกมีคนแทนในใจแล้ว

‘เศรษฐา’ เผย ส่งข้อความผ่านกลุ่มงานต่างประเทศขอโทษ ‘ปานปรีย์’ ถ้าทำให้ไม่สบายใจ บอกได้คุยกันก่อนปรับ ครม.แล้ว ชี้มีทั้งคนสมหวัง-ผิดหวัง พร้อมรับผิดชอบ แย้มมองหาคนใหม่ตั้งแต่เมื่อคืน ดีกรี การทูต-การเมือง ทำงานเบื้องหลัง’เพื่อไทย’ มานาน