
ผู้สมัครส.ส.พปชร. แจ้งความดำเนินคดี ว่าที่ ส.ส.พรรคภูมิใจไทย ร่วมกับผู้ติดตาม ทำร้ายร่างกายและจิตใจ พร้อมเอาเรื่องถึงที่สุด
11มิ.ย.2566 - นางจันทร์เพ็ญ ประเสริฐศรี อดีตผู้สมัคร ส.ส. พรรคพลังประชารัฐ เขต 2 จ. อำนาจเจริญ เปิดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนประจำจังหวัดอำนาจเจริญ ณ สำนักงานพรรค บ.หนองคลอง ต. โคกกลาง อ. ลืออำนาจ จ. อำนาจเจริญ ว่า สาเหตุที่ออกมาแถลงข่าวในครั้งนี้เนื่องจากเมื่อเวลา 17.00 น. ของ วันที่ 6 มิ.ย. 66 ที่ผ่านมาตนได้รับเชิญจาก นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลเสนางคนิคมให้ไปร่วมงานเปิดและปิดการแข่งขันกีฬา เทศบาลฯ ณ สนามกีฬาโรงเรียนอนุบาลเสนางคนิคม ซึ่งมีแขกและนักกีฬามาร่วมงานเป็นจำนวนมาก
นางจันทร์เพ็ญ กล่าวว่า ขณะตนได้มาถึงกองอำนวยการการจัดงานตนได้รับเชิญไปนั่งร่วมโต๊ะนายกเทศมนตรีฯ และแขกอื่นๆ ที่มาร่วมงาน จากนั้นตนได้เดินออกไปเพื่อส่งแขกที่รู้จักและทักทายผู้มาร่วมงาน พอกลับเข้ามามี นางญาณีนาถ เข็มนาค ว่าที่ สส.พรรคภูมิใจไทย เขต 2 มานั่งที่ปะรำพิธี ตนจึงได้ทักทายถามข่าวคราวตามปกติและขอร่วมถ่ายรูปกับว่าที่ สส. แต่แทนที่จะได้รับการตอบรับ นางญาณีนาถได้กล่าวว่า พี่จะถ่ายรูปไปร้อง กกต.ใช่ไหม พี่ร้อง กกต.ใช่ไหม ย้ำหลายครั้ง ตนได้ปฏิเสธไป
แต่นางญาณีนาถ ยังกล่าวย้ำด้วยสีหน้าและท่าทางที่ไม่พอใจ พร้อมกล่าวด้วยน้ำเสียงและแสดงสีหน้าเย้ยหยัน ว่า นางญานีนาถ ได้คะแนนถึง 4 หมื่นกว่า ตนได้คะแนนแค่หมื่นกว่า ควรจะให้มันจบๆ กันไป จะมาร้องทำไม ตนจึงได้กล่าวว่า หากพี่จะร้องก็เป็นสิทธิ์ตามกฏหมายของพี่ ทำให้นางญาณีนาถ ยิ่งโกรธลุกขึ้นยืนชี้หน้าตนและเดินเข้ามาแสดงท่าทีที่เข้าใจได้ว่าจะทำร้าย ตนจึงได้ก้าวถอยหลังด้วยความตกใจและหวาดกลัวท่ามกลางสายตาของผู้มาร่วมงานเป็นจำนวนมาก
นางจันทร์เพ็ญ กล่าวต่อว่า ระหว่างนั้นมีคนเข้ามากันตัว นางญานีนาถออกไป ในขณะเดียวกันได้มี ชายหญิง 2 คนทราบชื่อต่อมา คือ นางฐิติภัทรา คณาโรจน์ ผู้ติดตาม นางญานีนาถและ นายณัฐวุฒิ สิงห์จันทร์ รองนายก อบจ.อำนาจเจริญ (ทีมงานนางญานีนาถ) เข้ามาร่วมกันกระชากแขนซ้ายและไหล่ขวาของตน อย่างแรง จนทำให้ตนล้มหงายหลังกระแทกเก้าอี้และโต๊ะปะรำพิธี จนได้รับบาดเจ็บหลายจุด พบว่าข้อมือซ้าย มีรอยแผลยาว ไหล่ขวา เข่า ซ้าย-ขวา บั้นเอว มีรอยฟกซ้ำ (ซึ่งนางจันทร์เพ็ญ อายุ 65 ปี และมีภาวะกระดูกพรุน หมอได้กำชับให้เดินอย่างระมัดระวังและอย่าหกล้ม )
อดีตผู้สมัครส.ส.พรรคพลังประชารัฐ กล่าวอีกว่า หลังจากเสร็จสิ้นพิธีปิดงานกีฬา ตนเห็นว่าการกระทำของนางญาณีนาถร่วมกับพวกปฎิบัติต่อตนอย่างอุกอาจและตนรับไม่ได้ อีกทั้งตนก็มีหน้าตา มีตำแหน่งและชื่อเสียงในสังคม มีธุรกิจมั่นคงเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างอีกต่อไป ทั้งนี้ได้เข้าพบแพทย์ตรวจร่างกาย จากนั้นตนเข้าแจ้งความต่อ ร.ต.อ.สุรไชย ไวยะเลิศ พนักงานสอบสวน สภ.เสนางคนิคม ในข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายจนได้รับอันตรายแก่ร่างกายและจิตใจ โดยการขู่เข็นดูหมิ่นเหยีดหยามผู้อื่น และตนจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
นางจันทร์เพ็ญ ยังได้กล่าวอีกว่า สำหรับ นายณัฐวุฒิ เคยมีคดีความ ทำร้ายร่างกายตนมาก่อนในปี 2561 ตามคำพิพากษาของศาลคดีหมายเลขดำที่ อ659/2562 หมายเลขคดีแดงที่ อ659/2562 ลงวันที่ 29 เมษายน 2562 นายณัฐวุฒิรับสารภาพและศาลพิพากษาว่าจำเลยมีความผิด แต่ก็ยังไม่สำนึกและมาก่อเหตุซ้ำอีก
ผู้สื่อข่าวได้พยายามโทรศัพท์ถึงนางญาณีนาถ เพื่อจะสอบถามถึงข้อเท็จจริงเรื่องที่เกิดขึ้นหลายครั้งแต่ไม่มีผู้รับสาย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'อนุทิน' สวน พท. ใครทำงานห่วย ยุครัฐบาลนิด-อิ๊งค์ ติดโพลอันดับ 2
'อนุทิน' สวนเพื่อไทย ถ้าทำงานห่วย คนตั้งก็แย่สิ ยุครัฐบาล 'อิ๊งค์ - เศรษฐา' ผลโพลชี้ชัดนั่งแท่นอันดับ 2 ทิ้งห่าง พท. หัวเราะให้คะแนนตัวเอง 'เดี๋ยวจะหาว่าคุย'
รู้จักน้อยไปจริง! กระทุ้ง 'อนุทิน' เผยตัวตนให้มากขึ้น
นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต สส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า หรือเรารู้จักท่านนายกรัฐมนตรีน้อยไปจริงๆ
สส.บริจาคภัยพิบัติเต็มที่ ท้องถิ่นระวังช่วง180วัน!
กกต.ไฟเขียวบริจาคช่วยภัยพิบัติ สส.-สมาชิกพรรค ทำได้เต็มที่ไม่เกินครั้งละ 3 แสนบาท
กกต.ขยับรับสมัครอบต.ใต้เป็น 8-12 ธ.ค. เหตุอุทกภัยกระทบหลายจังหวัด
กกต.ปรับรอบรับสมัครเฉพาะ 5 จังหวัดน้ำท่วม ส่วนจำนวน อบต.ทั่วประเทศลดเหลือ 4,985 แห่งจากการยกฐานะเป็นเทศบาล ต้องแบ่งเขตใหม่ก่อนจัดเลือกตั้งช่วงเมษายน 2569 หลายพื้นที่เปิดรับสมัครวันแรกคึกคัก
‘สุรเดช’ รับคำสั่ง ‘ลุงป้อม’ คุมภาคเหนือ ลั่นสู้ศึกเลือกตั้งด้วยผู้สมัครเกรด A
นายสุรเดช ยะสวัสดิ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังได้รับมอบหมายให้ดูแลพื้นที่ภาคเหนือว่า ตนได้รับมอบหมายจากพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ให้ดูแล
กกต. แจงนักการเมือง-พรรค บริจาคช่วยน้ำท่วมได้เต็มที่ แต่ระดับท้องถิ่นต้องระวังช่วง 180 วันก่อนครบวาระ
กกต. ชี้ "บริจาคช่วยภัยพิบัติ" สส.-สมาชิกพรรคทำได้เต็มที่ไม่เกินครั้งละ 3 แสนบาท แต่จะบริจาคกี่ครั้งก็ได้ ส่วนพรรคการเมืองไม่เกิน 3 ล้านบาทต่อเหตุการณ์ ย้ำโปร่งใส–โฆษณาได้


