ไขความกระจ่าง การออกแบบนายกรัฐมนตรีของไทย

แฟ้มภาพ

“สังศิต” แจงยิบ ความเข้าใจการออกแบบนายกรัฐมนตรีของไทย ชี้ชัดระบบการได้มาขเป็นเรื่องของ “การเมือง” ใน “ระบบรัฐสภา”  ซึ่งไม่ใช่การเลือกนายกรัฐมนตรีโดยตรงจากประชาชน

16 ก.ค.2566 – นายสังศิต พิริยะรังสรรค์ วุฒิสมาชิกและประธานคณะกรรมาธิการการแก้ปัญหาความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำวุฒิสภา  ระบุเรื่อง  การออกแบบนายกรัฐมนตรีของไทย ว่า การออกแบบรัฐธรรมนูญของแต่ละประเทศเป็นหลักสำคัญที่สุดใน กระบวนการเลือกผู้นำฝ่ายบริหารที่มีความชอบธรรมของแต่ละประเทศ

นายสังศิต ระบุว่า ในประเทศสหรัฐอเมริกา การเลือกตั้งประธานาธิบดี และผู้มีสิทธิ์ที่จะได้เป็นประธานาธิบดีไม่ได้มาจากคะแนนนิยมเสียงส่วนใหญ่ของประชาชนที่ลงคะแนนให้ (popular vote) แต่มาจากจำนวนคะแนนเสียง ของผู้แทนรัฐที่ลงคะแนนให้แก่ประธานาธิบดี (electoral vote ) ในการเลือกตั้งหลายครั้งพบว่าผู้ที่ได้รับการเลือกเป็นประธานาธิบดีของ สหรัฐอเมริกาเป็นผู้ที่ได้รับ electoral vote มากกว่า แต่กลับได้รับคะแนนนิยมจากประชาชน ( popular vote) น้อยกว่าคู่แข่งขัน ที่ลงสมัครเป็นประธานาธิบดีเสียอีก ตัวอย่างเช่นนายโดนัลด์ ทรัมป์ได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีโดยชนะนางฮิลลารี คลินตัน จากการได้รับ electoral vote มากกว่า นางคลินตัน ถึงแม้เขาจะได้รับคะแนนนิยมในการเลือกตั้งต่ำกว่าก็ตาม

 นี่เป็น กฎกติกาของระบบประชาธิปไตยที่ถูกออกแบบมาสำหรับการเลือกประธานาธิบดีของประเทศสหรัฐอเมริกาโดยเฉพาะ

นายสังศิต ระบุว่า ประเทศที่เรียกระบอบการปกครองของตนเองว่า “ ประชาธิปไตย “ ไม่ว่าจะเป็นสหราชอาณาจักร สาธารณรัฐฝรั่งเศส หรือ เยอรมัน ต่างมีการออกแบบในการเลือกผู้นำสูงสุดในการบริหารประเทศแตกต่างกันทั้งสิ้น ประธานาธิบดีฝรั่งเศสได้มาจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชน ผู้สมัครรับการเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีคนใดที่ได้คะแนนนิยมจากประชาชนมากที่สุดจะได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดี ส่วนระบบของอังกฤษกับเยอรมันแตกต่างออกไป นายกรัฐมนตรีของอังกฤษและเยอรมันได้มาจากพรรคการเมือง ที่สามารถรวบรวมเสียงได้เกินกึ่งหนึ่งของสภา และไม่จำเป็นเสมอไปว่าพรรคการเมืองที่ได้รับการเลือกตั้ง ให้มีส.ส. มากที่สุดในสภาจะได้เป็นผู้จัดตั้งรัฐบาล และบ่อยครั้งก็เกิดปรากฏการเช่นว่านี้

นายสังศิต ระบุว่า สำหรับรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันของประเทศไทย ไม่ได้กำหนดว่าผู้นำ ของพรรคการเมืองที่ได้รับคะแนนนิยมจากประชาชนมากที่สุดในการเลือกตั้ง     ( popular vote) จะต้องได้รับการเลือกให้เป็นนายกรัฐมนตรีโดยอัตโนมัติ

“รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน” ของไทย กำหนดว่า นายกรัฐมนตรีจะได้มาจากการเลือกของ “ รัฐสภา” ซึ่งประกอบด้วยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจำนวน 500 ท่าน และวุฒิสมาชิกอีกจำนวน 250 ท่าน

นี่เป็นภารกิจของพรรคการเมืองในสภาผู้แทนราษฎรที่จะต้องไปบริหารจัดการกันเอง ในการรวบรวมพรรคการเมืองต่างๆและเสียงจาก วุฒิสมาชิกให้ได้เกินกึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกของรัฐสภา พรรคการเมืองใดที่สามารถดำเนินการได้ก็จะได้เป็นรัฐบาล และพรรคการเมืองที่มารวมกันเป็นรัฐบาลนั้นสามารถเลือกผู้นำของพรรคการเมืองที่มีเสียงข้างมากที่สุด หรือบุคคลใดก็ตามที่พรรคการเมืองเหล่านั้นเห็นร่วมกันให้เป็นนายกรัฐมนตรีก็ได้

ระบบการได้มาซึ่งนายกรัฐมนตรีของประเทศไทยจึงเป็นเรื่องของ ” การเมือง” ใน “ระบบรัฐสภา”  ซึ่งไม่ใช่การเลือกนายกรัฐมนตรีโดยตรงจากประชาชน

นายสังศิต กล่าวว่า ส่วนผู้ที่เห็นแย้งว่า “วุฒิสมาชิกไม่สมควรมีสิทธิ์เลือกนายกรัฐมนตรี”นั้น นี่เป็นเรื่องของ “รัฐธรรมนูญ” ซึ่งเป็น “กฎ กติกา” ที่กำหนดเอาไว้ก่อนที่จะมีวุฒิสมาชิก และพรรคการเมืองต่างๆ จึงเรียนมาเพื่อให้ท่านอาจารย์ทั้งหลายได้มาช่วยกันให้ความรู้ที่ถูกต้องแก่สังคมด้วย.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ก้าวไกลให้จับตาข้าว 10 ปีประมูลให้ 'นักโทษ-ทหารเกณฑ์'

'ครูจวง' หัวเราะนายกฯ จะชิมข้าว 10 ปี บอกอย่ากินแต่กับ เหน็บถ้า 7 วันยังสบายดีจะพิจารณาทานบ้าง ขอจับตาให้ดี หวั่นถูกประมูลให้ 'นักโทษ-ทหารเกณฑ์' ที่เลือกไม่ได้