ไอเดียรายวัน! นายกฯ เล็งใช้ที่ทหารแบ่งให้ประชาชนทำการเกษตร

'เศรษฐา' ชี้ความมั่นคงมีหลายมิติ พร้อมดึงทหารช่วยหลายด้าน เล็งประสานกรมพัสดุใช้ที่ทหารแบ่งประชาชนทำการเกษตร ยันไม่ใช่สร้างภาพ แต่เป็นเรื่องต้องทำ

14 ก.ย.2566 - นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีการประสานกับกระทรวงกลาโหม เพื่อมาดูแลเรื่องความมั่นคงเองใช่หรือไม่ ว่าเรื่องของความมั่นคงมีหลายมิติทั้งภายในและภายนอก เรื่องการปกป้องอธิปไตยของประเทศก็เป็นเรื่องสำคัญ เรื่องของภาวะภูมิรัฐศาสตร์ที่มีความร้อนแรง แต่หนักไปทางด้านการค้ามากกว่า ที่อาจจะครอบคลุมไปถึงเรื่องความมั่นคงและเรื่องอื่นได้ด้วย ตรงนี้ต้องดูให้ดี เพราะเราเป็นประเทศที่ไม่ใหญ่มาก แต่เรามีความภาคภูมิใจที่เราเป็นประเทศไทย เรามีเอกราชมาโดยตลอด แต่เราอยู่บนโลกที่มีความขัดแย้งสูง ดังนั้น การที่ตนจะเดินทางไปร่วมประชุมสหประชาชาติ ในวันที่ 18-23 ก.ย.นี้ ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งจะมีการพูดคุยกับผู้นำหลายประเทศ ตรงนี้เป็นความมั่นคงนอกประเทศ ความมั่นคงด้านการค้า

นายเศรษฐา กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องความมั่นคงภายในนั้น เราก็ต้องมีความพร้อม ซึ่งเรื่องฝ่ายความมั่นคงกับประชาชนก็เป็นสิ่งสำคัญ เพราะในอดีตอาจจะมีการพูดจากันที่รุนแรงไปนิดนึง ก็พยายามลดช่องว่างระหว่างสถาบันทหารกับประชาชน โดยให้มีการสื่อสารที่ดีขึ้น มีการทำกิจกรรมที่เป็นประโยชน์กับประชาชน เช่น การสมัครใจเกณฑ์ทหารเป็นบางส่วน ใช้พื้นที่ของกรมทหารที่ทำงานใกล้ชิดกับกระทรวงการคลังและกรมพัสดุมาให้ประชาชนทำการเกษตร หรือกระทั่ง การให้เจ้าหน้าที่ทหารมาช่วยเหลือในเรื่องภัยพิบัติ หรือดูแลน้ำท่วม ภัยแล้ง ตรงนี้มีหลายมิติที่ความมั่นคงสามารถทำได้ อยากจะใช้เวลาพูดคุยกัน และอะไรที่พร้อม ก็จะประกาศอีกทีหนึ่ง

เมื่อถามว่า เป็นการสร้างภาพเพื่อสร้างความเชื่อมั่นหรือไม่ เพราะนายกฯ ดูแลทั้งเรื่องของกระทรวงการคลังและความมั่นคง นายเศรษฐา กล่าวว่า ไม่เกี่ยวกับการสร้างภาพลักษณ์ แต่เป็นเรื่องที่สมควรทำ และเป็นเรื่องที่ประชาชนดูอยู่ เราต้องดูแลให้ครบทุกมิติ ถือว่าเป็นภารกิจที่หนักหน่วง แต่ก็เข้าใจว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำคัญ ก็ต้องทำต่อไป

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

นิด้าโพลชี้ประชาชนไม่เชื่อแก้ พ.ร.บ.กลาโหม จะหยุดรัฐประหารได้

ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลการสำรวจของประชาชน เรื่อง “หยุดรัฐประหาร!” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 22-23 เมษายน 2567 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้ ทั่วประเทศ

'เศรษฐา1/1'เศรษฐกิจ-การเมืองนำ เว้นระยะ'ความมั่นคง-กองทัพ'

โฉมหน้า “คณะรัฐมนตรีเศรษฐา 1/1” ที่ออกมา นอกจากจะเป็นการสับเปลี่ยนหมุนเวียนตัวบุคคลของพรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมรัฐบาลแล้ว เป้าหมายที่ฉายภาพชัดต่อทิศทางการบริหารงานของรัฐบาล

ส่องงบ 68 'กลาโหม' ปรับลดบุคลากร-ตัดกิจกรรมสร้างภาพลักษณ์ จัดซื้ออาวุธเพิ่มขึ้น

ภายหลังที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 18 เมษายนที่ผ่านมา ได้ผ่านความเห็นชอบ รายละเอียดงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 วงเงิน 3,752,700 ล้านบาท โดยเป็นการตั้งงบแบบขาดดุล เพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณ 2567