'ไทยภักดี' แถลงการณ์ค้านแจกเงินหมื่นดิจิทัล หวั่นอภิมหาโคตรโกงซ้ำรอยอดีต

6 ต.ค. 2566 – พรรคไทยภักดี ออกแถลงการณ์เรื่อง ขอคัดค้านนโยบายแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ของรัฐบาล โดยระบุว่า เนื่องจากรัฐบาลของนายเศรษฐา ทวีสิน มีนโยบายแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท แก่ประชาชนที่มีอายุตั้งแต่ 16 ปีขึ้นไป ซึ่งคาดการณ์ว่าจะต้องใช้เงินงบประมาณทั้งสิ้น 560,000 ล้านบาท ซึ่งก็มีหน่วยงานของรัฐ นักวิชาการ และประชาชนหลายภาคส่วนได้ออกมาคัดค้านนโยบายนี้ด้วยความเป็นห่วงว่าจะเป็นการสร้างภาระหนี้สาธารณะจำนวนมหาศาลให้กับประเทศ เป็นการทิ้งภาระให้กับลูกหลานในอนาคต ซึ่งพรรคไทยภักดีได้สดับรับฟังความคิดเห็นของพี่น้องประชาชนหลายภาคส่วน ทุกพื้นที่ของประเทศ ได้ข้อสรุปอันเป็นที่ประจักษ์ชัดเจน พรรคไทยภักดีจึงขอคัดค้านนโยบายแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ของรัฐบาล ด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้

1.นโยบายประชานิยมรูปแบบนี้ เป็นการทำลายวินัยทางการเงินของประชาชน ทำให้ประชาชนมุ่งหวังแต่เงินและผลประโยชน์ที่รัฐจะแจกให้ ไม่มุ่งมั่นในการประกอบอาชีพเพื่อยืนหยัดดำรงชีพด้วยตนเอง และที่สำคัญเป็นการทำลายวินัยทางการคลังของประเทศ ซึ่งได้สร้างความเสียหายร้ายแรงทางเศรษฐกิจให้กับประเทศต่างๆ ทั่วโลกมาแล้วอย่างเป็นที่ประจักษ์

2.พรรคไทยภักดีสนับสนุนข้อเสนอแนะของผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ที่แนะนำว่าภาวะเศรษฐกิจของประเทศไทย ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจซึ่งจะเป็นผลในระยะสั้นๆ แต่ควรเน้นให้ความสำคัญกับเสถียรภาพทางเศรษฐกิจซึ่งจะเป็นผลในระยะยาวมากกว่า มีความมั่นคงยั่งยืนกว่า

3.ข้อเท็จจริงในภาวะการคลังของประเทศไทยในปัจจุบัน รัฐบาลมีรายได้น้อยกว่ารายจ่ายของประเทศ รัฐบาลต้องทำงบประมาณแบบขาดดุลตลอดมา ในปีงบประมาณ พ.ศ.2567 ขาดดุล 593,000 ล้านบาท ซึ่งต้องกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณทั้งหมด ฉะนั้นการที่จะเพิ่มนโยบายแจกเงินดิจิทัล 10,000บาทแก่ประชาชน ใช้งบประมาณมหาศาลถึง 560,000 ล้านบาท จึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องกู้เงินจากสถาบันการเงิน ซึ่งจะเป็นการสร้างภาระหนี้สาธารณะให้กับประเทศ เป็นทิ้งภาระหนี้สินให้กับลูกหลานในอนาคต เป็นการทำลายหลักธรรมาภิบาลของประเทศ

4.โครงการที่ใช้งบประมาณมหาศาลในรูปแบบนี้ของรัฐบาลพรรคเพื่อไทยในอดีตที่ผ่านมาได้เคยสร้างปัญหาการทุจริตคอร์รัปชัน ซึ่งสร้างความเสียหายร้ายแรงให้กับประเทศ พรรคไทยภักดีจึงมีความเป็นห่วงกังวลว่า นโยบายดังกล่าวจะสร้างวิกฤตปัญหาการทุจริตคอร์รัปชัน เป็นอภิมหาโคตรโกงซ้ำรอยอดีตขึ้นมาอีก ซึ่งหนี้สินจากนโยบายจำนำข้าวรัฐบาลของพรรคเพื่อไทยในอดีตยังใช้หนี้ไม่หมดยังคงค้างอยู่นับแสนล้านบาท กลับจะกู้เงินมาแจกใหม่ถึง 560,000 ล้านบาท เป็นความไม่สมเหตุสมผล ไม่เป็นธรรมต่อประเทศและประชาชนอย่างยิ่ง

5.ต่อกรณีที่มีรัฐมนตรีท่านหนึ่ง ตอบคำถามผู้สื่อข่าว ถ้าหากโครงการนี้มีความเสียหาย ทุกฝ่ายรวมทั้งประชาชนต้องร่วมกันรับผิดชอบ เป็นการสะท้อนถึงวิธีคิดที่เอาแต่ได้ เพราะขณะนี้มีประชาชนจำนวนมากออกมาคัดค้านโครงการนี้ แต่รัฐบาลก็ยังดื้อดึงที่จะดำเนินแจกเงินต่อ ถ้าหากโครงการดังกล่าวมีผลกระทบ สร้างความเสียหายต่อประเทศชาติ รัฐบาลกล้าไหมที่จะให้ยึดทรัพย์นายกและรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง เพื่อมาชดใช้ความเสียหาย เพราะมีความไม่เป็นธรรมต่อประชาชน ที่จะต้องร่วมรับผิดชอบด้วย

พรรคไทยภักดีจึงขอคัดค้านนโยบายแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ของรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน อย่างถึงที่สุด.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ดร.รัชดา เชื่อถ้าใช้หลักตอบแทนนายใหญ่ ’นพดล’ เสียบเก้าอี้ ‘ปานปรีย์’ แน่

ดร.รัชดา อยากรู้รัฐมนตรีต่างประเทศคนใหม่ของรัฐบาลนี้จะเป็นใคร คนที่จะต้องเป็นหน้าเป็นตาของประเทศ สถานการณ์การเมืองในประเทศเพื่อนบ้านและการเมืองโลกตอนนี้

‘เด็กเศรษฐา’ ข้องใจ ‘ปานปรีย์’ ลาออกหลังมีพระบรมโองการ ชี้ไม่เคยมีใครทำ

ตกใจกับการตัดสินใจ ที่เกิดขึ้นหลังมีพระบรมราชโองการฯ ซึ่งไม่เคยมีใครกระทำแบบนี้มาก่อน เพราะมันไม่ได้หมายถึงการปฏิเสธตำแหน่งเพียงอย่างเดียว

เปิดใจ ‘ปานปรีย์’ ละเอียดยิบ เหตุยื่นหนังสือลาออก ’รมว.ต่างประเทศ’

'ปานปรีย์’ยอมรับขอลาออกจากรมว.กต. เหตุถูกปรับพ้นรองนายกฯ หวั่นไร้ตำแหน่งรองนายกฯพ่วงอาจทำงานไม่ราบรื่น เชื่อยังมีคนอื่นเหมาะสมมาทำงานแทนได้ อำลาทีมผู้บริหารกระทรวงฯแล้ว

‘หมอเชิด’ สะกิดเตือน ‘เศรษฐา’ หมอคุมยาก เปลี่ยนตัว ‘รมว.สธ.’ เกิดปัญหาแน่

‘หมอเชิด’ แนะ’เศรษฐา’ฟังเสียงสมาชิกพรรคเพื่อไทย ในฐานะคนที่ยกมือให้ด้วย พร้อมระบุหมอควบคุมยาก เปลี่ยนตัวรมว.สธ.เกิดปัญหาแน่

ยุ่งแน่! ‘เรืองไกร’ ร้อง ป.ป.ช. สอบ ครม.เห็นชอบดิจิทัลวอลเล็ต ฝ่าฝืนกม.หรือไม่

จากการติดตามโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet ที่คณะรัฐมนตรีพึ่งมีมติให้ความเห็นชอบไปเมื่อวันที่ 23 เม.ย. 67 นั้น

ด่วน! ‘ปานปรีย์’ ยื่นไขก๊อก ’รมว.ต่างประเทศ’ หลังหลุดเก้าอี้รองนายกฯ

นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รมว.ต่างประเทศ ส่งถึงนายกรัฐมนตรี เรื่องขอลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่าง