มท.สรุปยอดลงทะเบียนแก้หนี้นอกระบบ 2 วันแรกทะลุ 3.7 หมื่นราย มูลหนี้ 1.5 พันล้านบาท

ปลัด มท. เผยยอดประชาชนที่ลงทะเบียนแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ แล้ว 37,579 ราย มูลหนี้กว่า 1,528 ล้านบาท โดย กทม. มีผู้ลงทะเบียนมากสุด 2,496 ราย ย้ำทุกหน่วยงานในระดับพื้นที่เร่งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนลงทะเบียนเพื่อบูรณาการหาแนวทางช่วยเหลือต่อไป

3 ธ.ค. 2566 – นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยยอดสรุปจำนวนประชาชนที่ลงทะเบียนแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ ณ วันที่ 2 ธันวาคม 2566 เวลา 16.00 น. มีผู้ลงทะเบียนรวมทั้งสิ้น จำนวน 37,579 ราย แบ่งเป็นการลงทะเบียนผ่านระบบออนไลน์ 36,338 ราย และการลงทะเบียน ณ ศูนย์อำนวยการแก้ไขหนี้นอกระบบ 1,241 ราย รวมจำนวนเจ้าหนี้ 19,061 ราย มูลหนี้ 1,528.555 ล้านบาท โดยมีพื้นที่/จังหวัด 5 ลำดับแรก คือ 1. กรุงเทพมหานคร มีผู้ลงทะเบียน 2,496 ราย เจ้าหนี้ 1,493 ราย มูลหนี้ 131.889 ล้านบาท 2. จังหวัดสงขลา มีผู้ลงทะเบียน 1,610 ราย เจ้าหนี้ 794 ราย มูลหนี้ 72.36 ล้านบาท 3. จังหวัดนครศรีธรรมราช มีผู้ลงทะเบียน 1,489 ราย เจ้าหนี้ 826 ราย มูลหนี้ 49.758 ล้านบาท 4. จังหวัดนครราชสีมา มีผู้ลงทะเบียน 1,441 ราย เจ้าหนี้ 638 ราย มูลหนี้ 61.876 ล้านบาท 5. จังหวัดสมุทรปราการ มีผู้ลงทะเบียน 965 ราย เจ้าหนี้ 485 ราย มูลหนี้ 38.528 ล้านบาท

“พี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาหนี้นอกระบบยังคงสามารถลงทะเบียนเพื่อขอรับความช่วยเหลือจากภาครัฐ ผ่านระบบออนไลน์ https://debt.dopa.go.th หรือเดินทางไปลงทะเบียนด้วยตนเองที่ศูนย์อำนวยการแก้ไขหนี้นอกระบบ ณ ศาลากลางจังหวัด ที่ว่าการอำเภอ และสำนักงานเขตของกรุงเทพมหานครทุกแห่งทั่วประเทศ โดยสามารถขอรับคำปรึกษาและสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทางสายด่วนศูนย์ดำรงธรรม 1567″ นายสุทธิพงษ์ฯ กล่าวเพิ่มเติม
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวอีกว่า ปัญหาหนี้นอกระบบเป็นปัญหาที่เกี่ยวข้องกับปากท้องของพี่น้องประชาชน ประชาชนที่เป็นหนี้มีความจำเป็นต้องใช้เงินเพื่อดำรงชีวิตประจำวัน แต่กลับมีผู้ไม่ประสงค์ดีใช้วิกฤตมาเป็นโอกาสขูดรีดข่มเหงประชาชน อันเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายอย่างร้ายแรง ทั้งนี้ รัฐบาลภายใต้การนำของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี รวมถึงนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ ควบคู่กับการจัดระเบียบสังคมและปราบปรามผู้มีอิทธิพลให้ครอบคลุมประเด็นปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนเชิงรุกด้วยการบูรณาการความร่วมมือของทุกภาคส่วน

“ขอยืนยันกับพี่น้องประชาชนว่า ข้อมูลที่ท่านได้ลงทะเบียนจะถูกรักษาไว้เป็นความลับ โดยผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และคณะกรรมการหมู่บ้าน (กม.) จะบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันเฝ้าระวังสอดส่องบุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่มีพฤติการณ์เป็นผู้กระทำความผิด เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย โดยขอความร่วมมือให้พี่น้องประชาชนแจ้งข้อมูลที่เป็นจริง เพื่อเป็นสารตั้งต้นในการแก้ไขปัญหาอย่างถูกต้องและเป็นธรรมอย่างตรงจุดต่อไป” นายสุทธิพงษ์ฯ กล่าวในช่วงท้าย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'อนุทิน' รับลูกนายกฯ ทบทวนกฎห้ามขายเหล้าบ่าย 2-5 โมง เล็งแก้ พรบ. ปรับโซนนิ่งใหม่

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงนายกรัฐมนตรีสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องศึกษาเพิ่มเติมข้อเรียกร้องของภาคธุรกิจให้ยกเลิก การขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ช่วงเวลา 14.00 ถึง 17.00 น.

'ภูมิธรรม' เผยผลประชุม สมช.-กฟภ. จ่อตัดไฟครึ่งหนึ่ง ตั้งคณะทำงานร่วมไทย-เมียนมา

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานในพิธีวางพวงมาลาเนื่องในวันทหารผ่านศึก 3 กุมภาพันธ์ 2568

ลากยาว! สมช. ส่งข้อมูลมั่นคงให้ 'กฟภ.-มท.' ตั้งกก.ร่วมไทย-เมียนมา ก่อนชงตัดไฟ

สมช. สรุปข้อมูลด้านความมั่นคง เสนอ 'กฟภ. - มท.' พิจารณาตัดไฟ ควบคู่ตั้งกรรมการร่วม 2 ฝ่ายไทย-เมียนมา เช็กจุดมีปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ย้ำต้องมีหลักฐานชัดเจนก่อนชง ครม. ตัดไฟ

'กรมประชาสัมพันธ์' ประเดิมจับมือ 'มท.' สื่อสารข่าวสำคัญตรงสู่ชุมชน

‘จิราพร’ เผยกรมประชาสัมพันธ์จับมือมหาดไทย สื่อสารตรงสู่ชุมชนผ่านหอกระจายข่าวทั่วประเทศ ดีเดย์ 3 ก.พ. ประเดิมรณรงค์ ‘ห้ามเผา‘ ลด PM2.5

ปลัด มท. ย้ำตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์เมียนมา ต้องใช้ข้อมูลสภาความมั่นคงฯมาพิจารณา

นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย (มท.) และประธานคณะกรรมการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) เปิดเผยถึงกรณี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย ได้ลงนามหนังสือสอบถามไปยังสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.)

เอาแล้ว! มท.1 ร่อนหนังสือด่วนที่สุด บี้ สมช. ส่งข้อมูลแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ก่อนเคาะตัดไฟ 5 จุด

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.1) ทำหนังสือด่วนที่สุด ที่ มท0211.5/2022ถึง เลขาธิการสภา ความมั่นคงแห่งชาติ