'ชัยชนะ' ซัดถ้าได้ ‘เฉลิมชัย’ นั่งหัวหน้าปชป.แล้วลาออกถือว่ารักตัวเองไม่ใช่พรรค

’ชัยชนะ‘ ลั่น ถ้าได้ ‘เฉลิมชัย’ นั่ง ‘หัวหน้าปชป.’ แล้วลาออก ถือว่ารักตัวเอง ไม่ใช่พรรค เตรียมเดินสายปรึกษากับผู้ใหญ่-ชวนสมาชิกที่เคยลาออกให้กลับมา ปัดลือ ‘ย้ายไปขั้วรัฐบาล’ บอก นาทีนี้ เป็น ‘ฝ่ายค้าน’ ให้ดีที่สุด พร้อมตรวจสอบแชทหลุดล็อบบี้สกัด ’มาดามเดียร์‘

10 ธ.ค. 2566- เมื่อเวลา 10.00 น. ที่รัฐสภา นายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช และรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงกรณีที่มีไลน์กลุ่มประธานสาขาพรรค และตัวแทนสาขาพรรคซึ่งเป็นโหวตเตอร์หลุดว่อนโซเชียล ไม่ให้ยกมือยกเว้นข้อบังคับให้น.ส.วทันยา บุนนาค ประธานคณะทำงานนวัตกรรมการเมือง กทม.พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้สมัครชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรค ว่า ข้อเท็จจริง สส.ของพรรคส่วนใหญ่และตน ก็ยกมือให้ยกเว้นข้อบังคับให้มีการแข่งขัน และยินดีที่จะเปิดทางให้คนรุ่นใหม่ ส่วนโหวตเตอร์ที่เป็นตัวแทนสาขาพรรคก็แล้วแต่ว่าเขาจะโหวตไปในทิศทางใด สำหรับกรณีดังกล่าวนั้น ต้องไปดูว่าผู้ที่กระทำนั้นเป็นใครหากไม่ได้รับความเป็นธรรมก็ให้ร้องเรียนมา ยินดีที่จะตรวจสอบ และพิจารณาให้อยู่แล้ว

เมื่อถามว่า มองว่าเป็นการล็อบบี้กันก่อนโหวตหรือไม่ นายชัยชนะ กล่าวว่า สามารถมองกันได้แต่ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรก็ต้องว่ากัน แต่ตนไม่ทราบรายละเอียดว่าเป็นมาอย่างไร

เมื่อถามว่า ภายหลังได้หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนใหม่แล้ว มีสมาชิกหลายคนเตรียมลาออก ถือว่าเป็นประสบการณ์เลือดไหลซ้ำหรือไม่ นายชัยชนะ กล่าวว่า ผู้ที่บอกว่ารักประชาธิปัตย์นั้น พรรคประชาธิปัตย์เป็นองค์กร มีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งอีก 4 ปี ต้องมีการเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่ หากเรารักองค์กร ใครที่ขึ้นมาเป็นหัวหน้าพรรค เราก็พร้อมที่จะทำงานให้

“หากใครขึ้นมาเป็นหัวหน้าพรรคแล้วลาออก แปลว่าไม่ได้รักองค์กร เราต่อต้านผู้นำที่ขึ้นมา หากรักประชาธิปัตย์ เราก็ต้องยืนอยู่กับพรรค ช่วยกันฟื้นฟูพรรค ถ้ากรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ไม่ดี ถึงเวลา 4 ปี ก็สามารถเปลี่ยนแปลงได้ ผมเชื่อว่าทุกคนมีวุฒิภาวะในการตัดสินใจเลือกตั้งหัวหน้าพรรคคนใหม่อยู่แล้ว” นายชัยชนะ กล่าว

เมื่อถามว่า เป็นงานหนักของกรรมการบริหารพรรค ชุดใหม่หรือไม่ นายชัยชนะ กล่าวว่า ตนในฐานะ กรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ พร้อมที่จะรับ ทุกเสียง ทุกปัญหา รวมถึงทุกคำวิจารณ์ คำแนะนำ ที่นำไปสู่การแก้ปัญหา เพื่อให้พรรคมีเอกภาพ และกลับมาเป็นพรรคหลักได้เหมือนเดิม

“พรรคประชาธิปัตย์เดินทางเข้ามาสู่ปีที่ 78 เรามีทั้งจุดสูงสุด และต่ำสุด สิ่งหนึ่งที่เราบอกว่า มีเจตนาดีต่อพรรค เราต้องช่วยกันแสดงความคิดเห็น ผมคิดว่า นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าหัวหน้าประชาธิปัตย์คนใหม่ มาเพื่อแก้วิกฤต พวกเราขอร้องท่านมา ท่านก็รับฟังทุกปัญหา ซึ่งได้แถลงชัดเจนว่า ประชาธิปัตย์รับฟังทุกเสียง เราไม่ใช่พรรคอะไหร่ และเราจะทำหน้าที่ฝ่ายค้านอย่างเข้มแข็ง” นายชัยชนะ กล่าว

ส่วนเรื่องของนโยบายพรรค ต้องยอมรับว่า การเมืองขณะนี้ เป็นการแข่งขันกันทางความคิด เราต้องพร้อมรับฟังปัญหาของประชาชน

เมื่อถามว่า ได้มีการพูดคุยกับผู้ใหญ่หรือไม่ นายชัยชนะ กล่าวว่า “ต้องพูดคุยทุกคน เพราะทุกคนเป็นประชาธิปัตย์ ไม่มีฝ่าย อย่าคิดว่าเป็นฝ่ายนั้นฝ่ายนี้ วันนี้ลืมความหลัง และว่ากันในอนาคต ช่วยกันทำ ท่านหัวหน้าพรรค และพวกผม พร้อมคุยกับผู้ใหญ่ทุกคน หลังจากนี้จะเดินหน้าไปปรึกษาหารือกับผู้ใหญ่ แล้วไปเชิญชวนสมาชิกพรรคที่เคยลาออกให้กลับมาเป็นสมาชิกพรรคใหม่ ซึ่งนี่เป็นสิ่งที่เราต้องการ

เมื่อถามถึงกรณีที่นายสาธิต ปิตุเตชะ อดีต สส.ระยอง พรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่า ‘คนไม่มีสัจจะ จะไม่สามารถนำพรรคได้ในสถานการณ์เช่นนี้’ นายชัยชนะกล่าวว่า ก็เป็นเรื่องของนายสาธิตที่มีสิทธิ์ที่จะพูดว่ากล่าวได้ ซึ่งเราก็ยอมรับในคำพูดของทุกคน และตนคงไม่ไปโต้เถียงใคร วันนี้ไม่ใช่เวลาโต้เถียง เป็นเวลาที่เริ่มต้นการทำงานที่จะฟื้นฟูพรรค ส่วนใครจะติชมหรือตำหนิอย่างไรเราก็พร้อมรับฟัง เราฟังได้ อดทนได้ แต่สิ่งที่สำคัญเหนือคำพูดคือ ผลการเลือกตั้งข้างหน้าว่า กรรมการบริหารพรรคจะนำพาให้ได้ที่นั่งมากกว่าเดิมหรือไม่

เมื่อถามว่า หากสมาชิกพรรคหลายคนต่อต้าน จะนำไป สถานการณ์พรรคแตกหรือไม่ นายชัยชนะ กล่าวว่า ”ใครต่อต้านครับ สมาชิกทั้ง 25 คน ที่มีอยู่ตอนนี้ เสียง 23 คนรับได้ ส่วนตัวแทนสาขาพรรค เสียงส่วนใหญ่ก็เลือกมา แล้วคนที่ลาออกรักพรรค หรือรักตัวเอง หากรักพรรคต้องสามารถทำงานได้กับทุกคนที่ขึ้นมาเป็นหัวหน้าพรรค หากเมื่อวานนี้ ท่านเฉลิมชัยไม่ได้เป็นหัวหน้าพรรค ผมก็พร้อมทำงานให้พรรคและไม่ลาออก แต่หากผมลาออกถือว่าผมรักตัวเอง“

เมื่อถามว่า พร้อมที่จะทำงานเป็นฝ่ายค้านหรือไม่ เพราะมีกระแสข่าวว่า พร้อมจะพลิกขั้วไปร่วมรัฐบาล เนื่องจากในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีที่ผ่านมา เคยมีการยกมือสนับสนุนนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายชัยชนะ กล่าวว่า การโหวตเรื่องนายกรัฐมนตรี ตนพูดชัดเจนว่า เป็นการหาทางออกให้ประเทศ และเราเป็นฝ่ายค้าน เราไม่ได้บอกว่า โหวตเพื่อเป็นรัฐบาล ซึ่งตนเป็นหนึ่งใน 16 คนที่โหวตให้นายเศรษฐา และหลังจากวันโหวตนายกรัฐมนตรี ต้องดูว่าตนทำงานตรวจสอบ และออกไปอภิปรายนายเศรษฐาหรือไม่ ขณะนี้เราก็เป็นฝ่ายค้านอยู่

“ส่วนที่มีข่าวว่าจะไปร่วมรัฐบาลนั้น นั่นคือใครพูดครับ มีจุดประสงค์ดีกับพรรคหรือไม่ ที่มาพูดเช่นนี้ พรุ่งนี้ตื่นมาจะหายใจหรือไม่ ยังไม่รู้เลยว่าจะร่วม อย่าไปคาดหวังอนาคตว่า จะร่วมรัฐบาลหรือไม่ เพราะนั่นเป็นเรื่องของอนาคต แต่นาทีนี้ เราเป็นฝ่ายค้านก็ต้องทำให้ดีที่สุด” นายชัยชนะ กล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'เพื่อไทย' จ่อเคลียร์ใจ 'ปานปรีย์' ชวนนั่งกุนซือพรรค ไม่รู้ 'นพดล' เสียบแทน

'เลขาฯ เพื่อไทย' รับต้องคุย 'ปานปรีย์' หลังไขก๊อกพ้น รมว.ต่างประเทศ แย้มชงนั่งที่ปรึกษาพรรค มั่นใจไม่เกิดแรงกระเพื่อม ปัดวางตัว 'นพดล' เสียบแทน ชี้ 'ชลน่าน-ไชยา' หน้าที่หลักยังเป็น สส.

‘หมอธีระวัฒน์’ แจง 5 เหตุผลสำคัญ ลาออกจาก หน.ศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่

วันที่ 30 เมษายน 2567 เป็นวันสุดท้ายในฐานะหัวหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์สภากาชาดไทย

‘เด็กเศรษฐา’ ข้องใจ ‘ปานปรีย์’ ลาออกหลังมีพระบรมโองการ ชี้ไม่เคยมีใครทำ

ตกใจกับการตัดสินใจ ที่เกิดขึ้นหลังมีพระบรมราชโองการฯ ซึ่งไม่เคยมีใครกระทำแบบนี้มาก่อน เพราะมันไม่ได้หมายถึงการปฏิเสธตำแหน่งเพียงอย่างเดียว

ด่วน! ‘ปานปรีย์’ ยื่นไขก๊อก ’รมว.ต่างประเทศ’ หลังหลุดเก้าอี้รองนายกฯ

นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รมว.ต่างประเทศ ส่งถึงนายกรัฐมนตรี เรื่องขอลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่าง