'วุฒิสภา' ลุยตั้ง กมธ.งบฯ 67 ทำงานคู่ขนานกับ สส.

‘พล.อ.เลิศรัตน์’ เผยวุฒิสภาตั้ง กมธ.งบฯ 67 ทำงานคู่ขนานกับ สส. เหตุกระบวนการล่าช้า เริ่มนัดแรก 15 ม.ค. รอฟังรัฐบาลแจงคำตอบกฤษฎีกาปม ‘เงินดิจิทัล’ บี้ทบทวน

8 ม.ค. 2567 – ที่รัฐสภา พล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช สมาชิกวุฒิสภา (สว.) เปิดเผยว่า เนื่องจากร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 กระบวนการถือว่าช้ามาก ทำให้มีเวลาทำงานน้อย ตามกำหนดการต้นเดือน เม.ย. จะต้องผ่านสภาผู้แทนราษฎร และต้องส่งให้ สว. พิจารณาให้เสร็จภายในวันที่ 9 – 10 เม.ย. เพื่อนำขึ้นทูลเกล้าฯ ประมาณวันที่ 17 เม.ย. ซึ่งกรอบเวลาของ สว. ในการพิจารณามีน้อยมาก แค่ 6 – 7 วัน

“ด้วยเหตุนี้ ประธานวุฒิสภาจึงมีดำริให้ตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณปี 2567 ในส่วนของวุฒิสภา โดยจะตั้งพรุ่งนี้เช้า (9 ม.ค.) จำนวน 41 คน มีทั้งจาก กมธ. วิป และมีผู้ทรงคุณวุฒิจากภายนอก 5 คน จะเริ่มประชุมตั้งแต่วันที่ 15 ม.ค. คู่ขนานไปกับ กมธ. ของสภาผู้แทนราษฎร เพื่อจะช่วยให้ส่วนราชการด้วยได้มาชี้แจงคู่ขนานกันไปอย่างสะดวก ประมาณวันที่ 20 มี.ค. กมธ.ฯ ของ สว. ก็จะจบการพิจารณา พร้อมกับกมธ.ฯ ของสภาฯ จากนั้นจึงเข้าสู่การแปรญัตติ และนำเข้าสู่วุฒิสภาเพื่อเปิดอภิปรายงบประมาณในวันที่ 9 เม.ย. ต่อไป เพื่อให้ข้อเท็จจริงและรู้รายละเอียดเพียงพอ ซึ่งตอนนี้ทยอยแจกเอกสารรายละเอียดไปแล้ว เพื่อให้สมาชิกทยอยมารับ” พล.อ.เลิศรัตน์ ระบุ

สำหรับภาพรวมของงบประมาณ ปี 2567 พล.อ.เลิศรัตน์ กล่าวว่า แม้จะมีข้อจำกัดมาก แต่รัฐบาลก็ดันวงเงินไปได้ถึง 3.48 ล้านล้านบาท ประเด็นแรกมองว่างบลงทุนเพียง 20% อาจไม่มากพอที่จะผลักดันประเทศให้พ้นจากปัญหา รวมถึงการดัน GDP ให้ถึง 5% ตามที่รัฐบาลมุ่งหวัง ด้วยงบที่จัดสรรมาอาจยังน้อยไป รวมถึงในทางนโยบายของรัฐบาลก็ยังไม่สะท้อนออกมาในงบประมาณเท่าที่ควร ส่วนใหญ่งบทั้งหมดจะเพิ่มขึ้น 9% จากปีที่ผ่านมา จึงเป็นการกระจายออกไปทั่ว ดังนั้นการผลักดันนโยบายต่างๆ เช่นโครงการดิจิตอลวอลเล็ต ก็ต้องไปหวังพึ่งกลไกภายนอก เช่น พ.ร.บ.เงินกู้ จึงได้แต่หวังว่างบประมาณปี 2568 ที่จะออกมาไม่นานนี้ จะมีทิศทางที่ชัดเจนขึ้น

ส่วนแนวโน้มของดิจิทัลวอลเล็ตนั้น พล.อ.เลิศรัตน์ กล่าวว่า ก็คงต้องรอวันที่ 9 ม.ค. ที่รัฐบาลจะออกมาชี้แจงว่าคณะกรรมการกฤษฎีกามีความเห็นอย่างไร แต่ก็ยังมีหลายฝ่ายที่ไม่เห็นด้วย ตอนที่รัฐบาลคิดนโยบายนี้อาจจะยังอยู่ในสภาวะวิกฤตเศรษฐกิจ จึงกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการแจกเงินให้ประชาชนไปใช้สอย ซึ่งหลายประเทศในโลกก็ทำ

“แต่ถึงวันนี้วิกฤตของเศรษฐกิจก็ยังไม่เลวร้ายนัก เงินเฟ้อต่างๆ ก็ไม่ได้เป็นไปอย่างที่นักเศรษฐศาสตร์โลกประมาณการไว้ ดังนั้นการจะเอาเงิน 500,000 ล้านบาท ไปแจกประชาชน หากปีหน้าหรือปีถัดไปเกิดปัญหาขึ้นมาก็จะเป็นปัญหา จึงอยากให้รัฐบาลคิดอีกครั้งว่าจะเดินหน้าโครงการนี้ต่อไปหรือไม่” พล.อ.เลิศรัตน์ กล่าว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'เพื่อไทย' จ่อเคลียร์ใจ 'ปานปรีย์' ชวนนั่งกุนซือพรรค ไม่รู้ 'นพดล' เสียบแทน

'เลขาฯ เพื่อไทย' รับต้องคุย 'ปานปรีย์' หลังไขก๊อกพ้น รมว.ต่างประเทศ แย้มชงนั่งที่ปรึกษาพรรค มั่นใจไม่เกิดแรงกระเพื่อม ปัดวางตัว 'นพดล' เสียบแทน ชี้ 'ชลน่าน-ไชยา' หน้าที่หลักยังเป็น สส.

สมชัย ชี้ปรับ ครม. ‘รัฐบาล’ ขาดทุนมากขึ้น  หน้าตาคนมาใหม่หลายคน ปชช.ส่ายหน้า

ปรับ ครม.ครั้งนี้ จึงดูเหมือนรัฐบาลจะขาดทุนมากขึ้น  เพราะหน้าตาคนมาใหม่หลายคนประชาชนก็ส่ายหน้า  ยิ่งปานปรีย์ลาออกอีก ยิ่งเสียโอกาสได้คนเก่งและทุ่มเทมาอยู่ใน ครม.

ดร.รัชดา เชื่อถ้าใช้หลักตอบแทนนายใหญ่ ’นพดล’ เสียบเก้าอี้ ‘ปานปรีย์’ แน่

ดร.รัชดา อยากรู้รัฐมนตรีต่างประเทศคนใหม่ของรัฐบาลนี้จะเป็นใคร คนที่จะต้องเป็นหน้าเป็นตาของประเทศ สถานการณ์การเมืองในประเทศเพื่อนบ้านและการเมืองโลกตอนนี้