“ลิณธิภรณ์” ลั่น นิรโทษกรรมไม่ใช่ทางเลือก แต่เป็นทางออกสำหรับความขัดแย้งการเมืองไทยที่ฝังรากลึกมานานนับทศวรรษ
1 ก.พ.2567 - เวลา 13.10 น. น.ส.ลินธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) อภิปรายสนับสนุนร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ ว่า ภายหลังจากการรัฐประหารครั้งล่าสุดมีการดำเนินคดีทางการเมืองสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ โดยศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนรายงานยอดตั้งแต่การชุมนุมเยาวชนปลดแอก วันที่ 18 ก.ค. 2563 จนกระทั่งถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2566 นั้น มีประชาชนถูกดำเนินคดีจากการชุมนุมและการแสดงความคิดเห็นทางการเมืองไปแล้วอย่างน้อย 1,938 คน ในจำนวน 1,264 คดี
โดยในจำนวนนี้มีเด็กและเยาวชนที่อายุต่ำกว่า 18 ปีจำนวน 286 ราย และในจำนวน 1,264 คดีนั้น มี 469 คดีที่ดำเนินการแล้วเสร็จ เหลือเพียง 700 กว่าคดีที่ยังอยู่ในขั้นตอนกระบวนการต่างๆ ทั้งนี้ ความขัดแย้งทางการเมืองไม่ได้เพิ่งเริ่มต้นเพียงทศวรรษที่ผ่านมาเท่านั้น แต่ยังฝังรากมาตั้งแต่สมัยที่มีการชุมนุมหลากสีเสื้อด้วยความเชื่อ และอุดมการณ์ของแต่ละฝ่ายที่แตกต่างกัน
แต่อย่างไรก็ตาม แม้ในแต่ละฝ่ายมีแง่มุมที่แตกต่างกัน แต่มีเป้าหมายที่อยากเห็นประเทศไทยดีกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็นแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือกลุ่มคนเสื้อแดง, พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยหรือกลุ่มคนเสื้อเหลือง, คณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงปฏิรูปประเทศให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์แบบอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) จนถึงบรรดานักศึกษา ประชาชนต่อต้าน คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ซึ่งถือเป็นโจทย์ใหญ่ทางการเมือง โดยเฉพาะพรรคการเมืองและรัฐบาลในปัจจุบัน
น.ส.ลินธิภรณ์ กล่าวด้วยว่า อย่างไรก็ตาม การนิรโทษกรรมไม่ได้จำกัดเพียงแค่ประเภทเดียว แต่ในรอบ 70-80 ปีที่ผ่านมาเราแบ่งกันนิรโทษกรรมออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ 1. การยกเว้นความผิดให้แก่ผู้ยึดอำนาจการปกครองซึ่งถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติหลังยึดอำนาจการปกครองสำเร็จ 2.นิรโทษกรรมให้ผู้ที่กระทำความผิดด้านความมั่นคง โดยอาศัยอำนาจรัฐ อาศัยหลักกรุณาในโอกาสสำคัญต่างๆ และ 3.นิรโทษกรรมยกเว้นความผิดให้แก่ผู้เข้าร่วมการชุมนุมเรียกร้องทางการเมือง ถือเป็นการยุติความขัดแย้งทางการเมืองอย่างหนึ่ง
โดยในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมา และในช่วงที่มีการรัฐประหารต่อการถึง 2 ครั้ง ข้อมูลที่ไม่สามารถปฏิเสธได้คือคดีทางการเมืองเกิดขึ้นมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ ทั้งการแสดงออกในปัจจุบันและคดีในอดีตที่ติดพันมา ดังนั้น ประเด็นการนิรโทษกรรมจึงไม่เคยเลือนหายจากประวัติศาสตร์การเมืองไทย มีการพยายามยื่นกฎหมายในช่วง 2 ทศวรรษที่ผ่านมาแต่กลับไม่มีร่างใดที่ประสบความสำเร็จ สะท้อนให้เห็นว่าการแก้กฎหมายนิรโทษกรรมในปัจจุบันเป็นเรื่องยาก แต่มี 2 ร่างที่ผ่านได้คือร่างของรัฐประหารในปี 2549 และปี 2557 ที่สามารถนิรโทษกรรมตัวเองสำเร็จได้
“แม้เราจะไม่อาจลืมหรือย้อนอดีตได้ แต่เราสามารถแก้ไขให้ปัจจุบันดีขึ้นได้ การนิรโทษกรรมในวันนี้จึงไม่ใช่แค่ทางเลือก แต่เป็นทางออกสำหรับความขัดแย้งในทางการเมืองไทยที่ฝังรากลึกมานานนับทศวรรษ และนี่เป็นเวลาที่เหมาะสมที่สุดที่เราจะได้เรียนรู้ และจดจำ ก้าวข้ามความขัดแย้งไปด้วยกัน ไปสู่การปรองดอง ภายใต้รัฐบาลใหม่ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ที่เคยระบุไว้ว่า การนิรโทษกรรมการปรองดองระหว่างประชาชนทั้งประเทศเป็นเรื่องสำคัญและจะทำให้เกิดขึ้นได้ภายในรัฐบาลชุดนี้ และจะทำให้ประเทศเดินไปข้างหน้าได้อย่างปลอดภัย มีเสถียรภาพ แม้แต่ละพรรคการเมืองจะมีการตรากฎหมายนิรโทษกรรมที่แตกต่างกันไป ดังนั้น การตั้งกมธ.ศึกษาร่วมกันเพื่อให้ได้ข้อยุติที่เห็นพ้องร่วมกันจึงเป็นทางออกที่ดีที่สุด” น.ส.ลิณธิภรณ์ กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เกลือไม่พอ! เพื่อไทยหยามฝ่ายค้านซักฟอกจืด วอนสื่อช่วยพาดหัวหน่อย 'อนุสรณ์ร้องสภา ขอน้ำปลาให้ฝ่ายค้านด่วน'
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ระบุว่า ขอฝากไปยังสื่อทุกสำนักว่าหากจะโปรยข่าววันนี้ต้องบอกว่า "อนุสรณ์ร้
'พริษฐ์' ชำแหละละคร 5 ตอนรัฐบาลเพื่อไทย ดีลอำมหิต-ไร้ประชาชนในสมการ
'พริษฐ์' ฉายภาพละคร ‘รัฐบาลเพื่อไทยหัวใจคือประชาชน’ 5 ตอน ซัดดีลกันแบบนี้ ไม่เคยมี ปชช.อยู่ในสมการ เหตุอะไรที่ไม่อยากทำแล้วอ้างติดที่พรรคร่วมฯ เปรียบ 'แพทองธาร' เหมือนเป็ดง่อย ตัดสินใจอะไรไม่ได้ด้วยตนเองได้ คอยรอคำตอบจาก ‘นายกฯ คนพ่อตัวจริง’
10 นาที 'บิ๊กป้อม' ซัด 'ประเทศไม่ใช่เวทีมือสมัครเล่น' อึ้ง!อิ๊งค์ แจงแค่ 10 วินาที
“ประเทศชาติไม่ใช่เวทีให้มือสมัครเล่นมาซ้อมมือ” บิ๊กป้อม เปิดฉากอภิปราย 10 นาที ซัด“แพทองธาร” ไร้ความสามารถทั้งเศรษฐกิจ-ความมั่นคง-จริยธรรม ถูกครอบงำโดยคนในครอบครัว ด้านนายกฯ ชี้แจงสั้นๆ 10 วินาที แค่ประโยคเดียวว่า “ไม่เป็นความจริง”
‘หมอเชิด’ ย้ำอภิปรายนายกฯวันเดียวควรจบแล้ว อัดฝ่ายค้านจ้องอภิปรายคนนอก
"หมอเชิด" ระบุ อภิปรายไม่ไว้วางใจ แค่ 24 ชม.ก็พอแล้วเพราะ นายกฯทำงานได้เพียง 6 เดือน และจะจ้องอภิปรายคนนอก ในชั้น 14 มากกว่าเรื่องของประเทศ แบบนี้ถูกหรือ
เทพไท ชี้ ‘แพทองธาร’ คือจุดอ่อนศึกซักฟอก
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ได้โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊ก "เทพไท - คุยการเมือง" เปิดเผยว่า
'สุทิน' เก็งข้อสอบฝ่ายค้าน พบส่วนใหญ่เป็นนามธรรม อะไรคือตัวชี้วัดนายกฯขาดภาวะผู้นำ
นายสุทิน คลังแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมความพร้อมในวันอภิปรายไม่ไว้วางใจ วันที่ 24 มี.ค. ว่า เตรียมแล้วแต่ไม่ได้ทำอะไรมาก เราก็เอาญัตติของเขามาอ่าน