'ยุทธพร' ชี้ยังไม่ปิดประตูตายเรื่อง ม.112 ใน กม.นิรโทษฯ

'ยุทธพร' มองการออกกฎหมายนิรโทษกรรมเป็นเรื่องปลายทาง ต้องเริ่มต้นด้วยหลักประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วม-เปิดพื้นที่ให้คนทุกกลุ่มแสดงความคิดเห็น ชี้ปัจจัยความสำเร็จ คือกระบวนการสร้างความไว้วางใจ

08 ก.พ. 2567 – รศ.ยุทธพร อิสรชัย อดีตรองอธิการบดี มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ในฐานะกรรมการและที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตราพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม กล่าวภายหลังการประชุม กมธ.นิรโทษกรรมฯ นัดแรก ว่ากฎหมายนิรโทษกรรมเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะสร้างความปรองดองให้เกิดขึ้นในสังคม อย่างไรก็ดีกฎหมายคือเรื่องปลายทาง แต่เรื่องที่สำคัญที่สุด คือกระบวนการที่ต้องสร้างความไว้วางใจให้เกิดขึ้น ตลอดระยะเวลา 20 ปีที่ผ่านมา เราพูดถึงเรื่องการสร้างความปรองดอง และความสมานฉันท์มามากมาย แต่ปรากฏว่ายังไม่เคยเห็นอะไรที่เป็นภาพเป็นผลชัดเจน เพราะฉะนั้นต้องเริ่มต้นด้วยหลักอธิปไตยแบบปรึกษาหารือ เรามีคำตอบล่วงหน้าแล้ว จะแก้หรือไม่แก้เรื่องใด อยากให้มีหน้าตาของกฎหมายแบบไหน ตรงนี้ไม่ใช่ปัจจัยแห่งความสำเร็จแน่นอน

“ปัจจัยแห่งความสำเร็จที่เกิดขึ้น คือกระบวนการพูดคุยหารือร่วมกัน ด้วยหลักประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วม เปิดพื้นที่ให้คนทุกกลุ่มในสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ทางการเมือง ช่วงความขัดแย้งร่วมสมัยในประเทศไทยที่ผ่านมา”

รศ.ยุทธพรกล่าวอีกว่า เมื่อพูดถึงกฎหมายนิรโทษกรรม ในอดีตกลายเป็นเครื่องมือของคณะรัฐประหาร ทุกยุคทุกสมัย เพื่อใช้ในการนิรโทษกรรมตัวเอง ทั้งนี้ทั้งนั้นถ้าเราต้องมองกฎหมายนิรโทษกรรมในลักษณะที่เป็นเครื่องมือร่วมกันของคนในสังคม เพื่อทางออกร่วมกัน คิดว่านี่จะเป็นปัจจัยแห่งความสำเร็จของร่างกฎหมายนิรโทษกรรมในครั้งนี้ได้

ส่วนจะรวมการนิรโทษกรรมคดีความผิดตามประมวลกฏหมายอาญามาตรา 112 ด้วยหรือไม่นั้น รองศาสตราจารย์ ยุทธพร กล่าวว่า ประเด็นเรื่อง ม.112 เป็นประเด็นที่มีความสำคัญประการหนึ่ง เพราะในระยะเวลาที่ผ่านมามีบุคคลที่ต้องคดีเหล่านี้เป็นจำนวนมาก มีกระบวนการในการใช้กฎหมายให้กลายเป็นการเมือง จึงต้องพูดคุยกันอย่างมีวุฒิภาวะ มีการเปิดพื้นที่ในการรับฟังทุกฝ่าย ทั้งประชาชน และฝ่ายการเมือง หรือแม้กระทั่งการหยิบยกคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญมาประกอบในการพิจารณาด้วย เพราะฉะนั้น การพูด และมองอย่างรอบด้านในประเด็นนี้ จะต้องหาข้อสรุปที่ทุกฝ่ายยอมรับร่วมกัน เพื่อให้สามารถคลี่คลายปมแห่งความขัดแย้งสำคัญตรงนี้ได้พอสมควร

“ผมยังเชื่อมั่น ว่าการเปิดพื้นที่ทางการเมืองในครั้งนี้ เป็นการพูดถึงกฎหมายนิรโทษกรรมในสมัยและบรรยากาศที่มีความเป็นประชาธิปไตย ซึ่งเป็นการเปิดให้คนทุกกลุ่ม ร่วมกันแสดงความคิดเห็นได้อย่างกว้างขวาง อย่างมีวุฒิภาวะ“ รศ.ยุทธพร กล่าวทิ้งท้าย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

‘อดุลย์’ เรียกร้องทุกพรรคปรองดองแนะ ‘ทักษิณ’ อย่ามีวาระซ่อนเร้น

“อดุลย์” เรียกร้องทุกพรรคมีนโยบายสร้างความปรองดอง หวั่นหลังเลือกตั้งกลับสู่วังวนเดิมอีก จวก ”ประยุทธ์” ไม่เข้าใจความขัดแย้งเชิงโครงสร้างอยู่ในอำนาจมา 9 ปีไม่คิดปฏิรูป หนุนแนวทาง”ประวิตร”ก้าวข้ามความขัดแย้ง แต่ต้องทำให้ประชาชนเชื่อใจ ย้ำ“ทักษิณ”ต้องเคารพกฎหมายไทย อย่ามีวาระซ่อนเร้นจะซ้ำรอยอีก

‘ลุงป้อม’ เจาะทุกกลุ่มวีดีโอคอลคุยนศ.เชียงรายเชียงราย รับปากทำประเทศเกิดความปรองดอง

‘ลุงป้อม’ เจาะทุกกลุ่ม วิดีโอคอล คุยนศ.เชียงราย รับปากทำประเทศเกิดความปรองดอง-คนไทยเป็นหนึ่งเดียวกันให้ได้ ย้ำเห็นต่างทางการเมืองได้ แต่ต้องนำประเทศไปสู่ความก้าวหน้า