สว.โวย กฎหมายมีช่องโหว่เอาผิด 'กลุ่มทะลุวัง' เตือนต้องใช้สติอย่าจุดกระแสขัดแย้ง

13 ก.พ.2567- ที่รัฐสภา มีการประชุมวุฒิสภา มีนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา ทำหน้าที่ประธานการประชุม ก่อนเข้าวาระการประชุมพล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร สมาชิกวุฒิสภา หารือถึงการป้องกันการป่วนขบวนเสด็จว่า เหตุการณ์ที่กระทำต่อขบวนเสด็จของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี สะเทือนใจเป็นอย่างยิ่ง ไม่ควรเกิดขึ้นในแผ่นดินนี้ กลุ่มบุคคลที่ทำผิดไม่เกรงกลัวกฎหมาย เพราะมีคนคอยหนุนหลัง รู้ข้อกฎหมายในการดำเนินการกับขบวนสมเด็จพระเทพฯ คนกล่าวหาตำรวจทำงานล่าช้า แต่ตำรวจทำงาน 24 ชั่วโมง แต่ไปติดขัดที่การขอหมายค้นทำไม่ได้

“นางคนนี้ได้รับการแนะนำให้อยู่ในบ้าน ไม่ต้องไปไหน ตำรวจต้องมีหมายค้น เมื่อตำรวจไปขอหมายค้น แต่นางคนนี้มีหมายจับอยู่ จึงไม่ได้รับอนุมัติหมายค้นไปค้นบ้าน เพื่อจับกุม ไม่ตำหนิศาลอาญาธนบุรี แต่พูดในหลักการว่า ตำรวจไปขอแล้วแต่ไม่ได้ ยังมีกระบวนการติดขัดอยู่พอสมควร ฝากถึงนายกรัฐมนตรี รัฐบาลจะมีมาตรการป้องกันเหตุการณ์เหล่านี้ไม่ให้เกิดขึ้นอีกได้หรือไม่ ไม่ใช่วัวหายล้อมคอก การที่ตำรวจจะทำงานได้ต้องมีเครื่องมือ แต่กฎหมายที่มีอยู่ทั้งประมวลกฎหมายอาญา พ.ร.บ.ถวายความปลอดภัย มีช่องว่างหรือไม่ เพราะไอ้พวกนี้แสนรู้เลยเลี่ยง การเอาผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ไม่ได้ครอบคลุมถึงพระบรมราชวงศ์ หรือผู้ปฏิบัติราชการแทนพระองค์ จึงอยากให้เพิ่มเติมเข้าไปด้วย ตำรวจพยายามสอบว่า เข้าข่ายมาตรา 112 หรือไม่ แต่นักกฎหมายหลายคนบอกว่า ไม่เข้า เพราะต้องเป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์เท่านั้น ดังนั้นจะต้องมีเครื่องมือป้องกัน ปราบปรามไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก กฎหมายมีช่องโหว่ตรงไหนก็ต้องไปแก้ไข”

ขณะที่นายมณเฑียร บุญตัน สว. หารือว่า มีความไม่สบายใจและไม่เห็นด้วยกับการกระทำเกี่ยวกับขบวนเสด็จรัฐบาลต้องทำหน้าที่เชิงรุก เตือนสังคมไทยรับมือบริหารจัดการความเสี่ยงที่อาจนำไปเสี่ยงสู่ความขัดแย้งให้เกิดในลักษณะเป็นอารยะที่สุด แต่การดำเนินคดีตามกฎหมายเป็นเรื่องที่ต้องดำเนินการ แต่ต้องระวังไม่ไปสร้างกระแสหรือเงื่อนไขให้เกิดการตอบโต้รุนแรงจากการยั่วยุของฝ่ายใด ประเทศไทยเคยมีบทเรียนเจ็บปวดจากเหตุการณ์ 6 ตุลา 2519 ขอให้รัฐบาลระมัดระวังอย่างยิ่งยวด สร้างกลไกให้ประชาชนที่มีความเห็นต่างทางการเมืองใช้กลไกแห่งสันติ ใช้สติหลักเหตุผลนำเสนอความคิดที่แตกต่าง จะต้องไม่สนับสนุนการใช้ความรุนแรง อันอาจทำให้เกิดความเปราะบางนำไปสู่ความเสี่ยงที่ยิ่งยวด อาจนำมาสู่โศกนาฏกรรมให้เกิดแผลร้าวลึกในสังคมไทย ขอวิงวอนชาวไทยกลับมาอยู่ในสติ เราสามารถอยู่ร่วมกันพร้อมกับรับมือกับความไม่ถูกต้องไม่เหมาะสมตามครรลองที่ถูกต้องตามหลักกฎหมาย และความเป็นอารยะชน.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ศชอ. คัมแบ็ค! ประกาศกลับมาแล้ว พร้อมลุยใช้กฎหมาย ม.112 ปกป้องสถาบัน

เพจเฟซบุ๊ก ศูนย์ช่วยเหลือด้านกฎหมายผู้ถูกล่วงละเมิด bully ทางสังคมออนไลน์ ศชอ.โพสต์ข้อความว่า "กลับมาแล้ว" หลังจากเมื่อเดือนกันยายน 2566 ได้ประกาศยุติบทบาทการเคลื่อนไหวใช้กฎหมายในการปกป้อง ช

'เฒ่าสามนิ้ว' บ่นพึม! รู้แต่ข่าวบันเทิงวันสงกรานต์ ไม่รู้ 'ตะวัน-แฟรงค์-บุ้ง' ถูกย้ายกลับคุก

สุชาติ สวัสดิ์ศรี อดีตศิลปินแห่งชาติ หนึ่งในผู้นำจิตวิญญาณกลุ่มสามนิ้ว โพสต์เฟซบุ๊ก Suchart Sawadsri ว่า ทราบแ

‘ศานิตย์’ ชี้ ‘บิ๊กโจ๊ก’ ต้องถูกตั้งกก.สอบวินัย วอนอย่าเหมารวม ตร.เกี่ยวเว็บพนันหมด

สว.สายสีกากี มองอนาคตบิ๊กโจ๊ก จะถูกตั้งกรรมการสอบวินัย และ ยังมีสิทธิ์ลุ้นเก้าอี้ผบ.ตร.อยู่หรือไม่? วอนข่าวตำรวจมีเอี่ยวคดีเว็บพนัน ฯ เป็นแค่เรื่องคนไม่กี่คน อย่าเหมารวมตำรวจไม่ดีทั้งหมด

ทำลายสถิติ! ผู้ต้องขังยังเพิ่มพุ่ง 46 คน คดี ม.112 เกินครึ่ง ผู้อดอาหารประท้วงยังถูกขังต่อ

ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานว่า ปัจจุบัน (4 เม.ย. 2567) มีผู้ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ เนื่องจากคดีที่เกี่ยวข้องกับการเมืองและการใช้สิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและการแสดงออก อย่างน้อย 46 ราย ในจำนวนนี้เป็นคดีมาตรา 112 เกินกว่าครึ่ง เป็นจำนวน 28 คน