นายกฯ เผยคุย 'ผบ.เหล่าทัพ-สุทิน' เน้นย้ำอารักขาบุคคลสำคัญ

17 ก.พ.2567 - ที่ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ให้สัมภาษณ์ถึงการร่วมรับประทานอาหารกับผู้บัญชาการเหล่าทัพและ นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม ว่า เมื่อวันที่ 16 ก.พ. ตนได้ไปรับประทานอาหารเย็น กับผบ. ทั้ง 3 เหล่าทัพ ซึ่งเรามีการพูดคุยอย่างสม่ำเสมอในเรื่องการพัฒนากองทัพอยู่แล้ว รวมถึงการพูดคุยในข้อกังวลใจต่างๆ เราก็นำมาพูดคุยกัน

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นอกจากนี้ ยังมีการพูดคุยเรื่องการอารักขาราชวงศ์และบุคคลสำคัญ และเน้นย้ำว่าเรื่องที่สำคัญ ซึ่งจะต้องทำให้ถูกต้องไม่ให้ประชาชนเดือดร้อน ซึ่งทุกคนก็เห็นตรงกันหมด

นายเศรษฐา กล่าวว่า ยังมีการพูดคุยเรื่องสวัสดิการของทหาร สืบเนื่องจากสัปดาห์ที่ผ่านมา ตนได้ไปเยี่ยมแฟลตข้าราชการตำรวจ จึงได้สอบถามกับ ผบ.เหล่าทัพ ถึงชีวิตความเป็นอยู่ของทหาร ไม่ใช่แค่มิติของที่อยู่อาศัย แต่รวมไปถึงด้านการศึกษาเพราะในปัจจุบันมีถึงแค่ประดับ หลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) แต่เป็นเรื่องที่น่ายินดีที่โรงเรียนช่างฝีมือทหาร สามารถผลิตแรงงานเข้าสู่ตลาดได้ ซึ่งอุตสาหกรรมต่างๆ ก็ยังคงต้องการแรงงานช่างฝีมือ ซึ่งผบ.เหล่าทัพก็ยอมรับว่าในปัจจุบันโรงเรียนช่างฝีมือทหารก็ยังมีอยู่เพียงในระดับปวช. ซึ่งก็จะต้องมองว่าจะพัฒนาไปจนถึงในระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) และ ระดับปริญญาตรีต่อได้

นายเศรษฐา กล่าวว่า สำหรับสถานพยาบาลต่างๆของเหล่าทัพ อย่างเช่นโรงพยาบาลภูมิพล ที่มีผู้เข้าไปรักษาหลักล้านต่อปี แต่เป็นบุคลากรของกองทัพเพียง 10% เท่านั้น แสดงว่าโรงพยาบาลเหล่านี้ให้การรักษาประชาชนเป็นอย่างดี รวมถึงสถานพยาบาลในกองทัพ หรือค่ายทหาร

นายเศรษฐา กล่าวด้วยว่า ในการลงพื้นที่จังหวัดอุดรธานี ตนจะไปมอบโฉนดที่ดินจากกองทัพ ซึ่งผู้บัญชาการทหารบกก็จะเดินทางตามไปด้วย จึงจะถือโอกาสนี้ ให้ผู้บัญชาการทหารบก พาไปดูสถานพยาบาลในค่ายทหาร รวมถึงชีวิตความเป็นอยู่ภายในค่าย ซึ่งตนมีความเป็นห่วงเป็นใยทุกภาคส่วน เราจะต้องดูแลพวกเขาให้มีศักดิ์ศรี และถ้าหากในอนาคตจะเปลี่ยนไปประกอบอาชีพอื่น ก็สามารถทำได้อย่างสมศักดิ์ศรี อย่างไรก็ตาม สำหรับการรับประทานอาหารร่วมกับผบ.เหล่าทัพเมื่อเย็นวันที่ 16 ก.พ. คุยกันค่อนข้างนาน อาหารอร่อย และบรรยากาศดี

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

งบ68 ทร.ซื้อเครื่องบินลำเลียง  ‘เรือดำน้ำ-ฟริเกต’ ไปถึงไหน?

คงต้องติดตามดูต่อไปว่า “สุทิน” จะได้รับการอนุมัติให้นั่งเก้าอี้ รมว.กลาโหมต่อเพื่อผลักดันโครงการ และปัญหาที่ยังไม่ลุล่วงเหล่านี้หรือไม่