
นายกฯ สั่งเร่งสางปมที่ดินทับซ้อน ใช้แผนที่ทหาร 1:4,000 พร้อมอนุมัติงบกลางประมูลสิทธิจัดงานหลากหลายทางเพศ พร้อมเผย ครม.รับหลักการร่าง พ.ร.บ.แอลกอฮอล์ ก่อนส่งกฤษฎีกาตรวจ รับลูกทส. แก้ฝุ่นPM 2.5 ปรับKPI หวังผลสูงขึ้น รายงานผลทุก 4 ชม.
3 มี.ค.2567 - เมื่อเวลา 14.20 น.ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ปัญหาเรื่องที่ดินทับซ้อนระหว่างส่วนราชการ ตนได้ให้หน่วยงานเกี่ยวข้องกับที่ดินประชุมดำเนินแก้ไขโดยเร็ว โดยใช้หลักวิทยาศาสตร์และแผนที่ทหารอัตราส่วนเดียวกัน คือ 1 ต่อ 4,000 เป็นมาตรฐาน ทั้งนี้ ให้เร่งทำในจุดที่มีปัญหา หรือมีข้อพิพาทให้เสร็จก่อน ไม่ว่าจะเป็นเขตขอบชายแดน เขตชายขอบที่เกี่ยวข้องกับอุทยานแห่งชาติและพื้นที่ ส.ป.ก.เป็นต้น
นายเศรษฐา กล่าวว่า ให้กระทรวงการต่างประเทศและกระทรวงมหาดไทยเร่งรัดยกเลิกใบ ตม.6 ทั้งในภาคใต้และภาคอีสาน เพื่ออำนวยความสะดวกในการตรวจคนเข้าเมือง ขจัดอุปสรรคที่ทำให้เสียเวลาของนักท่องเที่ยว หรือดำเนินการธุรกิจค้าขาย ทั้งนี้ ปลายปีที่แล้วเรามีการยกเลิกใบ ตม. 6 ที่ด่านชายแดนสะเดา ซึ่งทำให้นักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นในวันหยุดสุดสัปดาห์จาก 10,000 คน เป็น 30,000 คน เป็นการกระตุ้นการท่องเที่ยวได้ดี และทำให้พี่น้องชาวสามจังหวัดชายแดนภาคใต้มีรายได้เพิ่มมากขึ้น เราจึงอยากขยายไปทำในอีกหลายๆ เขต ซึ่งสืบเนื่องจากการลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้และภาคอีสานในสัปดาห์ที่ผ่านมา
นายเศรษฐา ยังกล่าวอีกว่า ให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและมั่นคงของมนุษย์ส่งเสริมการทำกิจกรรมของสมัชชาเด็ก และเยาวชนในการแสดงความคิดเห็นในพื้นที่ปลอดภัยตามกรอบของกฎหมายเพื่อให้เกิดการสะท้อนเสียงเยาวชนได้อย่างแท้จริง
นายกฯ กล่าวว่า นอกจากนี้ รัฐบาลอนุมัติงบกลางให้สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (TCEB) เพื่อไปประมูลสิทธิการจัดงาน Inter pride world conference และกิจกรรม Road to world pride ซึ่งเป็นกิจกรรมระดับโลกของความหลากหลายทางเพศ ซึ่งจะจัดเฉลิมฉลองที่ประเทศไทยในกรุงเทพฯและภูเก็ต ที่จะเป็นการส่งเสริมนโยบายรัฐบาลในการสนับสนุนความเท่าเทียม ความหลากหลายทางเพศ ลดความเหลื่อมล้ำ และยกระดับให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางของกลุ่มทีมีความหลากหลายทางเพศ ซึ่งจะมีการผลักดันให้ประเทศไทยสามารถเข้าท้าชิงในการเป็นเจ้าภาพจัดงานในปี 2028
นายกฯ กล่าวอีกว่า ครม.ได้อนุมัติรับหลักการร่างพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ และส่งให้คณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาอย่างละเอียดเร่งด่วน โดยรับความเห็นของหน่วยงานต่างๆเพื่อนำไปพิจารณาด้วย และนำส่งวิปรัฐบาลก่อนเสนอสภาเพื่อพิจารณาต่อไป
นายกฯ กล่าวว่า ครม.ยังได้อนุมัติงบกลาง ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เสนอ เพื่อดำเนินการแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน เพื่อลดฝุ่นละอองPM 2.5 และการมีส่วนร่วมของคนในพื้นที่ โดยขอให้ ทส.ปรับเคพีไอให้ชัดเจนและหวังผลสูงขึ้น โดยให้มีความทะเยอทะยานลดจำนวนไฟป่าให้น้อยลง โดยให้มีการรายงานผลทุก 4 ชั่วโมง รวมทั้งใช้ข้อมูลจุดความร้อนในอดีตมาเทียบเคียงเพื่อป้องกันและจัดทีมไฟป่าได้อย่างรวดเร็วทันใจ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
นายกฯ ประธานพิธีเจริญพระพุทธมนต์ ทำบุญตักบาตร ถวายพระราชกุศล 'ร.9'
นายกฯ เป็นประธานในพิธีเจริญพระพุทธมนต์ ทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศล เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ 'ในหลวง ร.9' วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ 5 ธ.ค. 2568
นายกฯ แจ้งพรรคร่วม รอฟังสัญญาณ 12 ธ.ค.
“อนุทิน” แจ้งพรรคร่วมฯสแตนด์บายรอฟังสัญญาณ12ธ.ค.นี้ จ่อชง ครม.จัดทำประชามติร่างแก้รธน. ก่อนเสนอปธ.สภาเปิดสมัยวิสามัญแก้รัฐธรรมนูญ 10-11ธ.ค.นี้ ตั้ง ”ศุภมาส“ แม่ทัพดูแลเมืองหลวง
ชง ครม. เยียวยาน้ำท่วมเพิ่ม จ่าย 4 ขั้นบันได 30-60-90-120 วัน
'ภราดร' ชง ครม. เยียวยาอุทกภัยเพิ่ม จ่าย 4 ขั้นบันได ตามเวลาน้ำท่วม 30-60-90-120 วัน เป็นรายเดือนนับตั้งแต่ประสบภัยวันแรก ใช้งบกลางให้สมน้ำสมเนื้อ
‘ตรีนุช’ ชงครม.หาแนวทางจัดการแรงงานเขมรหมดอายุ รอทบทวนผลักดันออกนอกประเทศหรือไม่
ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ให้สัมภาษณ์ถึงการจัดการแรงงานกัมพูชาในประเทศไทย ภายหลัง
ดีอี ชง ครม. เคาะมาตรการสกัดส่ง e-mail แนบลิงก์หลอกลวง
นายไชยชนก ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เป็นประธานการประชุมหารือมาตรการป้องกันและปราบปราม การใช้ e-mail แอบอ้างหน่วยงานเพื่อหลอกลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัล โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม
เลขาธิการนายกฯ แจง ครม. ไม่สั่งห้ามกิจกรรมรื่นเริง เพียงขอปรับรูปแบบให้เหมาะสม
น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่มีการเผยแพร่ข่าวว่าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นัดพิเศษ เมื่อวันที่ 25 ต.ค.ซึ่งมี นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย เป็นประธาน ได้มีมติให้ภาคเอกชนงดกิจกรรมรื่นเริงเป็นเวลา 30 วัน

