‘วิโรจน์‘ ไม่กลัวหากถูกยุบพรรคชี้ ’ก้าวไกล’ เป็นแค่นามธรรม

‘วิโรจน์‘ ไม่กลัว หากถูกยุบพรรค ชี้ ’ก้าวไกล’ เป็นแค่นามธรรม บอก ’ธนาธร‘ ถูกตัดสิทธิ์ยังอยู่บ้าน ไม่ดิ้นรนไปอยู่ชั้น 14 พร้อมให้คนรุ่นใหม่เหยียบหลังสานงานต่อ ถาม ถ้าได้เป็น ’นายกฯ-รัฐมนตรี‘ แล้วต้องตระบัดสัตย์ จะเป็นทำแมวอะไร

10 มี.ค. 2567 – ที่ห้องอาหารพริ้มเพลิน จ.ปทุมธานี คณะกรรมาธิการ (กมธ.) การทหาร สภาผู้แทนราษฎร นำโดย นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะประธาน กมธ. จัดงานสัมมนาในหัวข้อการใช้พื้นที่ทหาร บทบาทหน้าที่ของทหารกับท้องถิ่นในการพัฒนาประเทศ เพื่อทำความเข้าใจกับประชาชนถึงการใช้งบของกองทัพ โดยมี พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ปทุมธานี ในฐานะตัวแทนส่วนท้องถิ่น และ สส.พรรคก้าวไกลร่วมงานด้วย

นายวิโรจน์ ได้ตอบคำถามประชาชนที่ร่วมเสวนา ความตอนหนึ่งว่า ในเรื่องของการยุบพรรค ตนไม่ได้กลัวอะไรเลย เนื่องจากพรรคเป็นนามธรรมมีภาระแค่งานธุรการเท่านั้น หากโดนยุบก็เหนื่อยกับงานธุรการแต่พรรคก็ไปต่อ ประชาชนก็ไปต่อ ดังนั้นคำตอบคือไม่กลัว 

นายวิโรจน์ กล่าวว่า ส่วนเรื่อง เพื่อนสส.44 คน ที่ร่วมกันลงชื่อแก้กฎหมายประมวลอาญามาตรา 112 นั้น เราก็ยืนยันว่าเราทำงานตามอำนาจหน้าที่ของนิติบัญญัติ รวมถึงการที่เรามีกิจกรรมร่วมกันกับประชาชนในกรณีดังกล่าว เราคิดว่าเสียงของประชาชนมีความหมาย ประชาชนมีสิทธิ์เข้าชื่อเพื่อแก้ไข ผลิต และยกเลิกกฎหมาย ซึ่งเป็น การร่วมกิจกรรมกับประชาชน ที่ใช้อำนาจของปวงชนชาวไทยตามอำนาจรัฐธรรมนูญเช่นเดียวกัน 

“การสู้กับคนหน้าด้าน ก็ลำบากใจเพราะคนหน้าด้านจะทำอะไรก็ได้ หรือสู้กับคนบ้า คนบ้าก็พร้อมที่จะทำอะไรไม่สนใจเหตุไม่สนใจผล ผมคิดว่าเขาโง่มากที่คิดว่าการเดินทางของก้าวไกลขึ้นอยู่กับตัวบุคคล เพราะคุณธนาธรที่ถูกตัดสิทธิ์ ก็ใช้ชีวิตอยู่ ชั้น 1 ชั้น 2 ในบ้านมาตลอด ไม่เคยต้องดิ้นรนขึ้นไปอยู่บนชั้น 14 เหมือนใครบางคน วิโรจน์ก็มีบ้านสองชั้น ก็คงไม่ต้องดิ้นรนไปอยู่ที่ชั้น 14” นายวิโรจน์กล่าว

นายวิโรจน์ กล่าวว่า ชีวิตของตนรวมถึงเพื่อนสส. 44 คน ทุกคนมีเป้าหมายที่อยากเดินทางไป แต่ความสุขของพวกตนไม่ได้ขึ้นอยู่กับการไปถึงเป้าหมาย แต่การเคลื่อนไหวสู่เป้าหมายทุกวัน และถ้าอะไรก็แล้วแต่ที่ดูไม่เหตุผล ทำให้ต้องหยุดเดิน ตนก็มีความสุขกับเส้นทางที่เดินมาแล้ว ให้คนรุ่นใหม่ได้เหยียบหลังเดินไปสู่เป้าหมายต่อไปเท่านั้นเอง ไม่ได้มีความกังวล ไม่ได้มีความหวังที่จะไปเป็นรัฐมนตรีหรือนายกรัฐมนตรีใดๆทั้งสิ้น “ถ้าเป็นแล้วต้องตระบัดสัตย์ ผมเป็นจะเป็นทำแมวอะไร”

นายวิโรจน์ ยังกล่าวเสริมอีกว่า ตนในฐานะประธาน กมธ.การทหาร เราทำงานกับกองทัพได้ อย่างเช่น เรื่องการอนุมัติงบซื้อเรือฟริเกต ตอนแรกก็คิดว่าจะผ่าน เพราะตนเชื่อในน้ำงิ้วของนายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกนะทรวงกลาโหม แต่ปรากฎว่าพรรครัฐบาลกลับไม่ให้ผ่าน ตนเชื่อว่ากองทัพของเข้าใจแล้วว่าพรรคก้าวไกลไม่ได้อยู่ด้วยความปฏิปักษ์ นอกจากเรื่องกองทัพเรือเกี่ยวกับการจัดซื้อเรือฟริเกตแล้ว กองทัพอากาศก็ได้ทำสมุดปกขาวเปิดเผยการซื้อจัดจ้างแล้ว ประชาชนสามารถดาวน์โหลดได้ ส่วนกองทัพบก ตนคิดว่ายังมีปัญหาการคอร์รัปชัน อย่างเรื่องการจัดซื้อจัดจ้าง ควรจัดซื้อจากบริษัทในประเทศที่ส่งออกให้ต่างประเทศให้โปร่งใส

“อย่าบริษัทต่างๆที่ผลิตรถยานเกาะส่งออกไปต่างประเทศส่งออกให้กับ UN กองทัพไทยไม่ซื้อ แล้วตั้ง TOR แบบตลกๆ บอกว่าจะซื้อรถอย่างก่อนที่เคยประจำการหรือถูกขายในประเทศต้นกำเนิด ผมตั้งคำถาม …. คุณตั้ง TOR ล็อกสเปกแบบนี้ ก็คือคุณไม่ยอมจะซื้อจากผู้ผลิตภายในประเทศนั่นแหละ” นายวิโรจน์ กล่าว

นายวิโรจน์ ยังกล่าวถึงนายสุทิน คลังแสง รัฐมนตว่าการกระทรวงกลาโหมว่า ตนดูโหงวเฮ้ง น่าจะเป็นรัฐมนตรีได้มากกว่านายสุทินอีก ตนยืนคู่กับนายสุทิน มีคนเเซวด้วย “ดูปุ๊บใครเป็นรัฐมนตรี ใครเป็นโฆษกกลาโหม ดูรู้เลย” 

นายวิโรจน์ ย้ำว่า คนที่กลัวว่าหากพรรคก้าวไกลเป็นรัฐบาลแล้วไม่ซื้ออาวุธนั้น ไม่เป็นความจริง กะจะซื้อด้วยเงื่อนไขที่โปร่งใสและเกิดประโยชน์ต่อประชาชน 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รองปธ.กมธ.ต่างประเทศสภาฯ ชี้น่ากังวล ‘บัวแก้ว’ สุญญากาศ หนุน ‘นพดล’ เหมาะ

นายปานปรีย์ พหิทธานุกร  ลาออกจาก รมว.ต่างประเทศว่า เป็นเรื่องน่ากังวลมาก เพราะสถานการณ์ภูมิรัฐศาสตร์โดยเฉพาะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศเมียนมาเวลานี้ กระทบกับประเทศไทยอย่างมาก

ก้าวไกล เดือดแทน ‘หมอชลน่าน’ ทุ่มเทเหนื่อยสุด โดนคนทิ้งพรรคเสียบเก้าอี้

‘ณัฐชา’ มอง ปรับ ครม.เศรษฐา 1/1 ‘เพื่อไทย’ ยังรักษาคาแรคเตอร์ ‘สมบัติผลัดกันชม’ เก้าอี้ รมต. เหมือนเดิม สงสัย ทำไมเอาคนทิ้งพรรคอย่าง ’สมศักดิ์‘ แทน ’หมอชลน่าน‘ เหตุเหนื่อยสุดแบกรับสถานการณ์ช่วงเลือกตั้ง-จัดตั้งรัฐบาล

'เศรษฐา1/1'เศรษฐกิจ-การเมืองนำ เว้นระยะ'ความมั่นคง-กองทัพ'

โฉมหน้า “คณะรัฐมนตรีเศรษฐา 1/1” ที่ออกมา นอกจากจะเป็นการสับเปลี่ยนหมุนเวียนตัวบุคคลของพรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมรัฐบาลแล้ว เป้าหมายที่ฉายภาพชัดต่อทิศทางการบริหารงานของรัฐบาล

งบ68 ทร.ซื้อเครื่องบินลำเลียง  ‘เรือดำน้ำ-ฟริเกต’ ไปถึงไหน?

คงต้องติดตามดูต่อไปว่า “สุทิน” จะได้รับการอนุมัติให้นั่งเก้าอี้ รมว.กลาโหมต่อเพื่อผลักดันโครงการ และปัญหาที่ยังไม่ลุล่วงเหล่านี้หรือไม่