‘ยังบลัดก้าวไกล’ มั่นใจหากโดนยุบพรรค 143 สส. เกาะกลุ่มไปไหนไปกัน ไร้งูเห่า

พนิดา ยันหากโดนยุบพรรค สส.143 คนไปไหนไปกัน ไม่มีแตกแถว ไร้งูเห่า หลังพิง 14 ล้านเสียงคนโหวตให้  แต่ศาลรธน.ไม่ยึดโยงกับประชาชน จะมายุบ เปิดโดมิโนการเมือง หากพรรคส้มไม่รอด

4 ส.ค.2567-น.ส.พนิดา มงคลสวัสดิ์ สส.สมุทรปราการ เขต 1 พรรคก้าวไกล ที่ปรากฏตัวอยู่ในคลิปสัมภาษณ์4นักการเมืองพรรคก้าวไกล ที่ถูกมองทางการเมืองว่าเป็นการเปิดตัว ว่าที่ผู้นำพรรคแถวใหม่ของพรรคก้าวไกล  ที่ออกมาในช่วงใกล้วันตัดสินคดียุบพรรคก้าวไกล วันที่ 7 ส.ค. กล่าวหลังถูกถามว่า หากพรรคก้าวไกลถูกยุบพรรค คิดว่าจะมีส.ส.แตกแถวหรืองูเห่าที่ไม่ไปอยู่กับพรรคใหม่ของก้าวไกลหรือไม่ โดยนส.พนิดา กล่าวว่า   สส.ทั้งหมดของพรรคก้าวไกลที่เกาะกลุ่ม เกาะเกี่ยวกันไว้ ด้วยการยึดโยงทางจิตวิญญาณและอุดมการณ์ของพวกเรา เราเชื่อมั่นว่าส่วนใหญ่จะเดินหน้าต่อไปด้วยกัน เชื่อว่าสถานการณ์จะไม่เป็นแบบตอนมีการยุบพรรคอนาคตใหม่ ที่ตอนนั้นเหมือนกับว่าทุกคนงง ไม่รู้จะจัดการกันอย่างไร ก็อาจมีแพแตกบ้างเป็นบางช่วง แต่ครั้งนี้เรารู้อยู่แล้วว่า เราจะเดินหน้าไปในทิศทางใด เรากำลังจะเจอกับอะไร และทุกคนก่อนที่จะเข้ามาทำงาน เป็นส.ส.ของพรรคก้าวไกล ต่างก็รู้อยู่แล้วว่า ตั้งแต่สมัยยังเป็นพรรคอนาคตใหม่ เราเคยโดนกับอะไรมา

นส.พนิดา กล่าวว่า หากจะมีการยุบพรรคจริง ก็ยืนยันได้ว่า จะไม่ส่งผลกระทบใดๆ กับสส.และการทำงานของพรรค เพราะอย่างสส. ก็มีแพลนการทำงานของเราล่วงหน้าไว้เป็นเดือนๆ ดังนั้นจึงไม่มีผลกระทบทั้งการทำงานในพื้นที่และการทำงานในสภาผู้แทนราษฎร งานสร้างพรรคและงานท้องถิ่นที่เรากำลังเดินหน้าอย่างเต็มที่ แต่สิ่งที่เราต้องเตรียมตัวก็คือ กระบวนการในการเข้าไปสู่พรรคการเมืองใหม่ การเกาะเกี่ยวกับสมาชิกพรรคก้าวไกลเดิมไว้และทำให้ทุกคนเข้าใจว่า มันหมดสถานะสมาชิกพรรคก้าวไกลแล้ว ต้องไปเริ่มใหม่ด้วยกัน วิธีการสมัครสมาชิกพรรคใหม่จะต้องทำอย่างไร ก็เป็นงานที่ต้องทำเพิ่มเติมจากงานปกติที่เราวางแผนไว้เพื่อทำอยู่แล้ว

“ที่ผ่านมา ก้าวไกลก็ได้สื่อสารกับประชาชนเต็มที่ว่าพรรคก้าวไกลเราสู้ในทุกทางที่เราจะสามารถสู้ได้ ข้อโต้แย้งในการสู้คดีต่างๆ ที่หัวหน้าพรรคและประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค(นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์) ได้นำเสนอต่อสาธารณะและต่อสังคม เราคิดว่าหากวัดกันด้วยข้อกฎหมาย เรามั่นใจว่าพรรคก้าวไกลจะไม่ถูกยุบพรรค”

ถามถึงกรณีมีคนพูดกันว่า หากพรรคก้าวไกลถูกยุบพรรค จะยิ่งทำให้ ยิ่งยุบยิ่งโต คนจะเห็นใจ พรรคและกลายเป็นบัตรลงคะแนนให้กับผู้สมัครของก้าวไกลทั้งระดับท้องถิ่นและระดับชาติ มองว่าจริงหรือไม่ นส.พนิดา กล่าวว่า เรื่องยิ่งยุบยิ่งโต เราคงไม่การันตี แต่ว่ายิ่งทำกับเรา ประชาชนยิ่งเห็นความผิดปกติของสังคมนี้ เพราะมันขัดกับความรู้สึกของประชาชนอย่างมาก สิ่งที่เราเดินหน้าทำตามกระบวนการทางกฎหมาย กลายเป็นผลออกมาว่ายุบพรรค โดยที่พรรคก้าวไกลได้รับความไว้วางใจจากประชาชนมากว่า 14 ล้านเสียง เรากำลังแบกความหวังของประชาชนกว่า 14 ล้านเสียง แต่จะกลับถูกยุบด้วยองค์กรที่อาจขาดความยึดโยงกับประชาชน ก็อาจทำให้ประชาชนได้เห็นความผิดปกติมากขึ้น และอาจทำให้รู้สึกถึงความจำเป็นต่อการออกมาใช้สิทธิใช้เสียงและมอบความไว้วางใจให้คนของพรรคก้าวไกล-พรรคการเมืองแบบก้าวไกล ที่ทำงานอย่างมีวาระ-มีประเด็นที่จะผลักดันสังคมได้เข้าไปทำหน้าที่ในการเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นได้จริง

สำหรับพรรคก้าวไกล ชนะการเลือกตั้งปี 2566 โดยได้ส.ส.มา 151 คน แต่ต่อมามีการขับออกจากพรรคไปสองคน คือส.ส.กรุงเทพมหานครและส.ส.ปราจีนบุรี จากกรณีถูกร้องเรียนเรื่องการคุกคามทางเพศ รวมถึงยังได้มีมติขับ นายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก และอดีตกรรมการบริหารพรรคก้าวไกล จากเหตุผลแท็กติกการเมืองเพื่อให้นายปดิพัทธ์ได้รักษาเก้าอี้รองประธานสภาฯ ไว้ต่อไป พรรคก้าวไกลจึงมีมติขับออกจากพรรค ต่อมานายปดิพัทธ์ไปอยู่กับพรรคเป็นธรรม

พรรคก้าวไกล ปัจจุบัน จึงเหลือส.ส. 148 คน ซึ่งหากพรรคก้าวไกลโดนยุบ ก็จะทำให้กรรมการบริหารพรรคที่เป็นส.ส.บัญชีรายชื่อ 5 คน คือ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์-ชัยธวัช ตุลาธน-เบญจา แสงจันทร์-อภิชาต ศิริสุนทร-สุเทพ อู่อ้น ต้องพ้นจากการเป็นส.ส.ไปด้วย และทำให้เก้าอี้ส.ส.ของพรรคก้าวไกลในสภาฯจะเหลือ 143 คน หลังทั้งห้าคนยืนยันไม่ลาออกจากส.ส.ก่อนถึงวันที่ 7 ส.ค.เพื่อเลื่อนผู้สมัครปาร์ตี้ลิสต์ขึ้นมาแทนห้าคน เพราะเชื่อว่าพรรคก้าวไกลจะไม่ถูกยุบพรรค ทำให้ไม่ถูกตัดสิทธิการลงสมัครรับเลือกตั้งสิบปีตามคำร้องของกกต. 

ขณะเดียวกัน หากพรรคก้าวไกลโดนยุบพรรค ก็ต้องมีการเลือกตั้งซ่อมส.ส.เขต 1 พิษณุโลก แทนนายปดิพัทธ์ ซึ่งเป็นส.ส.มาสองสมัยแล้วและการเลือกตั้งเมื่อปี 2566 ก็ชนะคู่แข่งขันอย่างขาดลอย โดยได้คะแนนทิ้งห่างคนที่ได้อันดับสองถึงสองหมื่นกว่าคะแนน อย่างไรก็ตาม การเลือกตั้งซ่อมที่อาจจะเกิดขึ้น พรรคใหม่ที่พรรคก้าวไกลจะตั้งขึ้นมา อาจส่งคนลงสมัครเลือกตั้งซ่อมไม่ทันก็เป็นได้  รวมถึง ทำให้เก้าอี้รองประธานสภาฯ คนที่หนึ่งของนายปดิพัทธ์ ว่างลง ซึ่งพรรคภูมิใจไทย คงเจรจาขอโควตาดังกล่าวจากพรรคเพื่อไทย  

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

มติเอกฉันท์! ศาลรธน. ไม่รับคำร้อง 'เรืองไกร' กล่าวหารัฐสภาแก้ รธน.ล้มล้างการปกครอง

‘ศาลรธน.’ มีมติเอกฉันท์ไม่รับคำร้อง ‘เรืองไกร’ ปมกล่าวหาประธานรัฐสภา–สมาชิกรัฐสภาใช้สิทธิล้มล้างการปกครอง ชี้การประชุมร่วมแก้รัฐธรรมนูญยังไม่ปรากฏพฤติการณ์เข้าข่ายมาตรา 49 แม้อัยการสูงสุดไม่ดำเนินการแต่ผู้ร้องมีสิทธิเข้าศาลโดยตรงก็ตาม

'เท่าพิภพ' ประกาศไม่ลงสส. 'อมรัตน์' ชมเปาะวัฒนธรรมการเมืองใหม่!

“เท่าพิภพ” สส.กรุงเทพ พรรคประชาชน ยืนยันไม่ลง สส. ต่อ พร้อมฝาก ‘ณพัฎน์ จิตตภินันท์กัณตา’ ลงสู้แทนตัวเอง ด้าน “อมรัตน์” โชคปมิตต์กุล ชมเป็นวัฒนธรรมการเมืองแบบใหม่ หลังผลักดันวาระสุราก้าวหน้าสำเร็จไป 80%

คนเสื้อแดงกินแห้ว! ศาล รธน. ไม่รับวินิจฉัย ปม MOA 'ภูมิใจไทย-ปชน.'

ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาคำร้องในคดีที่นายนิยม นพรัตน์ (ผู้ร้อง) ยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 49 กล่าวอ้างว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ผู้ถูกร้องที่ 1) และนายณัฐพงษ์

ลุ้นกันยาวๆ 24 ธ.ค.ศาล รธน.นัดไต่สวนพยานคดี 'ภูมิธรรม-ทวี' จุ้นคดีฮั้ว สว.

ศาล รธน.นัดไต่สวนพยานคดีสถานะ 'ภูมิธรรม-ทวี' จุ้นคดีฮั้วเลือก สว. 24ธ.ค.นี้ พร้อมไม่อนุญาต 'สราวุธ' ถอนตัวจากการพิจารณาคดี

เคาะแล้ว! กติกา-ที่มา '35 อรหันต์' ยกร่าง รธน.ใหม่

'กมธ.แก้รัฐธรรมนูญ' เคาะที่มา 'กมธ.ยกร่าง รธน.ใหม่' จากการสมัครผ่าน กกต. พร้อมกำหนดกติกา ก่อนส่งให้รัฐสภาเลือกผ่านสูตร '20 หยิบ 1' ปัดเอื้อพรรคเสียงข้างมาก ยันครอบงำไม่ได้