
แนวรบสว.สีน้ำเงิน VS ดีเอสไอ-ทวี ยังระอุ มือกฎหมายสภาสูง อัดใช้แค่โพยในห้องน้ำเป็นหลักฐานสอย 138 สว. ทำคดีแบบมุสา-เด็กเลี้ยงแกะ สร้างความระส่ำระสายให้บ้านเมือง จวกรมว.ยุติธรรม เลือกปฏิบัติ ไม่สอบสว.สีอื่น
2 มี.ค.2568-พ.ต.อ.กอบ อัจนากิตติ สมาชิกวุฒิสภา(สว.) หนึ่งในแกนนำสว.ในการตอบโต้ดีเอสไอและรมว.ยุติธรรมที่พยายามจะให้คณะกรรมการคดีพิเศษหรือบอร์ดดีเอสไอรับเรื่องการสอบสวนการเลือกสว.ปี 2567 ไว้เป็นคดีพิเศษ ซึ่งบอร์ดจะนัดประชุมกันพฤหัสบดีนี้ 6 มีนาคมกล่าวถึงการดำเนินการของดีเอสไอว่า ความพยายามที่จะเข้ามาสอบสวนเรื่องการเลือกสว. เป็นเรื่องที่คาดไม่ถึงก็ได้ ที่จู่ๆ มีการตั้งข้อกล่าวหากับผู้ใช้อำนาจนิติบัญญัติ แต่ในฐานะอดีตตำรวจ อดีตพนักงานสอบสวน เห็นว่า การทำงานแบบพนักงานสอนบสวน ต้องปฏิบัติตามหน้าที่คือต้องมีพยานหลักฐาน จะเอาหลักฐานมาอย่างเดียว แต่พยานไม่มี แล้วมาแถลงสรุปว่า แบบนี้ใช่ มันก็กระไรอยู่ เป็นการกล่าวหาที่เกินเลยไปบ้าง เพราะต้องใช้ดุลยพินิจ-วิจารญาณที่ไม่ก่อให้เกิดความระส่ำระสายในบ้านเมือง
พ.ต.อ.กอบ กล่าวว่า ถึงตอนนี้เข้าใจได้ว่า เขากล่าวหาทำนองว่า ที่มีการไปรวมตัวกันที่ต่างๆ เพื่อจะมาเลือกสว. อันนี้เป็นการมองทางกายภาพ คือไม่รู้เบื้องลึกเบื้องหลังว่ามีความเป็นมาอย่างไร แล้วก็มากล่าวหาว่ากระทำผิดกฎหมายโบราณ (ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 209 กระทำผิดฐานอั้งยี่) ซึ่งเป็นกฎหมายโบราณใช้ตั้งแต่สมัยจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ อย่างนายจรัญ ภักดีธนากุล (อดีตตุลาการศาลรธน.)ก็เคยบอกว่า กฎหมายนี้เป็นกฎหมายเหวี่ยงแห คือปลาอยู่ตรงไหนไม่รู้ แต่เหวี่ยงแหไปปลาโดนหมด ทั้งที่ควรต้องใช้ดุลยพินิจกันด้วยว่าจะใช้กฎหมายฉบับไหนที่จะมาดำเนินการให้เป็นธรรม เพราะที่กำลังดำเนินการอยู่ตอนนี้ คือ กระทรวงยุติธรรม “ยุติ” -“ธรรม” แต่คนทำไม่รู้ใคร กระทรวงยุติธรรม ต้องดูให้รอบคอบ-รอบด้านเพราะเป็นกระทรวงหลักที่คอยอำนวยความยุติธรรมให้กับประชาชนทั้งประเทศ รวมถึงสว.ด้วย
เมื่อถามว่าดีเอสไอมีอำนาจในการสอบสวนการเลือกสว.หรือไม่ พ.ต.อ.กอบ ย้ำว่า เขามีอำนาจแต่ไม่มีหน้าที่ แต่จะมีหน้าที่ก็ต่อเมื่อไปทำให้ถูกต้องเช่นการต้องเสนอเรื่องที่จะเข้าไปสอบสวน จะต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการคดีพิเศษก่อน แต่ว่าเรื่องที่ดีเอสไอมีอำนาจตามกฎหมาย คุณยังทำไม่ทันเลย แล้วคุณก็รับได้เลย แต่ก็ไม่รับ แล้วจู่ๆ เรื่องเลือกสว. จะมาทำโดยให้รับเป็นคดีพิเศษ เลยต้องส่งเรื่องให้บอร์ดคดีพิเศษ การที่ต้องอาศัยมติ ก็เพราะไม่แน่ใจ เลยต้องเอาองค์อำนาจเข้ามาเห็นชอบ ก็คือต้องการใช้องค์อำนาจ เพื่อให้มีความชอบธรรมไปทำ ดังนั้นที่ถามว่า มีอำนาจหรือไม่ ก็ต้องบอกว่า มีอำนาจ แต่ว่า อำนาจนี้ต้องใช้ให้ถูกต้อง
“ที่บอกว่า มีโผ มีโพย อันนั้นไม่ใช่หลักฐาน แต่เป็นสิ่งที่คุณคิด ที่ไปพบจากจุดที่แสวงหาข้อเท็จจริง โดยก็ไม่รู้ว่าโพยนี้ เอามาห้องน้ำที่ไหน มาบอกเอามาจากห้องน้ำที่เมืองทองธานี แล้วมาบอกว่ามาจากที่ไปเลือกสว. แบบนี้มันใช่ไหม ตรรกะที่พวกคุณทำ ตอบว่า มันไม่ใช่ คุณต้องมองในภาพรวมว่าข้อเท็จจริงนี้เป็นข้อเท็จจริงที่เป็นองค์ประกอบของความผิดหรือไม่ อย่างเรื่องที่บอกว่ามีการฮั้ว คำว่า ฮั้ว ความหมายคืออะไร ฮั้วตรงไหน ซึ่งผมว่ามันเป็นความเข้าใจที่เลื่อนลอย ผมถามกลับว่า การประชุมบอร์ดคดีพิเศษเมื่อ 25 ก.พ.ทำไมไม่ลงมติ แบบนี้ถือว่าเป็นการฮั้วหรือไม่ จะทำให้ลงตัวก่อนแล้วถึงค่อยมาลงมติทีหลังหรือ แล้วครั้งหน้าที่นัดประชุมวันที่ 6 มี.ค. ฮั้วมติหรือไม่ แล้วมาบอกว่า สว.ฮั้ว อันนี้ตีความตามข้อเท็จจริงเลย เพราะประชุมบอร์ดคดีพิเศษกันหลายคน ก็ถือเป็นกลุ่มแล้ว ที่ไม่ลงมติกันวันที่ 25 ก.พ.เพราะตกลงกันไม่ได้ ที่ลงมติไม่ได้เพราะฮั้วกันไม่ลง ถูกหรือไม่ ที่ไปถามคนอื่น ก็ต้องรับฟังให้ได้ เมื่อคนอื่นถามคุณกลับ แล้วคุณตอบได้หรือไม่ ผมที่เป็นสว.เป็นผู้ใหญ่ ไม่อยากต่อล้อต่อเถียงกับเด็ก ที่ไม่ใช่มืออาชีพ อันนี้ไม่ได้ระบุแบบเจาะจง ก็หมายถึงทั่วไป คนทำงานเพื่อประเทศชาติ ต้องมืออาชีพ คือสุจริต ซื่อสัตย์ ถือกฎหมาย มีศีลธรรม แต่นี้คุณมันมุสา ใช้ไม่ได้ ถ้ากฎหมาย เขาเรียกว่า กล่าวเท็จ”
พ.ต.อ.กอบ กล่าวว่า สว.ตามรัฐธรรมนูญ 200 คน มาจาก ยี่สิบกลุ่มอาชีพ แต่ที่รัฐมนตรี(พ.ต.อ.ทวี) บอกว่ามี 138 คน อันนี้เป็นเรื่องของการตัดตอนหรือไม่ เพราะสว.มี 200 คนแต่ที่มากล่าวหาว่า มีสว. 138 คน สำรองอีก 2 เป็นอย่างนั้นอย่างนี้ ที่เหวี่ยงว่าเป็นอั้งยี่ แล้วอีก 60 คนหายไปไหน เป็นสว.ในกลุ่มสีท่านหรือไม่ ถ้าพูดถึงสี ผมถึงบอกว่า แล้วทำไมไม่ลงมติ(บอร์ดคดีพิเศษ) ที่ไม่ลงมติ แบบว่าฮั้วหรือไม่ ฮั้วมติเป็นไปได้หรือไม่ อันนี้ต้องให้ความเป็นธรรมกับสว. จะมากล่าวหาฝ่ายนิติบัญญัติลอยๆไม่ได้
ถามย้ำว่า มีข่าวลือทางการเมืองทำนองว่า มีบางกลุ่มไม่มีสว.อยู่ในมือเลย ก็เลยอยากสร้างกองกำลังขึ้นมาอยากมีสว.ในมือ เลยใช้วิธีการแบบตกปลาในบ่อเพื่อน อย่างสว.สีน้ำเงิน พ.ต.อ.กอบ กล่าวว่า ผมไม่รู้ ไม่ทราบ เพราะผมมีหน้าที่มาประชุม มาพิจารณาเรื่องกฎหมาย สว.มีหน้าที่หลักๆ สามอย่าง หนึ่ง พิจารณาร่างกฎหมาย สอง ตรวจสอบอำนาจบริหาร สาม ให้ความเห็นชอบบุคคลไปทำหน้าที่ในองค์กรต่างๆเช่นองค์กรอิสระ
ถามอีกว่า ถ้าเขามาเจรจาทาบทามให้ไป จะไปไหม ไปอยู่กับกลุ่มสีแดง พ.ต.อ.กอบ ระบุว่า ผมไม่มีกลุ่ม ผมกลุ่มประชาชน เพื่อประโยชน์ประเทศชาติ ผมมาจากสว.กลุ่มที่ยี่สิบ หรือกลุ่มอื่นๆ ผมได้ทุกกลุ่ม คงไม่ใช่อุดมการณ์ในการใช้วิชาชีพกฎหมาย ผมมีอุดมการณ์ในการใช้วิชาชีพทางกฎหมายเพื่อสังคม ผมมาจากตำรวจ เป็นพนักงานสอบสวน ผมไม่ให้เสียมือ มาเป็นสว.ต้องมาทำงานเพื่อประชาชน
“สว.ไม่ได้กลัวการตรวจสอบ แต่ที่เรามองตอนนี้คือคนเขามองว่าเราเข้ามาโดยมิชอบ ทุจริต ที่เราจะดำเนินคดี ก็คือ มาใส่ร้าย ใส่ความ ส่วนที่บอกว่าจะรับเป็นคดีพิเศษ อันนี้เป็นหน้าที่คุณ ก็ตรวจสอบมาเลย เราไม่ได้กลัวว่าจะไม่มีตำแหน่งเป็นสว. ไม่ได้คิดตรงนี้เลย แต่เรายึดถือความถูกต้องเป็นหลัก การที่มาพูดใส่ความ มาหาว่าสว.เข้ามาโดยมิชอบ อันนี้คือทำผิดสำเร็จแล้ว ที่ยังไม่มีการแจ้งความตอนนี้เพราะต้องการหลักฐานที่มันชัดเจน เราอยู่ฝ่ายนิติบัญญัติ เราไม่กล่าวหาโดยใช้กฎหมายโบราณมากล่าวหาแบบเหวี่ยงแห เราไม่ทำ เราเป็นผู้ใหญ่ ไม่อยากทะเลาะกับเด็ก ยิ่งเป็นเด็กเลี้ยงแกะ ยิ่งไม่อยากทะเลาะด้วย”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'ภูมิธรรม-ทวี' ระทึก! ศาลรัฐธรรมนูญนัดวินิจฉัยคดี 21 ม.ค.2569
ด่วน! ศาลรัฐธรรมนูญ ไต่สวน พยาน 6 ปากเสร็จ นัดยื่นคำแถลงปิดคดี 6 ม.ค. ก่อนแถลงคำวินิจฉัย 21 ม.ค.
'ภูมิธรรม' มั่นใจแจงศาลรัฐธรรมนูญได้ทุกเรื่องปมให้อำนาจแทรกแซงคดีฮั้ว สว.
ศาลรัฐธรรมนูญนัดไต่สวนพยานและผู้เกี่ยวข้อง คดีสถานะ อดีตรองนายกฯและอดีตรัฐมนตรียุติธรรม แทรกแซงคดีฮั้วเลือก สว. 'ภูมิธรรม' มั่นใจชี้แจงได้ทุกประเด็น
'อดีตผู้พิพากษา' ข้องใจคดี 'ฮั้วเลือกสว.' อยู่ที่ไหน แสงที่ปลายอุโมงค์จะสว่างขึ้นอีกครั้งได้หรือไม่
นายวัส ติงสมิตร นักวิชาการอิสระ อดีตผู้พิพากษาอาวุโสในศาลฎีกา โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า ยังจำได้ไหม…คดีฮั้วเลือก สว. อยู่ที่ไหน และแสงที่ปลายอุโมงค์ จะสว่างขึ้นอีกครั้งได้หรือไม่
'ชูวิทย์' งง 'พรรคส้ม' ย้อนแย้ง กับความฝันเรื่องการเมืองใหม่ แต่กลับไปได้ของเก่ากว่าเดิม
นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตส.ส.และอดีตหัวหน้าพรรครักประเทศไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า ความย้อนแย้งของการเมืองใหม่
ตั้งทีมสอบประชานิยม/44ส้มระทึก
กกต.ลั่นคุมเข้มนโยบายประชานิยมหาเสียง ตั้ง คกก.ตรวจสอบเงินที่ใช้-วิเคราะห์ผลกระทบ ชี้ชัด "อินฟลูฯ-ยูทูบเบอร์" สมัคร สส.
กกต. ขึงขัง! สกัดขายฝัน 'ประชานิยม' ตั้ง คกก.คุมเข้มนโยบายหาเสียงเลือกตั้ง 69
กกต.ลั่นคุมเข้มนโยบายประชานิยมหาเสียง ตั้ง คกก.ตรวจสอบเงินที่ใช้-วิเคราะห์ผลกระทบ ชี้ชัดอินฟลู-ยูทูปเบอร์ สมัคร สส.ไม่เข้าข่ายลักษณะต้องห้าม ไม่เป็นเจ้าของ-ถือหุ้นสื่อ เป็นผู้ใช้สื่อ

