
วุฒิสภา ระบุรัฐบาลควรถอนร่างพรบ.สถานบันเทิงฯออกจากสภา ไม่ใช่ทิ้งเชื้อคาไว้ ค้านเอาที่การท่าเรือฯ คลองเตย ติดริมแม่น้ำ สองพันกว่าไร่ ประเคนกลุ่มทุนกาสิโนข้ามชาติ ข้องใจเร่งรีบเพื่อเตรียมทุนเอาไปหาเสียงเลือกตั้งครั้งต่อไปหรือไม่
13 เม.ย.2568-หลังที่ประชุมวุฒิสภาเมื่อวันที่ 8 เม.ย. ที่ผ่านมามีมติตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร วุฒิสภา จำนวน 35 คน
มีรายงานว่ากมธ.ฯจะนัดประชุมครั้งแรกในวันที่ 23 เม.ย. และคาดว่าประธานกมธ.ฯ จะเป็น นายสรชาติ วิชย สุวรรณพรหม สว.หรือไม่ก็ นพ.วีระพันธ์ สุวรรณนามัย สว. เพราะทั้งสองคนเป็นผู้เสนอญัตติต่อที่ประชุมวุฒิสภาให้มีการอภิปรายและตั้งกมธ.ฯ แต่เสียงส่วนใหญ่พบว่าตอนนี้สนับสนุนนพ.วีระพันธ์
นายปฏิมา จีระแพทย์ สมาชิกวุฒิสภา ในฐานะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร วุฒิสภา กล่าวว่าแม้รัฐบาลจะเลื่อนการพิจารณาร่างพรบ.สถานบันเทิงครบวงจรฯออกไปแล้วที่ถือว่ารัฐบาลตัดสินถูกต้องแล้วที่เลื่อนการพิจารณาร่างพรบ.ดังกล่าวออกไปก่อน อย่างไรก็ตาม แม้จะมีการเลื่อนพิจารณา แต่มันยังมีเชื้ออยู่ เพราะยังไม่มีการยกเลิก รัฐบาลต้องฟังเสียงประชาชน เพื่อดูว่าประชาชนมีความเห็นอย่างไร หากเป็นไปได้ ก็ควรยกเลิกการเสนอร่างพรบ.ดังกล่าวเข้าสภาฯไปเลย เพราะไม่ใช่การส่งเสริมรายได้เข้าประเทศในอนาคต กฎหมายทุกฉบับการบังคับใช้กฎหมายอาจหย่อนยานได้เมื่อเวลาผ่านไป ทำให้ในอนาคตอาจสร้างปัญหาให้กับประชาชนได้
“อย่างนักธุรกิจเอง ผมได้คุยกับหลายคน เขากังวลในเรื่องนี้เพราะหากพนักงานของบริษัทติดการพนัน แล้วมีหนี้สิน จะมีผลต่อการทำงานในบริษัท ก็อาจมาโกงบริษัท มีความกังวลกันอยู่ คิดว่า รัฐบาลควรเอาเวลาไปแก้ปัญหาประเทศเช่นกรณีสหรัฐอเมริกาขึ้นภาษีนำเข้าจากไทย ที่จะเกิดผลกระทบตามมามากมายเช่น ในส่วนของโรงงานที่ผลิตสินค้าส่งออกไปสหรัฐฯ ที่อาจเจอผลกระทบจนต้องเลิกจ้างคนงาน-พนักงาน รัฐบาลควรเอาเวลาไปแก้ปัญหาปากท้องประชาชน ไม่ใช่การบอกว่าจะเอาเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์มาเป็นแหล่งหารายได้ให้ประเทศ เพราะคนก็เห็นกันว่าเรื่องนี้มันไม่ได้ช่วยในเรื่องของรายได้ที่จะเข้าประเทศอย่างแท้จริง”
นายปฏิมากล่าวว่า ที่ไม่ควรทำเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์แม้จะมีพื้นที่สำหรับการเปิดกาสิโนแค่สิบเปอร์เซ็นต์ ก็ด้วยเหตุผลที่ว่า หากเอาเฉพาะเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์อย่างเดียว ยังไม่พูดถึงกาสิโน ที่มีการบอกว่าในโครงการเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์จะมีสิ่งต่างๆ ครบวงจร เช่นโรงภาพยนต์ โรงละคร โรงแรม ห้างสรรพสินค้า หากดูจากสภาพปัจจุบัน อย่างโรงแรมในประเทศไทย หากดูอัตราการเข้าพัก Occupancy rate จะพบว่ามีแค่บางโรงแรมเท่านั้น ที่อยู่ในย่านธุรกิจ ย่านท่องเที่ยว ที่มีรถไฟฟ้าไปถึงอาจจะมีอัตราการเข้าพัก 90 เปอร์เซ็นต์ แต่โรงแรมในพื้นที่อื่นๆ รอบกรุงเทพมหานครหรือต่างจังหวัดอัตราการเข้าพัก จะอยู่ที่ประมาณ 75-80 เปอร์เซ็นต์ ถ้าเป็นบางจังหวัดเช่น เชียงใหม่ ภูเก็ต ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ อัตราการเข้าพักอาจจะสูงถึง 100 เปอร์เซ็นต์ตรงนี้เป็นไปได้ ดังนั้นโรงแรมในเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ จะเข้ามาเป็นตัวแปร ที่จะมาแข่งขัน เข้ามาแย่งเรื่องห้องพักของโรงแรม
ขณะที่ศูนย์การค้า อย่างห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ในกรุงเทพมหานคร เช่น ไอคอนสยาม สยามพารากอน เซ็นทรัลเวิลด์ ถามว่า วันนี้คนที่ไปเดินในห้างดังกล่าวแล้วซื้อของ ไม่ใช่แค่เดินเล่นมีมากน้อยแค่ไหน คำตอบที่ผมมีคือ ทุกวันนี้ ที่เขาเรียกว่า window shopper ก็คือแค่ไปเดินดูของในห้าง เป็นการประหยัดค่าไฟที่บ้าน และส่วนใหญ่ที่ไปก็คือไปทานอาหาร ดังนั้น การจะเปิดห้างสรรพสินค้าในเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ก็ต้องทบทวนให้ดี ต้องทำการศึกษาอย่างลึกซึ้ง ส่วนที่จะให้มีโรงละคร จุคนได้ 20,000-30,000 คน ขนาดปัจจุบัน ประเทศไทยมีโรงละครหลายแห่ง ที่ขนาดไม่ใช่โรงละครขนาดใหญ่ ก็ยังมีเข้าไปไม่ค่อยเต็มจำนวนที่นั่งในโรงละคร ดังนั้นหากมีโรงละครใหญ่ ๆเปิดขึ้นมาถามว่า จะมีโอกาสจัดงานใหญ่ๆปีหนึ่งกี่ครั้ง และมีโอกาสที่จะมีคนเข้าไปชมกันเป็นจำนวนหลายหมื่นคนจริงหรือไม่ควรมีการศึกษาก่อน
นายปฏิมากล่าวต่อไปว่า รัฐบาลต้องฟัง คนที่ไม่เห็นด้วยกับร่างกฎหมายสถานบันเทิงครบวงจร สำหรับผมเองจากที่ได้ติดตามข่าว รัฐบาลเล็งพื้นที่ไว้ที่แถวคลองเตย ของการท่าเรือแห่งประเทศไทยพื้นที่ 2,153 ไร่ ของการท่าเรือฯ ทำอะไรได้อีกเยอะ และปัจจุบันก็มีหน่วยงานราชการในบริเวณพื้นที่ใกล้เคียงเช่น กรมศุลกากร สำนักงานการท่าเรือฯ ดังนั้น การจะทำโครงการขนาดใหญ่ต้องมีการศึกษาอย่างลึกซึ้ง ปัจจุบันเมื่อมีการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เนื้อที่แค่ 2-3 ไร่ มีการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการ ความคุ้มทุนของโครงการ การทำวิจัยต่างๆ บางแห่งต้องใช้เวลา 2-3 เดือน บางแห่งอย่าง การท่าเรือฯ ก็ 5-6 เดือน กว่าจะทำเสร็จเพราะว่าพื้นที่มันใหญ่มาก และที่รัฐบาลบอกว่า หากทำโครงการเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ จะสร้างรายได้เข้าประเทศมหาศาล มีรายได้จากค่าใบอนุญาตประกอบกิจการเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ โดยมีการยกตัวเลขต่างๆ ออกมา ผมไปติดตามเช็คข้อมูลเคยเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงในคณะกรรมาธิการฯของวุฒิสภา พบว่าข้อมูลที่แต่ละหน่วยงานชี้แจง ก็ไม่ตรงกัน แล้วแบบนี้เราจะเชื่อถือข้อมูลที่อ้างได้อย่างไร
“เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ แม้ไม่มีกาสิโน ผมก็ไม่เห็นด้วย ยิ่งเมื่อมีกาสิโน ผมยิ่งไม่เห็นด้วย อยากให้รัฐบาลฟังเสียงประชาชน ซึ่งสว.หลายคนไม่เห็นด้วยกับเรื่องกาสิโน เพราะเรื่องนี้จะสร้างผลกระทบอย่างรุนแรงต่อสังคม เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ คนที่ได้ประโยชน์จริงๆ หากมีการทำ ก็คือนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ หรืออาจเป็นเจ้าของบ่อนที่อยากมาเปิดในเมืองไทย แต่ประชาชนรากหญ้าไม่ได้ประโยชน์”
นายปฏิมา ยังกล่าวถึงเสียงวิจารณ์ถึงท่าทีของรัฐบาลที่ถูกมองว่าเร่งรัด-เร่งรีบต้องการให้ร่างพรบ.สถานบันเทิงครบวงจรฯออกมาประกาศใช้โดยเร็วว่า การออกกฎหมายใดๆ ก็ตาม หากยิ่งออกเร็ว จะทำให้เขาเกิดความมั่นคงเพราะเมื่อกฎหมายออกมาแล้ว การไปยกเลิกภายหลังจะทำได้ลำบาก เขาอาจมองว่าอายุของรัฐบาลชุดนี้จะอยู่ได้ถึงอีกสองปีเศษหรือไม่ ดังนั้นอะไรที่ออกเป็นกฎหมายได้เร็ว ก็อยากผลักดันให้ออกมาไปก่อนเพราะมันจะมีผลต่อรายได้ คนเรามันมองเรื่องเดียวเรื่องรายได้ จะระดับรากหญ้าก็มองเรื่องรายได้ คนทำงานก็มองรายได้ เจ้าของบริษัทก็มองรายได้ ยิ่งนักการเมือง ก็ยิ่งมองรายได้ว่าจะมีทุนเพื่อที่จะเอาไปหาเสียงในการเลือกตั้งครั้งต่อไปอย่างไร
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
สัญญาณชัดล้มดีลรัฐบาลพท. 'สว.น้ำเงิน'รุกตั้ง“องค์กรอิสระ”
สถานการณ์ นิติสงคราม ระหว่าง สีแดง กับ สีน้ำเงิน ผ่านเป้าหมายแบ่งเค้กในองค์กรอิสระ หลังพรรคเพื่อไทยเชื่อว่าสมาชิกวุฒิสภา (สว.) จำนวน 138 สว. เกี่ยวข้องกับพรรคภูมิใจไทย มีอำนาจเห็นชอบ ศาลรัฐธรรมนูญ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช. ) คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ผู้ตรวจการแผ่นดิน ฯลฯ ที่ให้คุณให้โทษทางการเมืองทางการเมืองได้
'นิพิฏฐ์' ซัดวุฒิสภายุคนี้ไร้วุฒิภาวะสิ้นดี!
นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต สส.พัทลุง โพสต์เฟซบุ๊ก
'นันทนา' รอเช็กข้อกม. ร่างคำร้องยังไม่เสร็จ ยันยื่น 'ปธ.วุฒิ' สัปดาห์นี้แน่
'นันทนา' เร่งร่างคำร้อง-ล่าชื่อ 20 สว. เสร็จสัปดาห์นี้ ยื่นยื่น 'ปธ.วุฒิ' ส่งศาลรัฐธรรมนูญ ขอ สว.หยุดทำหน้าที่ เฉพาะเห็นชอบองค์กรอิสระ
'สว.สิทธิกร' ห่วงดีเอสไอทำคดีฮั้ว แทรกแซง กกต. ต่อไปจุ้นคดีเลือกตั้ง สส.
'สว.สิทธิกร' รับทราบข้อกล่าวหา มั่นใจทำตามกฎหมาย ห่วงดีเอสไอทำคดีฮั้ว แทรกแซง กกต. เหตุขึ้นตรง รมว.ยุติธรรม เกรงไม่ได้รับความเป็นธรรม จี้สอบ สว.สำรองด้วย