
‘วิษณุ’ แจงโหวตสายสีเขียว ครม.ต้องรับผิดชอบร่วมกันตาม รธน. มาตรา 164 ชี้ ภท. ใช้สิทธิ์บอยคอตได้ ไม่เจอ ม.157 ยันกฎหมายเปิดทางเดินหน้าโครงการ แต่การเมืองไปต่อหรือไม่อยู่ที่นายกฯ
11 ก.พ.2565 – ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีหากรัฐมนตรี 7 คนของพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ไม่ร่วมโหวต หรือโหวตโน ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วาระขอความเห็นชอบผลการเจรจาและเห็นชอบร่างสัญญาร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว (ส่วนต่อขยาย) อาจจะเกี่ยวโยงมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 หรือไม่ว่า โดยปกติแล้วการไม่เข้าร่วมประชุม ครม. หรือเข้าประชุมแล้วไม่ร่วมโหวต หรือโหวตไม่เห็นด้วย ซึ่งทั้งหมดจะตั้งต้นด้วยสมมติฐานว่าผิด และถ้ามันผิด ก็ไม่ต้องรับผิดตามมาตรา 157 แต่รับผิดทางการเมือง ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 164 ซึ่งบัญญัติว่า ครม. ต้องรับผิดชอบร่วมกันในการกำหนดนโยบายและการบริหารราชการแผ่นดิน แต่ความรับผิดเป็นตัวๆ ก็จะเหมือนกับคดีหวยสองตัว สามตัว ที่รัฐมนตรีคนใดไม่เข้าประชุมก็ถือว่าไม่เกี่ยวต้องรับผิดตามมาตรา 157 แต่ทั้งหมดนี้ตั้งอยู่บนสมมติฐานว่าผิด แต่ถ้าไม่ผิดขึ้นมาก็อีกเรื่องหนึ่ง
เมื่อถามว่า หากเกิดกรณีดังกล่าว จะมีผลต่อมติครม.นั้นหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่มี ดังนั้นจึงถือว่ามติ ครม.สมบูรณ์
ส่วนที่ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯ กทม.) ระบุได้ตอบข้อชี้แจง 4 ข้อของกระทรวงคมนาคม และส่งไปที่กระทรวงมหาดไทยแล้วนั้น นายวิษณุ กล่าวว่า ยังไม่เห็นในส่วนนี้ หากตอบมาใหม่ ก็ต้องมาชี้แจงใน ครม. ใหม่
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากรัฐมนตรีของพรรค ภท. ยังไม่เห็นด้วยกับข้อชี้แจงดังกล่าว โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวยังจะสามารถเดินหน้าต่อไปได้หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ในทางกฎหมาย สามารถเดินหน้าต่อไปได้ แต่ในทางการเมืองจะสามารถเดินหน้าได้หรือไม่ อยู่ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โดยปกติมติ ครม. ไม่จำเป็นว่าจะต้องมีความเห็นชอบร่วมกันหมด เรื่องการโหวตและการไม่เห็นด้วย หรืองดออกเสียง มีหลายครั้ง แต่ไม่เคยทำเป็นพรรคแบบนี้ ส่วนมากรัฐมนตรีก็นั่งอยู่ในห้องประชุม ครม. และอภิปรายว่าไม่เห็นด้วย ซึ่งในการโหวตของครม. เคยมีการโหวตอยู่เหมือนกันประมาณ 1-2 ครั้ง ในกรณีจำเป็น เช่น ในสมัยรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ที่ท้าให้โหวตบ่อย
สำหรับกรณีที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะพรรค ภท. กลัวจะมีคดีติดตัวนั้น รองนายกฯ กล่าวว่า ไม่เอา ให้ไปถามนายอนุทินเอง อย่าเอาว่าท่านว่าอย่างไร แล้วมาถามตน
เมื่อถามว่า เป็นห่วงว่าเรื่องนี้จะมีผลกระทบต่อรัฐบาลหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า “ไม่ห่วงๆ แต่ถ้าพยายามทำให้เรียบร้อยได้ก็จะเป็นเรื่องดี ที่บอกว่าไม่ห่วง ไม่ใช่ว่าไม่แคร์ หรือไม่สนใจ ครม. เป็นรัฐบาลผสม ก็ต้องแคร์กัน และพยายามที่จะประคับประคอง ซึ่งการที่ ครม. ไม่ได้พิจารณาให้เสร็จในครั้งที่แล้ว และรอให้โอกาสกระทรวงมหาดไทยจะชี้แจงต่อไป ก็ถือว่าได้ดีในระดับหนึ่งแล้ว ถือเป็นการประนีประนอม“
เมื่อถามย้ำว่า นายวิษณุ มีทางออกในเรื่องนี้แล้วหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า “ไม่มีหรอก”.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'พิธา' สวน 'วิษณุ' ปมถือหุ้นไอทีวี ปัดตั้ง ครม.เงา ซ่อนรูปคณะเปลี่ยนผ่านรัฐบาล
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค กล่าวถึงกรณีที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงนายพิธา ว่าหากขาดคุณสมบัติตามกฏหมายปมถือหุ้นไอทีวีก็อาจจะส่งผลให้ต้องมีการเลือกตั้งซ่อมทั้งประเทศ
'ชลน่าน' คลั่งรัก! ลั่นเพื่อไทย-ก้าวไกล ผูกมัดกันแน่น ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับพิธา
นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้ความเห็นว่าหากนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ขาดคุณสมบัติการเป็น ส.ส. ในประเด็นถือหุ้นไอทีวี
'บิ๊กตู่' ตั้งการ์ดมวยไทยสู้สื่อ หลังถูกถามขอบสนามเลสเตอร์ฯ
นายกตั้งการ์ดสู้สื่อ สะท้อนเอกลักษณ์มวยไทย อีกนัยยะหนึ่งเพื่อสื่อบอกว่า ไม่อยากตอบเรื่องขอบสนามเลสเตอร์เมื่อวาน หลังถูกตื้อถาม
นายกฯ เผยนักลงทุนกังวลจัดตั้งรัฐบาลใหม่ ลั่นทุกอย่างกำลังไปด้วยดี ระวังอย่าให้เสียหาย
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม โดยกล่าว “สวัสดีนะครับสื่อมวลชนที่รักทุกท่าน ทั้งประชาชนที่รับฟังอยู่ทางบ้านด้วยการประชุมครม.
'บิ๊กตู่' ชี้ไม่สมควร ยังไม่เป็นรัฐบาลแล้วไปคุยส่วนราชการ เมิน 'พิธา' เดินสายนายกฯซ้อน
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) กรณีที่องค์กรต่างประเทศลงพื้นที่ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มากขึ้น เพื่อเก็บข้อมูลการเจรจาสันติสุข
นายกฯ ชื่นชม 'คลัง-ธปท.' รักษาสถานะการเงินแข็งแกร่ง ขอให้ติดตามดูทุกอย่างดีขึ้น
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ในที่ประชุมมีการรายงานสถานการณ์เศรษฐกิจภายในประเทศ ไตรมาสแรกปี 2566 รวมไปถึงการจ้างงานที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.4