
กต. เรียกร้อง ‘กัมพูชา’ ร่วมมือเก็บกู้ทุ่นระเบิด หลังมีท่าทีย้อนแย้งในการตอบโต้ข้อมูลของฝ่ายไทย พร้อมเดินหน้าในเวทีต่างประเทศ ใช้กลไกความร่วมมือกดดันต่อเนื่อง
18 ส.ค. 2568 – นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ชี้แจงกรณีที่มีการสอบถามเกี่ยวกับท่าทีของฝ่ายกัมพูชาที่ออกมาแถลงในประเด็นทุ่นระเบิดสังหารบุคคลในช่วงที่ผ่านมา นั้น โดยชี้แจงเพิ่มเติม ดังนี้
1.เป็นที่น่าเสียดายที่กัมพูชาไม่รับข้อเสนอของไทยในการร่วมเก็บกู้ทุ่นระเบิดในการประชุม RBC ระหว่างกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด กับกองบัญชาการภูมิภาคทหารที่ 3 ของกองทัพบกกัมพูชา เมื่อวันที่ 16 ส.ค. 2568 โดยฝ่ายกัมพูชาระบุว่าต้องขึ้นอยู่กับพัฒนาการของการดำเนินการตามข้อตกลงหยุดยิง ตลอดจนเสนอให้มีความร่วมมือเฉพาะในบริเวณที่มีการปักปันเขตแดนแล้วเสร็จก่อน
2.ท่าทีของกัมพูชาดังกล่าว เป็นท่าทีที่ย้อนแย้งกันอย่างชัดเจน โดยกัมพูชาอ้างว่าให้ความสำคัญกับการเก็บกู้ทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรม แต่กลับสร้างเงื่อนไขและปล่อยให้อาวุธร้ายแรงเช่นนี้ยังคงอยู่และถูกนำไปใช้ ถือเป็นการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงของ GBC อย่างชัดเจน และไม่ให้ค่ากับชีวิตและความปลอดภัยของมนุษย์ที่เป็นพี่น้องประชาชนของทั้งสองประเทศ ซึ่งเป็นการกระทำที่ไร้มนุษยธรรม และตอกย้ำเจตนารมณ์ที่จะยังคงละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศต่อไป
3.นอกจากนี้ ตามการแถลงข่าวของโฆษก กห. กัมพูชา และกรณีนายเฮง รัตนา ผอ. CMAC เช้าวันที่ 17 ส.ค. ที่กล่าวอ้างว่าทุ่นระเบิด PMN-2 ที่นำมาเสนอต่อคณะทูต องค์การระหว่างประเทศ และสื่อมวลชนที่ลงพื้นที่เมื่อวันที่ 16 ส.ค. 2568 ไม่ได้ก่อให้เกิดอันตรายเนื่องจากยังไม่ได้ปลดสลักนิรภัย ทางโฆษกกองทัพบกไทยได้ชี้แจงแล้วว่า เป็นการนำเสนอข้อมูลบางส่วน หวังบิดเบือนให้เกิดความสับสน ซึ่งในความเป็นจริงฝ่ายไทยได้นำเสนอทุ่นระเบิดที่ตรวจพบในทั้ง 2 ลักษณะ คือ ทุ่นระเบิดที่ยังไม่ได้นำไปติดตั้ง และทุ่นระเบิดที่ติดตั้งแล้ว รวมทั้งชิ้นส่วนของทุ่นระเบิดที่ได้ก่อให้เกิดการบาดเจ็บสาหัสและทำให้ทหารไทยพิการมาแล้ว ซึ่งถูกเก็บกู้มาจากบริเวณพื้นที่ภูมะเขือในจุดที่ทหารกัมพูชาเคยวางกำลังอยู่
4.การสื่อสารท่าทีของกัมพูชาในเรื่องนี้แสดงถึงความย้อนแย้งระหว่างหลักการและการกระทำอย่างชัดเจน กระทรวงการต่างประเทศจะยังคงเดินหน้าเรียกร้องให้กัมพูชากลับมาร่วมมือกับไทยในการเก็บกู้ทุ่นระเบิดอย่างจริงจังและจริงใจ และดำเนินการต่อเนื่องในเวทีระหว่างประเทศ ไม่ว่าจะผ่านกลไก Committee on Cooperative Compliance (คณะกรรมการปฎิบัติการตามอนุสัญญาฯ) ภายใต้กลไกอนุสัญญาออตตาวา ที่จะประชุมในวันที่ 22 ส.ค. นี้ หรือโดยการนำคณะทูตมาพิสูจน์ข้อมูลและหลักฐานด้วยตนเอง เพื่อให้ทุกประเทศและทุกองค์กรร่วมกันกดดันให้กัมพูชาปฏิบัติตามพันธกรณีในฐานะรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวาที่มีความรับผิดชอบ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
แต่ละอย่าง! ฉก.นย.ตราด เข้าควบคุมพื้นที่บ่อนกาสิโนเขมร พบสิงโต–หมีถูกขังในกรง
พลเรือตรี ปารัช รัตนไชยพันธ์ โฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่า ภายหลังที่ทหารนาวิกโยธินจากกองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและต
‘ทหารมีไว้ทำไม’ คำถามเก่าที่ตามหลอนพรรคส้ม!
สถานการณ์การสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้บทบาทกองทัพและประเด็นความมั่นคง กลับมาอยู่ในความสนใจของสังคมอย่างชัดเจน
อาเซียนเมินกัมพูชา ไม่หนุนข้อเสนอหยุดยิง-ถกจีบีซี24ธค./สมรภูมิสระแก้วยังเดือด
ประชุมรัฐมนตรีอาเซียนสมัยพิเศษเหลว ไร้ข้อสรุปเป็นรูปธรรม “กัมพูชา”
กต. แถลงการณ์ประชุมอาเซียนสมัยพิเศษ 'สีหศักดิ์' เปิดเหตุผล 5 ข้อ ไทยไม่หยุดยิง
กระทรวงการต่างประเทศ ออกแถลงการณ์การประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนสมัยพิเศษ (Special ASEAN Ministers’ Meeting: Special AMM) วันที่ 22 ธันวาคม 2568 กรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย
ไทยงัดหลักฐานเด็ดโชว์ 'ทูตพิเศษจีน' กัมพูชาใช้หมู่บ้านอำพรางฐานยิงจรวด BM-21
ศูนย์แถลงข่าวร่วม สถานการณ์ไทย-กัมพูชา นำโดย พลเรือตรี สุรสันต์ คงสิริ โฆษกกระทรวงกลาโหม ซึ่งมีการเปิดคลิปวิดีโอยืนยันหลักฐานการเคลื่อนที่ของทหารที่ยิงจรวด BM-21 โดยใช้พื้นที่หมู่บ้านในการอำพรางตัวเองและใช้พื้นที่ดังกล่าวเป็นฐานที่ยิงจรวด BM-21
ดร.กิตติธัช สอนพวกเท้าราน้ำ 'การทำลายให้สิ้นสภาพ' ไม่ใช่การบุกไปยึดครองกัมพูชา
นักวิชการ อธิบายชัดการทำลายให้สิ้นสภาพ ไม่ใช่การบุกไปยึดครองกัมพูชา หรือทำลายกองทัพกัมพูชาแบบเบ็ดเสร็จ

