เพื่อไทย อัดยุบพรรคเล็กควบรวมพรรคใหญ่ ขัดเจตนารมณ์ รธน.

แฟ้มภาพ

ชลน่าน-รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย อัดยุบพรรคเล็กรวมพรรคใหญ่ ขัดเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญ เปรียบเสมือนเป็นการยึดอำนาจคะแนนเสียงประชาชนเพื่อประโยชน์ของพรรคตัวเอง

22 ต.ค. 2564 - นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์กรณีพรรคเล็กหลายพรรคมีการยุบพรรคเพื่อรวมกับพรรคใหญ่ว่า รูปแบบการเมืองหลังจากนี้ถ้ามองในมุมลบ ถือเป็นการฝืนเจตนารมณ์ของประชาชนที่มอบอำนาจให้ เพราะการมอบอำนาจให้พรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่งนั้น เขาเต็มใจมอบอำนาจให้เพราะนโยบายคุณ แต่พอมีช่องว่างทางกฎหมายแล้วไปยุบรวมกันเช่นนี้ ถือเป็นการขัดเจตนารมณ์ประชาชน ไม่ให้เกียรติประชาชนที่เลือกตั้งมา

น.พ.ชลน่าน กล่าว่าอีกด้านหนึ่งของการยุบรวมเช่นนี้ จะทำให้กลไกของการทำหน้าที่ฝ่ายนิติบัญญัติบิดเบี้ยว สามารถใช้ความเป็นพรรคใหญ่ให้สิ่งแลกเปลี่ยน แรงจูงใจต่อพรรคเล็กให้มารวมกับตัวเองได้ เหมือนเป็นการเพิ่มกลไกใช้เสียงในสภาให้เป็นไปตามที่ตัวเองมุ่งหวัง ไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ประชาชนตั้งแต่ต้น ถ้าประชาชนอยากให้พรรคพลังประชารัฐทำหน้าที่แทน เขาก็เลือกแต่ต้น แต่ที่เขาเลือกพรรคเล็กแสดงว่าไม่เห็นด้วยกับพรรคพลังประชารัฐเลยไม่เลือก แต่พอใช้กลไกนี้บิดเบือนเจตนารมณ์ประชาชน ถือว่าเป็นการยึดอำนาจคะแนนเสียงประชาชนเพื่อประโยชน์ของพรรคตัวเอง

รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ย้ำว่า สิ่งที่เกิดขึ้นถือว่าขัดเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ และกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ แม้รัฐธรรมนูญฉบับนี้มีส่วนไม่ดีเยอะ แต่ก็มีที่เป็นส่วนดี เช่นต้องการให้พรรคการเมืองมีความยั่งยืน มีกระบวนการในการพัฒนาตัวเอง จึงมีเจตจำนงไม่ให้มีการยุบรวมหรือควบรวมในระหว่างอายุสภาฯ แต่ในกฎหมายลูกว่าด้วยพรรคการเมือง มีบทบัญญติที่ย้อนแย้งกันเองระหว่าง ประเด็นการสิ้นสภาพของพรรคการเมือง ที่ให้การสิ้นสภาพของพรรคการเมืองตามข้อบังคับของพรรค ให้มีลักษณะเหมือนการยุบพรรคเพื่อคุ้มครองส.ส.ของพรรคการเมืองนั้นๆ หาพรรคการเมืองสังกัดใหม่สังกัดได้ตามเวลาที่กำหนดคือ 60 วัน กับการห้ามควบรวมพรรคระหว่างอายุสภา ที่ห้ามพรรคการเมืองหนึ่งไปควบรวมกับอีกพรรคการเมืองหนึ่ง หากจะควบรวมต้องรวมกันเป็นพรรคการเมืองใหม่เท่านั้น ไม่ใช่การยุบรวมตามที่เกิดขึ้น

ประเด็นนี้ไม่อยู่ในหลักเกณฑ์ที่จะส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย เนื่องจากเป็นการย้อนแย้งกันเองในกฎหมายเดียวกัน ดังนั้นจึงเป็นหน้าที่ของรัฐสภาที่ต้องแก้ไขกฎหมายที่มีความย้อนแย้งกันนี้เพื่อรักษาเจตจำนงของประชาชนไว้ให้ได้

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'สุวัจน์' หวนคืนชื่อเดิม 'พรรคชาติพัฒนา' แต่งตั้ง สส.แจ้ เป็นรองหัวหน้าพรรค

พรรคชาติพัฒนากล้า เปิดการประชุมใหญ่สามัญ ประจำปี 2567 นำโดยนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า , นายเทวัญ ลิปตพัลลภ หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ,

'ชัยเกษม' ออกตัวไม่เกี่ยวปรับครม. ผู้บริหารพรรคจะใช้ให้ทำอะไรก็ได้ สบายๆ

นายชัยเกษม นิติสิริ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย เดินทางมาไหว้ศาลพระภูมิเจ้าที่ ศาลตา ศาลยาย โดยผู้สื่อข่าวได้สอบถามว่า การเดินทางมาไหว้วันนี้เกี่ยวอะไรกับการปรับ ครม.หรือไม่

ไทยในสายตาต่างชาติ: สมัยรัชกาลที่เจ็ด (ตอนที่ 20: การเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475 ในสายตาผู้ช่วยทูตทหารฝรั่งเศส)

(ต่อจากตอนที่แล้ว) ในรายงานลงวันที่ 24 กันยายน 1932 (พ.ศ. 2475) ของพันโท อองรี รูซ์ ผู้ช่วยทูตทหารบกและทหารเรือประจำสยาม ประจำสถานอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำสยาม มีความว่า

'เผ่าภูมิ' ปัดนายกฯ ส่งสัญญาณนั่งเก้าอี้รัฐมนตรี

นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวได้เดินทางมารับเอกสารกรอกแบบฟอร์มตรวจสอบคุณสมบัติรัฐมนตรี เรียบร้อยแล้ว ว่า ตนไม่ให้คอมเมนท์ ยืนยันว่าขณะ

'รทสช.' ลั่นเห็นด้วยกับแนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญของรัฐบาลทุกประการ!

'รวมไทยสร้างชาติ' ย้ำจุดยืนเดิมที่มั่นคงแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องไม่แตะหมวด 1 หมวด 2 ยันการทำประชามติ 3 ครั้งใช้งบมาก แต่หลีกเลี่ยงไม่ได้ต้องปฏิบัติตามคำวินิจฉัยศาลและรัฐธรรมนูญ