‘เนือยนิ่ง’โจทย์ใหญ่ที่’โรงเรียน’ต้องช่วยแก้ไข

เด็กไทยนอกจากเผชิญปัญหาการกินที่ไม่สมดุลทั้งได้รับสารอาหารบางอย่างเกินหรือขาด  ยังมีปัญหากิจกรรมทางกายต่ำ เพราะอยู่หน้าจอนานๆ ทั้งเรียนออนไลน์หรือเล่นเกม  จากรายงานสถานการณ์กิจกรรมทางกายของเด็กและเยาวชนไทย พ.ศ. 2565 (Thailand Report Card 2022) พบเด็กและเยาวชนไทย อายุระหว่าง 5-17 ปี มีกิจกรรมทางกายระดับปานกลางถึงระดับหนักสะสมได้อย่างน้อยเฉลี่ยวันละ 60 นาที เพียง 27% ของเด็กและเยาวชนไทยทั้งประเทศ แม้จะปรับเพิ่มขึ้นจากปี 2559 และ 2561 แต่ยังอยู่ในระดับต่ำ ข้อมูลยังพบว่าเด็กไทยใช้หน้าจอเพื่อความบันเทิงต่อวันนานเกิน 2 ชั่วโมงถึง 85%  นับเป็นปัญหาใหญ่จำเป็นเร่งด่วนต้องได้รับการส่งเสริมการมีกิจกรรมทางกาย เพราะพฤติกรรมเนือยนิ่งส่งผลเสียต่อพัฒนาการตามช่วงวัย ร่างกายไม่แข็งแรง อีคิวต่ำ และเสี่ยงโรคไม่ติดต่อหรือกลุ่มโรค NCDs

ดร.นพ.ไพโรจน์ เสาน่วม

ขณะนี้สถาบันการศึกษาเปิดเรียนแบบออนไซต์เต็มรูปแบบ เด็กและเยาวชนมีความผูกพันต่อโรงเรียนมาก ครูและโรงเรียนเป็นส่วนสำคัญต่อการผลักดันและส่งเสริมการมีกิจกรรมทางกายสำหรับเด็กและเยาวชน เหตุนี้ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และศูนย์พัฒนาองค์ความรู้ด้านกิจกรรมทางกายแห่งประเทศไทย (TPAK) สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล พัฒนาแพลตฟอร์ม www.activekidsthailand.com เป็นแนวปฏิบัติสำหรับการสนับสนุนเพิ่มกิจกรรมทางกายสำหรับกลุ่มเด็กและเยาวชนโดยเฉพาะ

ดร.นพ.ไพโรจน์ เสาน่วม ผู้ช่วยผู้จัดการ และรักษาการผู้อำนวยการสำนักสร้างเสริมวิถีชีวิตสุขภาวะ สสส. กล่าวว่า การยกระดับนโยบายการมีกิจกรรมทางกาย เน้นที่การสร้างความสุข ลดความเครียด สามารถประยุกต์ใช้แนวทางการส่งเสริมการมีกิจกรรมทางกายแบบทั้งระบบ (Whole - of – School Programmes) ช่วยเพิ่มโอกาสการมีกิจกรรมทางกายระหว่างวันให้กับนักเรียนมากขึ้น รวมถึงจัดให้เข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกด้านกิจกรรมทางกายอย่างปลอดภัย และเพิ่มพื้นที่สุขภาวะเพื่อให้นักเรียนสามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้มากขึ้นตลอดทั้งวันขณะอยู่ในโรงเรียน โดยสามารถศึกษาข้อมูลและนำไปประยุกต์ใช้ได้จาก www.activekidsthailand.com  นำไปสู่การมีกิจกรรมทางกายที่เพียงพอและสม่ำเสมออย่างน้อยเฉลี่ยวันละ 60 นาที ในกลุ่มเด็กและเยาวชน

คู่มือแนวทางโรงเรียนส่งเสริมกิจกรรมทางกายในเว็บไซต์

“ ความสำคัญของกิจกรรมทางกายในเด็ก มีงานวิจัยยืนยันส่งผลต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการ สัมพันธ์กับระบบหัวใจและปอดที่แข็งแรง สภาพกล้ามเนื้อ ระบบหัวใจและหลอดเลือด สุขภาพของกระดูกของเด็กอีกด้วย อีกทั้งช่วยพัฒนาการด้านอารมณ์และความจำที่ดี กระตุ้นความพร้อมการทำงานของสมอง ส่งเสริมประสิทธิภาพการเรียนรู้ สามารถคิดแก้ไขปัญหาเชิงสร้างสรรค์ ช่วยเรื่องการตัดสินใจ ตลอดจนลดอาการซึมเศร้า และการมีความสุขมากขึ้นจากการหลั่งสารเชโรนิน สารโดพามีน และเอ็นโดรฟินออกมา ”ดร.ไพโรจน์ ย้ำกิจกรรมทางกายช่วยเสริมพัฒนาทุกมิติ

สำหรับ www.activekidsthailand.com  ถือเป็นแหล่งรวมข้อมูลด้านวิชาการสำหรับครู โรงเรียนและผู้ที่สนใจใช้วางแผนนโยบายตั้งแต่เริ่มต้นจัดทำแผนการสนับสนุนและเพิ่มการมีกิจกรรมทางกายสำหรับกลุ่มเด็กและเยาวชนอายุระหว่าง 5-17 ปี ทั้งในและนอกโรงเรียน ด้วยแนวคิด 4 PC คือ Active Policy กำหนดนโยบายการส่งเสริมกิจกรรมทางกายภายในโรงเรียน, Active Program สร้างโอกาสให้กับนักเรียนมีกิจกรรมที่หลากหลายตามโอกาสและเวลาที่มี, Active Place การพัฒนาพื้นที่ในโรงเรียนให้เล่นได้และปลอดภัย, Active People ส่งเสริมการมีส่วนการทำกิจกรรมระหว่างครูและนักเรียน สร้างต้นแบบ และ Active Classroom ส่งเสริมห้องเรียนฉลาดรู้

ด้าน ผศ.ดร.ปิยวัฒน์ เกตุวงศา ผู้อำนวยการศูนย์พัฒนาองค์ความรู้ด้านกิจกรรมทางกายประเทศไทย กล่าวว่า  เว็บไซต์ดังกล่าวประกอบด้วยชุดความรู้ที่น่าสนใจ ทั้งคู่มือแนวทางโรงเรียนส่งเสริมการมีกิจกรรมทางกายในประเทศไทย ผ่านการวิจัยเชิงทดลองกับเด็กไทยนานกว่า 4 ปี จนพบข้อพิสูจน์ว่า สามารถช่วยเพิ่มระดับการมีกิจกรรมทางกายที่เพียงพอ และช่วยลดพฤติกรรมเนือยนิ่งได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะกับเด็กวัยประถมศึกษาด้วยแนวคิด 4 PC ,คู่มือการส่งเสริมกิจกรรมทางกายในเด็กตามแนวคิด ACP ของสมาคมกีฬาประเทศญี่ปุ่น เหมาะสำหรับคุณครู พ่อแม่ผู้ปกครอง รวมถึงผู้ฝึกสอนที่ทำกิจกรรมกับเด็ก ๆ ได้นำกิจกรรมไปปรับใช้ โดยรวบรวมการเล่นทั้งแบบไทยและญี่ปุ่นมากถึง 40 กิจกรรม อาทิ เกมเตยกัก ตี่จับ ปาระเบิด ลิงชิงหาง กระต่ายขาเดียว

คู่มือส่งเสริมกิจกรรมทางกายในเด็กเหมาะสำหรับครู

      นอกจากนี้ มีคู่มือสารตั้งต้นสนามฉลาดเล่นสำหรับประยุกต์กิจกรรมต่างๆ ผสมผสานระหว่างคู่มือการส่งเสริมกิจกรรมทางกายและการส่งเสริมความรู้ตามสาระการเรียนรู้ที่หลากหลายตามวิชาเรียน เหมาะสำหรับเด็กในวัยประถมศึกษา เน้นการส่งเสริมการเรียนรู้และการทำกิจกรรมทางกายในสนาม หรือพื้นที่ว่างในโรงเรียน และคู่มือสารตั้งต้นห้องเรียนฉลาดรู้เหมาะสำหรับการส่งเสริมกิจกรรมทางกายพร้อมกับการสอดแทรกความรู้ให้กับนักเรียนในห้องเรียน โดยมีตัวอย่างกิจกรรมที่ครูสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับวิชาที่สอนได้ เพื่อเปลี่ยนห้องเรียนและรูปแบบการเรียนการสอนแบบเดิมเป็นห้องเรียนฉลาดรู้ โรงเรียนฉลาดเล่น เด็กจะสนุกและมีความพร้อมต่อการเรียนรู้ได้ดียิ่งขึ้น

ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจสามารถดูข้อมูลได้ที่ www.activekidsthailand.com  หรือ www.thaihealth.or.th 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

“น้ำท่วมหาดใหญ่” สสส. ไม่ทอดทิ้ง! ผนึกกำลังภาคีเครือข่ายฯ เตรียมเปิดโมเดล 3 เฟส ช่วยทันที-ฟื้นบ้าน-สร้างภูมิคุ้มกันภัยพิบัติ

นพ.พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่อำเภอหาดใหญ่

สสส.-สถาบันยุวทัศน์ ฯ ผนึกเทศบาลนครเกาะสมุย เดินหน้า “นักเรียนปลอดบุหรี่-บุหรี่ไฟฟ้า” ผ่านสถานศึกษา 4 แห่ง

นายรามเนตร ใจกว้าง นายกเทศมนตรีนครเกาะสมุย อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า เทศบาลนครเกาะสมุย มียุทธศาสตร์การดำเนินงานเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตคนในพื้นที่

เด็กไทยเสี่ยงบนโลกออนไลน์ ถึงเวลามีสติรู้เท่าทันยุค AI

ทุกธุรกิจบนโลกใบนี้ล้วนเริ่มจาก “ความกลัว” ของมนุษย์-กลัวมืดจึงมีหลอดไฟ กลัวมองไม่เห็นจึงมีแว่นตา และในยุคที่โลกย้ายมาอยู่ในจอ ความกลัวรูปแบบใหม่ก็ผุดขึ้นเป็นรายวัน ตั

ไทยเข้าสู่สังคมสูงอายุสมบูรณ์เต็มรูปแบบ!!! สสส. สานพลัง Rocket Media Lab เปิดข้อมูลสถานการณ์ผู้สูงอายุ เตือน 3 ปัจจัยเสี่ยง สุขภาพ-เศรษฐกิจ-ที่อยู่อาศัย

ไทยเข้าสู่สังคมสูงอายุสมบูรณ์เต็มรูปแบบ!!! สสส. สานพลัง Rocket Media Lab เปิดข้อมูลสถานการณ์ผู้สูงอายุ เตือน 3 ปัจจัยเสี่ยง สุขภาพ-เศรษฐกิจ-ที่อยู่อาศัย ป่วย NCDs สูง ขาดเงินออม แถม 90% บ้านไม่เอื้อต่อการใช้ชีวิต กดดันให้สังคมไทยสู่ภาวะเปราะบาง แนะป้องกันปัญหาสุขภาพระยะยาว พร้อมส่งต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผลักดันสู่วัยสูงอายุด้วยความภาคภูมิใจ

สสส. เฟ้นสุดยอดนวัตกรรม! 'พื้นรองเท้าอัจฉริยะ เพิ่มกิจกรรมทางกาย-สติ๊กเกอร์ลดบุหรี่-ระบบเฝ้าระวังการขับขี่อัจฉริยะ AI-IoT' คว้ารางวัลชนะเลิศ 'Prime Minister’s Award for Health Promotion Innovation 2025'

สสส. เฟ้นสุดยอดนวัตกรรม! “พื้นรองเท้าอัจฉริยะ เพิ่มกิจกรรมทางกาย-สติ๊กเกอร์ลดบุหรี่-ระบบเฝ้าระวังการขับขี่อัจฉริยะ AI-IoT” คว้ารางวัลชนะเลิศ “Prime Minister’s Award for Health Promotion Innovation 2025” เติมเต็ม “จักรวาลสุขภาวะ” เยาวชน-สตาร์ทอัพ-ภาคีเครือข่าย-ประชาชนทั่วไป 178 ทีมทั่วประเทศ ส่งไอเดียประชันนวัตกรรมลดปัจจัยเสี่ยงสุขภาพ-ลดป่วย NCDs “รองนายกฯ โสภณ” ปลื้มผลงาน 7 ปี สสส. ปั้นนวัตกรไทย 1,660 ทีม พัฒนานวัตกรรมสุขภาพตอบโจทย์สังคม สร้างสภาพแวดล้อมเอื้อคนไทยมีสุขภาวะดีอย่างยั่งยืน

เยาวชนพิการ กทม. เรียนดี มีงานทำ มหกรรมแนะแนวการศึกษาและอาชีพสำหรับคนพิการแห่งเดียวในประเทศไทย

สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) มูลนิธินวัตกรรมทางสังคม มูลนิธิด้วยกันเพื่อคนพิการและสังคม มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว.) เปิดพื้นที่ให้เยาวชนพิการเข้าถึงข้อมูลการศึกษาต่อ ค้นพบศักยภาพ พร้อมสร้างโอกาสการมีงานทำที่มั่นคงในอนาคต ผ่านงาน เยาวชนพิการ กทม. เรียนดี มีงานทำ