ชุมชน กสบ.หมู่ 5 เขตสายไหม ริมคลองลาดพร้าว มีทางเดินและจักรยานเลียบคลอง
สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชนฯ / ผอ.พอช. เผยความคืบหน้าโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยบ้านมั่นคงริมคลองลาดพร้าวและคลองเปรมประชากร ช่วยแก้ปัญหาสิ่งรุกล้ำลำคลอง ทำให้การระบายน้ำในคลองมีประสิทธิภาพ ช่วยป้องกันน้ำท่วม นอกจากนี้ยังมีระบบการจัดการน้ำทิ้งในครัวเรือนก่อนระบายลงคลอง ดูแลสิ่งแวดล้อม พัฒนาคุณภาพชีวิตชาวชุมชน โดยขณะนี้สร้างบ้านมั่นคงริมคลองลาดพร้าวเสร็จแล้ว 3,106 หลัง ส่วนคลองเปรมฯ 447 หลัง รวม 3,553 หลัง ตั้งเป้าปี 2566 จะทำให้ประชาชนมีที่อยู่อาศัยไม่น้อยกว่า 2,500 ครัวเรือน
นายกฤษดา สมประสงค์ ผอ.พอช.
นายกฤษดา สมประสงค์ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) หรือ ‘พอช.’ กล่าวถึงกรณีที่มีการเผยแพร่ข้อความในสื่อออนไลน์ระบุว่า โครงการบ้านมั่นคงที่ พอช.ดำเนินการในคลองเปรมประชากรไปกีดขวางทางเดินของน้ำ ทำให้น้ำท่วมนั้น ตนขอชี้แจงว่า ข้อความดังกล่าวไม่ถูกต้องตามข้อเท็จจริง เพราะโครงการบ้านมั่นคงจะช่วยแก้ไขปัญหาสิ่งปลูกสร้างรุกล้ำคลอง
ผอ.พอช. กล่าวว่า โครงการบ้านมั่นคงริมคลองซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการบ้านมั่นคงของรัฐบาลที่ดำเนินการพัฒนาที่อยู่อาศัยให้กับประชาชนที่มีรายได้น้อย เป็นความร่วมมือจากหลายภาคส่วน ทั้งขบวนองค์กรชุมชน พอช. และกรุงเทพมหานครเนื่องมาจากกรุงเทพฯ และปริมณฑลเกิดน้ำท่วมใหญ่ในปี 2554 ซึ่งสาเหตุส่วนหนึ่งมาจากการระบายน้ำในคลองสายหลักไม่มีประสิทธิภาพ เพราะมีบ้านเรือนประชาชนปลูกสร้างกีดขวางทางเดินของน้ำในคลอง รัฐบาลจึงมีนโยบายแก้ไขปัญหาสิ่งรุกล้ำลำคลอง โดยการสร้างเขื่อนคอนกรีตระบายน้ำ เริ่มดำเนินการในคลองลาดพร้าวเป็นแห่งแรกในปี 2559 โดยให้กรุงเทพมหานครรับผิดชอบการก่อสร้างเขื่อนฯ ความยาวทั้งสองฝั่งประมาณ 45 กิโลเมตร
สภาพบ้านเรือนริมคลองลาดพร้าวก่อนมีโครงการบ้านมั่นคง
สภาพชุมชนใหม่ในเขตสายไหม
กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) มอบหมายให้ พอช.จัดทำแผนงานรองรับประชาชนด้านที่อยู่อาศัย มีหลักการสำคัญ คือ บ้านเรือนที่ปลูกสร้างรุกล้ำลำคลองจะต้องรื้อย้ายเพื่อไม่ให้กีดขวางทางระบายน้ำ หากชุมชนใดสามารถปลูกสร้างบ้านเรือนในที่ดินเดิมหรือบนแนวฝั่งคลองได้ จะต้องทำสัญญาเช่าที่ดินเพื่อปลูกสร้างบ้านใหม่ โดยเช่าที่ดินจากกรมธนารักษ์ระยะยาว ในอัตราผ่อนปรน เปลี่ยนสถานะจากเดิมเป็นชุมชนบุกรุกปลูกสร้างบ้านเรือนรุกล้ำลำคลอง เป็นชุมชนที่อยู่อาศัยอย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดย พอช.จะสนับสนุนงบประมาณก่อสร้างบ้านและสินเชื่อระยะยาว
“ส่วนคลองเปรมประชากรเป็นคลองที่รับน้ำจากทางด้านเหนือของกรุงเทพฯ รัฐบาลจึงมีโครงการก่อสร้างเขื่อนระบายน้ำเช่นเดียวกับคลองลาดพร้าว โดยน้ำที่ระบายลงสู่คลองเปรมฯ จะผ่านระบบบำบัดน้ำเสียของ กทม. และระบายผ่านอุโมงค์ระบายน้ำลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งในคลองเปรมฯ มีชุมชนที่สร้างบ้านเรือนกีดขวางทางเดินของน้ำจำนวน 38 ชุมชน รัฐบาลจึงต้องจัดระเบียบชุมชนที่รุกล้ำคลองเช่นเดียวกับในคลองลาดพร้าว โดยย้ายบ้านเรือนซึ่งส่วนใหญ่มีสภาพทรุดโทรม เพื่อให้ประชาชนมีที่อยู่อาศัยใหม่ที่มั่นคง มีสภาพแวดล้อมที่ดี และจะทำให้การระบายน้ำในคลองเปรมประชากรมีประสิทธิภาพ ช่วยป้องกันน้ำท่วม ไม่ใช่สร้างบ้านกีดขวางทางเดินของน้ำแต่อย่างใด” ผอ.พอช.กล่าว
สภาพคลองเปรมประชากรก่อนการพัฒนา
ชุมชนประชาร่วมใจ 2 เขตจตุจักร ริมคลองเปรมฯ
ผอ.พอช.กล่าวด้วยว่า ตามแผนการพัฒนาระบบคลอง กรุงเทพมหานคร จะมีการขุดลอกลำคลองให้ลึกกว่าเดิมเพื่อให้น้ำไหลได้สะดวก ขณะที่การก่อสร้างบ้านมั่นคงจะมีระบบบำบัดน้ำเสียจากครัวเรือนและส่งต่อไปยังท่อรวบรวมน้ำเสียซึ่งอยู่ภายใต้เขื่อนฯ ที่สร้างใหม่ และรวบรวมส่งต่อไปยังโรงบำบัดน้ำเสียของ กทม. รวมทั้งมีการปรับปรุงทัศนียภาพริมคลอง เช่น การปลูกต้นไม้ ไม้ดอก ผักสวนครัว จัดการขยะ ดูแลสิ่งแวดล้อม ติดตั้งไฟส่องสว่าง สามารถใช้เป็นเส้นทางจักรยานเลียบคลอง นอกจากนี้ยังมีการส่งเสริมคุณภาพชีวิตชาวชุมชน ผู้สูงอายุ ผู้พิการ ส่งเสริมอาชีพโดยหน่วยงานในกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ รวมทั้งส่งเสริมการท่องเที่ยวชุมชนริมคลองด้วย
ภาพกราฟฟิค ระบบบำบัดน้ำเสียในคลองเปรมฯ ก่อนระบายผ่านอุโมงค์ลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา
ปัจจุบัน พอช.ได้สนับสนุนการพัฒนาที่อยู่อาศัยชุมชนริมคลองลาดพร้าวแล้ว 35 ชุมชน อยู่ในพื้นที่เขตวังทองหลาง ห้วยขวาง จุตจักร บางเขน หลักสี่ ดอนเมือง และสายไหม สร้างบ้านเสร็จแล้ว 3,106 หลัง กำลังก่อสร้าง 432 หลัง จากเป้าหมายทั้งหมด 50 ชุมชน รวม 7,069 หลัง
ส่วนคลองเปรมประชากรอยู่ในพื้นที่เขตจตุจักร หลักสี่ ดอนเมือง และในพื้นที่ตำบลหลักหก อ.เมือง จ.ปทุมธานี มีทั้งหมด 38 ชุมชน รวม 6,386 หลัง ดำเนินการแล้วใน 10 ชุมชน สร้างบ้านเสร็จแล้ว 447 หลัง กำลังก่อสร้าง 509 หลัง โดย พอช. มีแผนดำเนินงานในปี 2565 ต่อเนื่องไปจนถึงปี 2566 รวม 17 ชุมชน ซึ่งหากดำเนินการได้ตามแผนงานจะสามารถพัฒนาที่อยู่อาศัยให้กับชุมชนริมคลองเปรมประชากรได้ไม่น้อยกว่า 2,500 ครัวเรือน
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ เป็นประธานยกเสาเอกสร้างบ้านมั่นคงริมคลองเปรมฯ แห่งแรกที่ชุมชนประชาร่วมใจ 2 เขตจตุจักร เมื่อเดือนมกราคม 2563
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
พลิกชีวิตชุมชนเชียงใหม่! พอช.-มช. ผนึกกำลังขับเคลื่อน ศูนย์เด็กเล็ก-คลองแม่ข่า สู่อนาคตที่เข้มแข็ง
เชียงใหม่ สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) หรือ พอช. และมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (มช.) จัดประชุมหารือแนวทางสร้างความร่วมมือกันในขับเคลื่อน การพัฒนาชุมชนท้องถิ่นให้เข้มแข็ง โดยมุ่งเน้นการพัฒนาศูนย์เด็กเล็กและพื้นที่ริมคลองแม่ข่า เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับประชาชนในจังหวัดเชียงใหม่
"MOU หน่วยงาน ผนึกกำลังขับเคลื่อน ‘ภูเก็ตเกาะสวรรค์’ สู่จังหวัดจัดการตนเอง"
สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน(องค์การมหาชน)หรือ พอช. ร่วมกับ 18 หน่วยงานร่วมจัดเวทีบันทึกความร่วมมือ “ภูเก็ตเกาะสวรรค์จัดการตนเอง”
จังหวัดภาคเหนือก้าวสู่การจัดการตนเอง: ขับเคลื่อนจังหวัดบูรณาการชุมชนเข้มแข็ง
วันที่ 17-18 มีนาคม 2568 สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน(องค์การมหาชน) หรือ พอช. ร่วมกับ ขบวนองค์กรชุมชนภาคเหนือ จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ "Kick off แนวทางการขับเคลื่อนงานจังหวัดบูรณาการสู่จังหวัดจัดการ
“รักจังสตูล” รวมพลังคนสตูล บูรณาการความรู้ สร้างเครือข่ายหุ้นส่วนเพื่อการพัฒนาชุมชนและสังคมให้ยั่งยืน
สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน(องค์การมหาชน) หรือ พอช. จัดเวทีคืนข้อมูลโครงการวิจัยบูรณาการภาคีร่วมพัฒนาเพื่อส่งเสริมชุมชนเข้มแข็งสู่การยกระดับคุณภาพชีวิตทุกช่วงวัย
8กองทุนสวัสดิการชุมชนดีเด่นรับรางวัล ‘ป๋วย อึ๊งภากรณ์’ ปี 2567 ‘ด้านการพัฒนาสุขภาพ ความมั่นคงทางอาหาร’ กองทุนสวัสดิการชุมชนตำบลหนองงูเหลือม อ.เมือง จ.นครปฐม (1)
‘กองทุนสวัสดิการชุมชน’ เริ่มจัดตั้งทั่วประเทศในปี 2548 โดยสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์และรัฐบาลให้การสนับสนุน
รวมพลังชุมชน ขับเคลื่อนการจัดการป่า ลดฝุ่นควัน สร้างสุขภาวะที่ดี
กรุงเทพฯ/12 มีนาคม 68 สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน(องค์การมหาชน)หรือ พอช. จับมือ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จัดเวทีประชุมเชิงปฏิบัติการ การขับเคลื่อนการจัดการป่าชุมชนเพื่อลดฝุ่นตวันและสร้างสุข