สธ.แถลงด่วน ขอคืนหนังสือส่งถึงตำรวจ ขอทบทวนให้จับกุมใช้กัญชา 4 กรณี

กระทรวงสาธารณสุข แถลงด่วน ขอคืนหนังสือส่งถึงตำรวจ ขอทบทวนกรณีให้จับกุมใช้กัญชา 4 กรณี เตรียมปรับปรุงประกาศกัญชาเป็นสมุนไพรควบคุม เหลือเฉพาะ “ช่อดอก” แทนทั้งต้น คาดสัปดาห์หน้าแล็วเสร็จ ย้ำการค้าขายส่วนอื่นๆแบบปัจจุบันที่ไม่ใช่ช่อดอก ยังสามารถดำเนินการได้ตามปกติ
.
จากกรณีที่ เมื่อวันที่ 26 ก.ค.2565 นพ.ณรงค์ สายวงศ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) ลงนามในหนังสือด่วนที่สุด ที่ สธ ๐๕๑๓.๐๓/๒๕๖๖ เรื่อง การดำเนินคดีกับผู้ไม่ขออนุญาตศึกษาวิจัย หรือส่งออกสมุนไพรควบคุม หรือจำหน่าย หรือแปรรูปสมุนไพรควบคุมเพื่อการค้า ถึงผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ผบ.สตช.)ขอให้ดำเนินการจับกุมผู้ฝ่าฝืนการใช้กัญชาที่เป็นสมุนไพรควบคุมตามพ.ร.บ.คุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย พ.ศ.2542 ใน 4 กรณีคือ 1. ไม่ขออนุญาตศึกษาวิจัยกัญชา2. ไม่ขออนุญาตส่งออกกัญชา 3. ไม่ขออนุญาตจำหน่ายกัญชา และ4. ไม่ขออนุญาตแปรรูปกัญชาเพื่อการค้านั้น

.ล่าสุดเมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 27 ก.ค.2565 ที่กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) นพ.ณรงค์ สายวงค์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) พร้อมด้วยนพ.ยงยศ ธรรมวุฒิ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ร่วมกันแถลงข่าวด่วนกรณีดังกล่าว
.
นพ.ณรงค์ กล่าวว่า ตามที่หนังสือดังกล่าวระบุถึงการให้ดำเนินคดีกับผู้ไม่ขออนุญาต 4 กรณีดังกล่าวนั้น เพื่อต้องการคุ้มครองผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี สตรีตั้งครรภ์และสตรีให้นมบุตร จากที่ได้มีการตรวจสอบหนังสือและปรึกษากับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้สรุปให้มีการข้อสั่งการให้อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกให้ทบทวนในรายละเอียดประเด็นที่เกี่ยวข้อง และนำเสนอต่อไป ทั้งนี้ นำหนังสือฉบับดังกล่าวกลับมาพิจารณาทบทวนอีกครั้ง เพื่อให้เกิดประโยชน์กับประชาชนสูงสุด

ด้านนพ.ยงยศ กล่าวว่า จากการประชุมของอนุกรรมการกฎหมายตามพ.ร.บ.คุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาฯ ซึ่งทางอนุกรรมการกฎหมายได้มีการปรึกษาหารือร่วมกันเพื่อความสมบูรณ์ในการประกาศให้กัญชาเป็นสมุนไพรควบคุม อาจจะต้องปรับปรุงประกาศกระทรวงสาธารณสุขเพิ่มเติมให้มีความชัดเจนมากขึ้น ใน 4 เรื่อง ได้แก่ 1.ประชาชนที่ใช้กัญชาดูแลสุขภาพต้องไม่ได้รับผลกระทบ 2.ไม่มีผลทางกฎหมายกับความผิดที่เกิดขึ้นก่อนที่จะมีประกาศฉบับดังกล่าว
.
3.ความชัดเจนของการดำเนินการของเจ้าหน้าที่และไม่มีความผิด และ 4.กัญชาเป็นพืชที่มีความสำคัญในการสร้างเศรษฐกิจและคุณค่าทางการแพทย์ การเปิดโอกาสให้กัญชากลับไปเป็นยาเสพติดเหมือนเดิม ถูกด้อยค่า ไม่ควรเกิดขึ้น ฉะนั้น ทางอนุกรรมการฯ เห็นเบื้องต้นว่า ควรปรับปรุงประกาศสธ.เรื่องสมุนไพรควบคุม (กัญชา) ให้ชัดเจน โดยประเด็นหลักเช่น ประกาศให้เฉพาะช่อดอกกัญชา เป็นสมุนไพรควบคุม โดยเฉพาะผู้ประกอบการที่ใช้ประโยชน์จากกัญชาด้วยส่วนประกอบอื่นที่ไม่ใช่ช่อดอก จะสามารถดำเนินการได้ตามปกติ ทั้งนี้ ประกาศจะเป็นตามขั้นตอนคือส่งให้ปลัดสธ. และรมว.สาธารณสุข ลงนามเพื่อประกาศใช้ คาดว่าจะดำเนินการให้แล้วเสร็จในสัปดาห์หน้า
.
นพ.ยงยศ กล่าวอีกว่า การปรับปรุงประกาศกระทรวงสาธารณสุขที่เดิมกำหนดให้กัญชาเป็นสมุนไพรควบคุม ฉบับปรับปรุง เช่น จะกำหนดให้เฉพาะช่อดอกกัญชาเป็นสมุนไพรควบคุมเท่านั้น ส่วนราก ใบ กิ่ง ก้าน ต้น ที่ประชาชนนำไปใช้ประโยชน์โดยร้านอาหารหรือผู้ประกอบการที่ไม่ได้ใช้ช่อดอก ซึ่งมีการค้าขายทั้งหมดอยู่ขณะนี้สามารถดำเนินการได้ตามปกติ และมีการกำหนดปริมาณเหมาะสมที่ครัวเรือนสามารถใช้ประโยชน์จากช่อดอกที่ปลูกไว้ใช้ 10-20 ต้นได้ ซึ่งปริมาณเท่าไหร่จะมีการหารือร่วมกันอีกครั้ง เป็นต้น โดยจะมีการเสนอคณะกรรมการคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาฯที่มีปลัดสธ.เป็นประธานพิจารณาก่อนเสนอรมว.สธ.ลงนามต่อไป คาดว่าสัปดาห์หน้าจะดำเนินการแล้วเสร็จ
.
“ส่วนข้อกังวลว่าจะมีการบังคับใช้ จับกุม ขอยืนยันว่าน่าจะยังไม่เกิดขึ้น ยกเว้นผู้ที่วางพันลำขายข้างถนน การผลิตเพื่อให้เสพโดยการสูบ ซึ่งเราชัดเจนว่าเราพยายามขีดวงการใช้กัญชาเพื่อนันทนาการให้มากที่สุด” นพ.ยงยศกล่าว
.
นพ.ยงยศ กล่าวต่อหลังจากผู้สื่อข่าวถาม ระหว่างรอประกาศฉบับปรับปรุงนี้ จะมีการดำเนินการจับกุมกับผู้ดำเนิน 4 กรณีตามหนังสือที่ส่งถึงตำรวจก่อนหน้านี้หรือไม่ นพ.ยงยศ กล่าวว่า ไม่มีเวลาไปจับกุม เพราะจะกวดขันในการใช้ช่อดอกมาแปรรูปเพื่อเสพ โดยการตักเตือนเฝ้าระวัง ส่วนการส่งหนังสือถึงตำรวจนั้นก็ชัดเจนว่า ตำรวจจะต้องไปดำเนินการเมื่อได้รับการร้องขอจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญา ฯ ซึ่งจะเป็น นพ.สสจ. และอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยฯ และผู้ทรงคุณวุฒิของกรมระดับ 8-9 อีกราว 10 คน

“การสื่อสารมีความชัดเจนว่าให้เจ้าหน้าที่ตำรวจรอการประสานจากพนักงานเจ้าหน้าที่เพื่อให้ช่วยดำเนินการ ทั้งนี้ หากเจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่ามีการจำหน่ายกัญชาที่เป็นสิ่งของเฉพาะต้องอาศัยความเชี่ยวชาญ ตัวกฎหมายจึงออกแบบมาว่าจะต้องอาศัยพนักงานเจ้าหน้าที่มีความเชี่ยวชาญระบุว่าเป็นสิ่งต้องห้าม ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจอาจใช้ดุลยพินิจส่วนนี้ไม่ครบถ้วนทางกฎหมาย ฉะนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงต้องได้รับการประสานร้องขอ”นพ.ยงยศกล่าว
.
เมื่อถามต่อว่าประกาศปรับปรุงเป็นการควบคุมเฉพาะช่อดอก แล้วผู้ประกอบการจะนำมาจำหน่ายได้หรือไม่ นพ.ยงยศ กล่าวว่า สำหรับช่อดอกที่ปริมาณมากวัตถุประสงค์เพื่อจำหน่าย ต้องขออนุญาตตามขั้นตอน โดยผู้จำหน่ายจะต้องมีคุณสมบัติที่กำหนด โดยเป็นรายละเอียดที่ต้องหารือกัน ซึ่งจะมีการออกแบบการขออนุญาตให้สะดวกกับประชาชนมากที่สุด ทั้งนี้ เราจะเปิดฟังความคิดเห็นผ่านระบบออนไลน์เพื่อให้ได้ข้อสรุปในสัปดาห์หน้า

“เราได้คิดเผื่อไว้ว่าหาก พ.ร.บ.กัญชา กัญชง พ.ศ. ... ที่อยู่ในสภาลากยาวอีกเดือน สองเดือนเราจะบรรเทาความเดือนร้อนของประชาชน ผู้ประกอบการอย่างไร เราคิดเผื่อไว้เป็นระบบออนไลน์ คาดว่าสัปดาห์หน้าจะประกาศปรับปรุงจะออกมา” นพ.ยงยศกล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

โควิดพุ่ง! ไทยติดเชื้อใหม่รอบสัปดาห์ 630 ราย ดับเพิ่ม 5 คน

กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 รายสัปดาห์ว่า ระหว่างวันที่ 17 - 23 มีนาคม 2567 มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ รักษาในโรงพยาบาล (รายสัปดาห์) 630 ราย

ไทยติดโควิดใหม่รอบสัปดาห์ 501 ราย ดับเพิ่ม 4 คน

กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 รายสัปดาห์ว่า ระหว่างวันที่ 10 - 16 มีนาคม 2567 มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ รักษาในโรงพยาบาล (รายสัปดาห์) 501 ราย

รัฐบาลชวนผู้ปกครองพาบุตรหลานรับวัคซีนป้องกันโรคหัด-ไอกรน

'รัฐบาล' ห่วงใยโรคหัดและไอกรน ชี้เด็กรับวัคซีนขั้นพื้นฐานน้อยลง เชิญชวนผู้ปกครองนำบุตรหลานรับวัคซีนพื้นฐาน ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันฟรี

ไทยติดโควิดใหม่รอบสัปดาห์ 446 ราย ดับเพิ่ม 3 คน

กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 รายสัปดาห์ว่า ระหว่างวันที่ 2567 มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ รักษาในโรงพยาบาล (รายสัปดาห์) 446 ราย

'น่านโมเดล'-อารยสถาปัตย์ กับแนวคิดท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ

จังหวัด น่าน คืออีกหนึ่งจังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน ที่อยู่ในใจนักท่องเที่ยวหลายคนที่เคยไปเยือน จนต้องปักหมุดให้เป็นจังหวัดในดวงใจ เพราะ น่าน