เปิด 9 แนวทางยกระดับกรมตรวจบัญชีสหกรณ์สู่องค์กรดิจิทัล

กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ วาง 9 แนวทางพัฒนาการบริการสู่องค์กรดิจิทัล เน้นเพิ่มศักยภาพบุคลากร พร้อมพัฒนาเทคโนโลยีช่วยปฏิบัติงาน สร้างความเข้มแข็ง โปร่งใสให้แก่สหกรณ์ และเกษตรกร

นายอำพันธุ์ เวฬุตันติ อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ กล่าวว่า กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ได้กำหนดกรอบทิศทางการปฏิบัติงานให้สอดคล้องกับนโยบายและเป้าหมายการพัฒนางานที่สำคัญของกระทรวงเกษตรกรและสหกรณ์ ครอบคลุมภารกิจหลักของกรมฯ โดยได้จัดทำแผนปฏิบัติราชการระยะ 5 ปี(พ.ศ.2566-2570)ที่สอดคล้องกับประเด็นและแนวทางการพัฒนา โดยกำหนดให้มีการพัฒนาระบบบริหารจัดการและการให้บริการสู่องค์กรดิจิทัล ประกอบด้วยแนวทางดังนี้ ๑. พัฒนาโครงสร้างและระบบการบริหารจัดการองค์กรให้ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลง สามารถตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงได้ทุกมิติ พร้อมปรับอัตรากำลังให้เหมาะสมกับปริมาณงาน มุ่งสู่องค์กรที่มีขีดสมรรถนะสูง ทำงานเชิงรุก บูรณาการเชื่อมโยงเป็นเครือข่ายเดียวกัน สร้างแรงจูงใจและขวัญกำลังใจในการปฏิบัติงาน

๒. สร้างและพัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ ความสามารถสูง ปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลง และเข้าถึงเทคโนโลยีดิจิทัลอย่างมืออาชีพ ควบคู่กับการพัฒนาทักษะ และการใช้เครื่องมือด้านดิจิทัล โดยวิเคราะห์ศักยภาพของบุคลากร เพื่อกำหนดแนวทางการพัฒนาที่เหมาะสม ก่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์อย่างเป็นรูปธรรม เช่น ยกระดับผู้สอบบัญชีให้เป็น Cyber Auditor ที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านการสอบบัญชีและเทคโนโลยีดิจิทัล เสริมสร้างสมรรถนะและศักยภาพของบุคลากรที่จำเป็นต่อการปฏิบัติงาน และถ่ายทอดองค์ความรู้จากรุ่นสู่รุ่น พร้อมติดตามและประเมินผลเพื่อสะท้อนศักยภาพของบุคลากรและประสิทธิภาพการปฏิบัติงานอย่างแท้จริง  

๓. ยกระดับการดำเนินการด้านคุณธรรม และความโปร่งใสขององค์กร สร้างการรับรู้ความเข้าใจ ด้านคุณธรรมและความโปร่งใสในองค์กร สร้างการตระหนักรู้ และจัดทำกิจกรรมเพื่อยกระดับด้านคุณธรรมและความโปร่งใสให้ผ่านเกณฑ์การประเมิน ITA ตามที่กำหนดไว้  

๔. พัฒนารูปแบบการให้บริการประชาชนด้วยการบริหารจัดการองค์กรที่ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลและนวัตกรรม อาทิ การพัฒนาทะเบียนผู้สอบบัญชีรับอนุญาตหรือบุคคลอื่น พัฒนาระบบการแต่งตั้งผู้สอบบัญชีสหกรณ์ เพื่อให้สหกรณ์และผู้สอบบัญชีรับอนุญาตหรือบุคคลอื่นสามารถใช้บริการในการสืบค้นข้อมูล ที่เป็นประโยชน์ได้ง่าย สะดวก และรวดเร็ว รวมถึงกรมสามารถนำข้อมูลไปใช้ในการกำกับดูแลการสอบบัญชีสหกรณ์ โดยผู้สอบบัญชีรับอนุญาตหรือบุคคลอื่น ได้สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น

๕. พัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการบริหารองค์กร โดยนำเทคโนโลยีมาใช้พัฒนากระบวนการให้บริการตามภารกิจกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ เน้นความรวดเร็ว โปร่งใส มีธรรมาภิบาล และตรงตามความต้องการของกลุ่มเป้าหมายอย่างแท้จริง พัฒนาระบบสารสนเทศ และระบบฐานข้อมูลของกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ให้เข้าถึงง่าย สามารถเชื่อมโยงข้อมูลได้อย่างเป็นระบบ ลดขั้นตอนการใช้กระดาษเปลี่ยนเป็นดิจิทัล

๖. เพิ่มประสิทธิภาพและความปลอดภัยระบบคอมพิวเตอร์และระบบเครือข่าย ให้สามารถใช้งานได้ทันสถานการณ์ได้อย่างทันท่วงที มีความปลอดภัยเป็นไปตามมาตรฐานสากล และมีความพร้อมต่อการรองรับข้อมูลขนาดใหญ่ อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีใหม่ ๆ ในอนาคตได้ 

๗. เผยแพร่ข่าวสารและประชาสัมพันธ์เชิงรุกในรูปแบบใหม่ (New Normal)  สร้างการรับรู้ความเข้าใจแก่สหกรณ์ กลุ่มเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน เกษตรกร และประชาชนทั่วไป ถึงประโยชน์และความสำคัญ ด้านการเงินการบัญชี รวมถึงการสร้างการรับรู้ เพื่อเตรียมความพร้อมด้านเทคโนโลยีในการช่วยปฏิบัติงาน และนวัตกรรมแก่บุคลากรในองค์กร โดยการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ข่าวสารในช่องทางสื่อต่าง ๆ

๘. ส่งเสริมและสนับสนุนการวิจัยและพัฒนา โดยพัฒนาบุคลากรให้ทำการวิจัยสำหรับการปฏิบัติงาน ปรับปรุงข้อมูลงานวิจัยให้เป็นปัจจุบัน รวมทั้งปรับปรุงรูปแบบการค้นคว้าข้อมูลที่ง่าย สะดวก รวดเร็ว การจัดทำคลังความรู้เกี่ยวกับงานวิจัยให้เป็นฐานข้อมูล องค์ความรู้ แนวคิดใหม่ ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงาน และ   ๙. สร้างภาคีเครือข่ายและการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน โดยบูรณาการการทำงานกับหน่วยงานภายนอก รวมไปถึงการสร้างเครือข่ายความร่วมมือทางวิชาการกับองค์การด้านสหกรณ์ทั้งในและต่างประเทศ  

อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ กล่าวอีกว่า แนวทางดังกล่าว เป็นการยกระดับมาตรฐานการทำงาน พร้อมปรับเปลี่ยนเป็นองค์กรดิจิทัลในอนาคต ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายการดำเนินงานของกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ในการสร้างความเข้มแข็ง โปร่งใส แก่สหกรณ์และเกษตรกร

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ผู้นำฝ่ายค้าน' หวดหนัก 'สตง.- รัฐบาล' ไร้ความโปร่งใส ปชช.ยิ่งไม่วางใจ  

ผู้นำฝ่ายค้าน บอก ขอรอ 'สตง.' แถลงแจงเหตุ ตึกถล่มก่อน ย้ำ ความโปร่งใสสำคัญที่สุด มอง การทำหน้าที่ ต้องไม่มองว่าเป็นคนคุมกฎระเบียบอย่างเดียว แต่ต้องวิเคราะห์ความคุ้มค่าของการใช้จ่าย-ทำรายงานการเงินให้เป็นไปตามมาตรฐาน 

“รมว.นฤมล”นำ กตส.-กสส จับมือ ปปง.ลงนาม MOU ร่วมบูรณาการป้องกันการทุจริต ยกระดับความโปร่งใส ตรวจสอบได้ของระบบสหกรณ์ ย้ำ ไม่อยากให้เหมือนวัวหายล้อมคอก จึงต้องป้องกันไว้ล่วงหน้า

ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ว่าด้วยการประสานความร่วมมือในการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินผ่านกิจการสหกรณ์ ระหว่าง นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ นายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กับ นายสุเทพ บวรโชติดารา

'นฤมล' มอบ 4 นโยบายขับเคลื่อนกรมตรวจบัญชีสหกรณ์

'นฤมล' มอบนโยบายกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ มุ่งสร้างความเข้มแข็งภาคสหกรณ์ ย้ำประสิทธิภาพต้องได้ มาตรฐานสากล ครอบคลุมความเสี่ยงทุกมิติของภาคการเกษตร

เอกอัครราชทูตออสเตรเลีย ขอช่วยพัฒนากีฬาทางน้ำไทย ให้ยกระดับมากที่สุด

เอกอัครราชทูตออสเตรเลีย กระชับความสัมพันธ์ในการช่วยพัฒนากีฬาทางน้ำของไทยให้ได้รับการยกระดับมากที่สุด โดยการสนับสนุนของ ดร.แองเจลา แมคโดนัลด์ เอกอัครราชทูตออสเตรเลียประจำประเทศไทย

สัตย์สุจริต โปร่งใส! 'ผู้ว่าแบงก์ชาติ' ประกาศ ห้ามคนธปท.รับของขวัญ และของกำนัลทุกชนิด

เว็บไซต์ธนาคารแห่งประเทศไทย เผยแร่ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ลงนามโดย นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่า

กกต. คิกออฟ 'เลือก สว.' ทำ MOU เผยแพร่ประชาสัมพันธ์

กกต. ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือเผยแพร่ประชาสัมพันธ์การเลือก ส.ว. พร้อมคิกออฟภายใต้แนวคิด '20 กลุ่มอาชีพร่วมใจ ขับเคลื่อนประเทศไทยไปพร้อมกัน'