
นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาบริษัทฯ ดำเนินการจัดกิจกรรมเพื่อความรับผิดชอบและให้ความสำคัญต่อสังคมในทุกด้าน (CSR) ควบคู่ไปกับการดำเนินธุรกิจ โดยต่อจากนี้กิจกรรมทั้งหมดจะอยู่ภายใต้ชื่อโครงการ “ศุภาลัย สร้างดี” เพราะนอกจากการสร้างบ้านที่ดีให้กับลูกค้ามาตลอด 33 ปีแล้ว บริษัทฯมีความเชื่อมั่นว่าหากมีความตั้งใจที่ดีแล้วก็สามารถขับเคลื่อนและสร้างคุณค่าต่างๆให้เกิดในสังคมได้อย่างมากมาย อาทิ การสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีให้กับโลก สร้างการศึกษาที่ดีให้กับเยาวชน ก่อให้เกิดการสร้างสังคมที่ดีแก่ประเทศชาติ รวมไปถึงการเป็นบรรษัทภิบาลที่ดี โดยการดำเนินธุรกิจอย่างซื่อสัตย์และมีความรับผิดชอบต่อทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเช่นเดียวกับที่บริษัทฯได้ยึดมั่นและปฏิบัติตลอดมา

ในปัจจุบันวิกฤตด้านพลังงานและสภาพอากาศที่โลกกำลังเผชิญนั้นส่งผลกระทบต่อทุกชีวิต การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศซึ่งทำให้เกิดวิกฤตภาวะโลกร้อนเป็นปัญหาที่ทุกประเทศต้องรวมพลังเพื่อร่วมกันลดภาวะก๊าซเรือนกระจก ลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์หรือ CO2 ให้ได้มากที่สุด ซึ่งในปี 2565 บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) ได้ตั้งเป้าหมายลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ 25% ภายใน 3 ปี และตระหนักถึงความสำคัญในการดูแลสิ่งแวดล้อมร่วมกับการดำเนินธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยมาโดยตลอด โดยในจังหวัดนครราชสีมาที่บริษัทฯได้เข้ามาพัฒนาธุรกิจมานานกว่า 8 ปีแล้ว จึงได้เข้าร่วมโครงการ “ศุภพนาลัย by Care The Wide” ร่วมกับพันธมิตรคือตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และกรมป่าไม้ เพื่อพลิกฟื้นผืนป่าชุมชน ณ บ้านโคกพลวง อ.จักราช จ.นครราชสีมา

โดยบริษัทฯ ได้ชวนผู้บริหาร พนักงาน พันธมิตรกลุ่มบริษัทคู่ค้า ทั้งกลุ่มบริษัท ธรรมสรณ์ จำกัด, เอสซีจี, ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน), บริษัท สยามซานิทารีแวร์ จำกัด, สื่อมวลชนรวมทั้งชาวบ้านในละแวกใกล้เคียง ปลูกต้นไม้ จำนวน 2,000 ต้น ในพื้นที่ป่าชุมชนขนาด 10 ไร่ โดยมีชาวชุมชนบ้านโคกพลวงเป็นกำลังสำคัญในการรักษาป่า ให้อยู่รอดและเจริญเติบโตอย่างยั่งยืนได้ 100% อีกทั้งชาวบ้านยังสามารถใช้ป่าชุมชนนี้เป็นแหล่งทำมาหากิน เพราะจะอุดมสมบูรณ์ไปด้วยทั้งไม้ยืนต้นและไม้กินได้ อาทิ สัก, ปีบ, พะยูง, ยางนา, ประดู่, มะม่วง จำนวนมากถึง 2,000 ต้น ซึ่งได้ประโยชน์ทั้งในเชิงเศรษฐกิจ การรักษาระบบนิเวศ และพัฒนาชุมชนให้อยู่ได้อย่างยั่งยืนต่อเนื่องไปได้หลายสิบปี

ด้านนายอำนวย จิรมหาโภคา ผู้ช่วยผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่าปัญหาภาวะโลกร้อนเป็นปัญหาใหญ่ที่ไม่สามารถแก้ไขได้โดยคนๆเดียว ต้องอาศัยความร่วมมือร่วมใจจากทุกภาคส่วน ซึ่งบริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) เป็นบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ มานานกว่า 30 ปี มีผลประกอบการที่ดี มีฐานะการเงินที่มั่นคงแข็งแรง และมีการบริหารจัดการที่คำนึงถึงธรรมาภิบาลและการเติบโตอย่างยั่งยืนหรือ ESG อีกทั้งที่ผ่านมาก็มีส่วนร่วมในการรับผิดชอบและช่วยเหลือต่อสังคมมาโดยตลอด ซึ่งการปลูกป่าในครั้งนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทุกฝ่ายจะร่วมกันสร้างคุณค่าและประโยชน์ให้กับพื้นที่ป่าของชาวบ้านในชุมชนโคกพลวงต่อไป

นางนันทนา บุณยานันต์ ผู้อำนวยการสำนักจัดการป่าชุมชน กรมป่าไม้ กล่าวขอบคุณโครงการ Care The Wild ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มในการระดมทุนจากภาคธุรกิจให้มาปลูกป้องป่า เพื่อสร้างพื้นที่สีเขียวให้กับประเทศไทย ขอขอบคุณ บมจ.ศุภาลัย ที่เข้ามาสนับสนุนในการปลูกต้นไม้ และขอบคุณที่บริษัทฯเชื่อมั่นและเห็นความสำคัญของกรมป่าไม้ที่จะเข้ามาประสานงานเชื่อมโยงชุมชนนำมาสู่การปลูกต้นไม้ให้เป็นป่าในพื้นที่ชุมชนในครั้งนี้ ชุมชนบ้านโคกพลวงเป็นชุมชนคนรักป่าและมีจิตสำนึกในการหวงแหนป่าที่ได้ร่วมดูแลรักษาป่าชุมชน และชุมชนแห่งนี้ก็จะปกป้องและดูแลต้นไม้ให้เติบใหญ่และจะดูแลรักษาไปอีก 10 ปี ซึ่งในอนาคตป่าแห่งนี้จะเอื้อประโยชน์ให้กับคนในชุมชน เป็นคลังอาหาร ลดรายจ่าย-เพิ่มรายได้ สร้างเศรษฐกิจชุมชน เชื่อมโยง BCG โมเดล และป่าแห่งนี้จะทำหน้าที่รักษาสมดุลของระบบนิเวศ เพื่อส่งต่อทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่สมบูรณ์ ให้เป็นมรดกทางธรรมชาติให้กับลูกหลานไทยสืบต่อไป

นายชาตรี เพชรนอก ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 11 และประธานคณะกรรมการป่าชุมชนบ้านโคกพลวง เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้บริเวณพื้นที่ชุมชนโคกพลวงมีการบุกรุกป่ามากว่า 10 ปี จนเมื่อปีพ.ศ. 2552 ชาวบ้านโคกพลวงได้มีการต่อสู้ทวงคืนผืนป่ากลับคืนมาจากนายทุน และได้ร่วมกันเริ่มต้นปลูกป่าด้วยฝีมือมนุษย์พร้อมทั้งช่วยกันดูแลจนเกิดพื้นที่สีเขียวมากขึ้นในพื้นที่ โดยการเข้ามาช่วยเหลือจากภาครัฐและเอกชนในครั้งนี้ช่วยเสริมความเข้มแข็งให้กับชุมชนในการมุ่งมั่นสร้างพื้นที่ป่าอย่างยั่งยืนให้กับชาวบ้านโคกพลวงต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
พสกนิกรโคราชปลูกต้นไม้ 9 พันต้น เฉลิมพระเกียรติ 'ในหลวง ร.9'
นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดกิจกรรมปลูกต้นไม้เฉลิมพระเกียรติ เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร 5 ธันวามหาราช
กรมป่าไม้ ส่งสิ่งของที่รับบริจาคถึง อ.หาดใหญ่ พร้อมจัดเจ้าหน้าที่แจกจ่ายให้ประชาชนที่ประสบอุทกภัย
อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวว่า จากการที่นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แสดงความห่วงใยต่อพี่น้องประชาชนในพื้นที่ และได้สั่งการให้ กรมป่าไม้จึงเร่งระดมกำลังเจ้าหน้าที่ พร้อมอุปกรณ์ช่วยเหลือและยานพาหนะที่จำเป็นเร่งลงพื้นที่เพื่อเข้าช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน ทั้งในด้านการอพยพประชาชน การสนับสนุนด้านเสบียง และกำลังช่วยอย่างเต็มที่
กรมป่าไม้ ขานรับนโยบาย รองนายกฯ สุชาติ ตั้งจุดรับบริจาคสิ่งของให้ผู้ประสบภัยภาคใต้
รัฐบาลภายใต้การนำของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้กำชับทุกหน่วยงานเร่งบูรณาการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัยในอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา โดยเน้นย้ำในการช่วยเหลือประชาชนต้องปลอดภัยเป็นอันดับแรก
กรมป่าไม้ เผยประชุม APFC ครั้งที่ 31 ที่จ.เชียงใหม่ ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม ผลักดันความร่วมมือด้านป่าไม้อย่างยั่งยืน ด้วยพันธกิจ “ป่าที่สมบูรณ์หล่อเลี้ยงอนาคต”
กรมป่าไม้ ประกาศผลสำเร็จประชุมสมัชชาป่าไม้แห่งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ครั้งที่ 31 (APFC 31) ช่วง 4–7 พ.ย. 68 ที่จ.เชียงใหม่ ไทยนำทีมประเทศสมาชิก
กรมป่าไม้ เปิดเวทีประชุมคณะกรรมการการป่าไม้แห่งภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ครั้งที่ 31 อย่างยิ่งใหญ่
กรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) จัดพิธีเปิด "การประชุมคณะกรรมการการป่าไม้แห่งภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ครั้งที่ 31 (The 31st Asia - Pacific Forestry Commission : APFC31) ภายใต้ประเด็นหลัก "Healthy Forests Feed the Future" ซึ่งได้รับเกียรติจาก นายนิกร ศิรโรจนานนท์ อธิบดีกรมป่าไม้ และ Dr. Alue Dohong ในฐานะ Assistant Director General FAO และ Regional Representative for Asia and the Pacific เป็นประธานเปิดงาน
กรมอุตุฯ เตือน 30 ต.ค.-2 พ.ย.รับอากาศแปรปรวนโดยเฉพาะ 8 จังหวัด
นางสาวสุกันยาณี ยะวิญชาญ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา


