"ดร.นฤมล"แนะเกาะติดดบ.สหรัฐ-ญี่ปุ่น ศก.โลกเสี่ยงถดถอยหนุนไทยทยอยขยับ

ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)โพสต์ Facebook ส่วนตัวสะท้อนมุมมองถึงแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของโลกโดยระบุให้จับตาการปรับขึ้นดอกเบี้ยของสองประเทศคือสหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่นในสัปดาห์นี้ โดยธนาคารกลางของสหรัฐอเมริกา หรือ เฟด จะประชุมวันพุธที่ 21 ก.ย. คาดกันว่าจะขึ้นดอกเบี้ยอีก +0.75% ด้วยความน่าจะเป็นสูงถึง 82% เพื่อเป็นมาตรการแรงที่เฟดประกาศและตั้งใจจะจัดการกับเงินเฟ้อให้ได้ แต่ก็ต้องแลกด้วยความถดถอยทางเศรษฐกิจ ทั้งในสหรัฐอเมริกาเอง และเศรษฐกิจโลกที่ย่อมได้รับผลกระทบ

ขณะที่ธนาคารกลางของญี่ปุ่น (BOJ)จะประชุมสองวันสัปดาห์นี้ โดยจะประชุมเสร็จในวันพฤหัสที่ 22 ก.ย. แต่คาดว่าน่าจะคงอัตราดอกเบี้ยต่ำต่อไป ถึงแม้จะมีแรงกดดันหลายมิติ การขึ้นดอกเบี้ยของประเทศต่างๆ นอกจากจะส่งผลให้เงินเยนอ่อนค่าแล้ว ยังส่งผลให้อัตราผลตอบตราสารหนี้ในตลาดสูงขึ้น จนอาจจะชนเพดานสูงสุดที่ BOJ กำหนดไว้ นอกจากนั้น การอ่อนค่าของเงินเยนยังส่งผลให้ต้นทุนการนำเข้าสินค้าสูงขึ้น ทำให้ครัวเรือนได้รับผลกระทบจากราคาสินค้าที่ต้องปรับตัวสูงขึ้นตามมา

อย่างไรก็ตามเหตุผลหลักที่นายคูโรดะ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น ยังยึดมั่นนโยบายไม่ขึ้นดอกเบี้ยมาโดยตลอด คือ ไม่ต้องการให้เกิดผลกระทบกับเศรษฐกิจของญี่ปุ่นที่เพิ่งจะเริ่มฟื้นตัวจากการระบาดของโควิด-19 แม้ BOJ ยังคงไม่ขึ้นดอกเบี้ย แต่ก็ยังไม่เห็นวี่แววของการที่จะเสี่ยงใช้วิธีแทรกแซงค่าเงินเยนโดยตรง ค่าเงินเยนล่าสุดตกลงไปอยู่ที่ 144 เยนต่อดอลลาร์ อ่อนค่าสุดในรอบ 24 ปี ถ้าอ่อนต่อเนื่องไปจนหลุด 150 เยนต่อดอลาร์ อาจจะได้เห็นการปรับเปลี่ยนมาตรการของ BOJ

หันมามองของไทยเราบ้าง คณะกรรมการนโยบายการเงิน( กนง.) เดินทางสายกลาง มาถูกทางแล้ว ขึ้นดอกเบี้ยไม่มากไป และค่อยๆขึ้น เพื่อให้เศรษฐกิจได้มีโอกาสฟื้นตัว แต่สิ่งที่เราทุกคนต้องเตรียมรับผลกระทบ คือ ภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอย จากการขึ้นดอกเบี้ยในหลายประเทศทั่วโลก รัฐบาลจึงต้องเร่งดูแลกำลังซื้อภายในประเทศของทั้งภาคเอกชน และภาคครัวเรือน เพื่อประคองสถานการณ์การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของไทยให้เชิดหัวขึ้นได้อย่างต่อเนื่องภายใต้ความไม่ปกติของเศรษฐกิจโลก

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

“รมว.นฤมล”มอง การตั้งศูนย์ C4IR ที่ไทยเป็นโอกาสแลกเปลี่ยนความรู้ให้เกษตรกรรับมือกับสภาพภูมิอากาศ ช่วยเพิ่มขีดความสามารถ พร้อมยกระดับภาคเกษตรไทย

เมื่อวันที่ 23 ม.ค.ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร่วมประชุม Multilateral Meeting: Centre for the Fourth Industrial Revolution (C4IR) ในประเทศไทย ร่วมด้วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ CEO         ภาคเอกชนไทย และผู้แทนของ World Economic Forum

“รมว.นฤมล”ประกาศกลางที่ประชุม First Movers Coalition ไทยเริ่มทำนาแบบเปียกสลับแห้ง ลดการปล่อยก๊าซมีเทน สอดรับนโยบายสินค้าเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมของทั่วโลก

เมื่อวันที่ 22 ม.ค. 2568 ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร่วมการประชุมและเสวนา Meeting of the First Movers Coalition Leaders  ณ เมืองดาวอส สมาพันธรัฐสวิส โดยเป็นการประชุมร่วมกันระหว่างผู้นำของภาครัฐและภาคเอกชน

“รมว.นฤมล“ ร่วมหารือผู้บริหารบริษัท Nestlé มุ่งพัฒนา smart farmer พร้อมดึงภาคเอกชนมาลงทุนด้านการเกษตรในไทยเพิ่มขึ้น

ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เข้าร่วมหารือทวิภาคีร่วมกับ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และนายเรมี เอเจล (Mr. Remy Ejel) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร

”รมว.นฤมล“ร่วมหารือ รมต.เกษตร จากหลายประเทศ ลุย ขยายฐานตลาดสินค้าของเกษตรกรไทย เสริมสร้างความร่วมมือด้านการเกษตร

เมื่อวันที่ 18 มกราคม 2568 ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หารือร่วมกับ รัฐมนตรีด้านการเกษตรจากหลากหลายประเทศ เนื่องในโอกาสการเข้าร่วมการประชุม Berlin Agriculture Minister’s Conference ครั้งที่ 17

'ชัยวุฒิ' ฟาด 'ส้ม-แดง' ไข่ใบเดียวกัน ค้านไปเคลียร์ไป

นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวช่วงหนึ่งว่า เชื่อว่าหากพรรคพลังประชารัฐขับเคลื่อนการทำหน้าที่ตรวจสอบการทำหน้าที่ฝ่ายค้านให้เข้มข้นขึ้นตรงไปตรงมาอย่างเต็มที่ จะทำให้ผลการเลือกตั้งมีคะแนนนิยมเพิ่มมากขึ้น

'ไพบูลย์' โต้ข่าวแห่ทิ้ง 'ลุงป้อม' ยันมีแต่อยากมาร่วมงานเพิ่ม

นายไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการพรรค พปชร.ให้สัมภาษณ์ถึงภาพรวมงานสัมมนาว่า วันนี้เป็นวันสำคัญของพรรค พปชร. ที่แสดงให้เห็นการขับเคลื่อนพรรค ความพร้อมเพรียงและพลัง ในการเดินหน้าต่อไป