เลขาธิการ ส.ป.ก.-รมว.พม.ร่วมงานวันที่อยู่อาศัยโลกที่กระบี่-พังงา พอช.ต่อยอดเดินหน้าแก้ปัญหาที่ดิน-ที่อยู่อาศัยชุมชน 6 จังหวัดอันดามัน

เลขาธิการ ส.ป.ก.และผู้บริหาร พอช.ร่วมงานที่ตำบลเขาพนม จ.กระบี่

รมว.พม.ร่วมงานวันที่อยู่อาศัยโลกที่ตำบลคลองเคียน จ.พังงา

กระบี่-พังงา/  เลขาธิการ ส.ป.ก.ร่วมงานวันที่อยู่อาศัยโลกที่จังหวัดกระบี่  โดยติดตามความคืบหน้าการจัดที่ดินทำกินให้ประชาชนที่ยากไร้ในที่ดิน ส.ป.ก.ตำบลเขาพนม  72 ครอบครัว  ส่วนนายจุติ  ไกรฤกษ์ รมว.พม.ร่วมงานที่ตำบลคลองเคียน  จ.พังงา  แก้ไขปัญหาที่ดินที่อยู่อาศัยชุมชนชาวประมง  ขณะที่ พอช.เตรียมขยายผลแก้ไขปัญหาชุมชนในที่ดินชายฝั่งทะเลอันดามัน  6 จังหวัดเพื่อให้ประชาชนมีที่ดิน-ที่อยู่อาศัยที่มั่นคง  พร้อมทั้งพัฒนาคุณภาพชีวิต  สร้างเศรษฐกิจชุมชน  เริ่มดำเนินการปีนี้

ตามที่สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) หรือ ‘พอช.’   ร่วมกับเครือข่ายบ้านมั่นคงภาคใต้  และหน่วยงานในท้องถิ่น   จัดงานวันที่อยู่อาศัยโลกปี 2564 ภาคใต้ที่จังหวัดกระบี่และพังงาในระหว่างมีการประชุม ครม.สัญจรที่จังหวัดกระบี่  เพื่อเสนอรูปธรรมการแก้ไขปัญหาที่ดินที่อยู่อาศัยชุมชนที่มีรายได้น้อย  โดยมีนายวิษณุ  เครืองาม  รองนายกรัฐมนตรีและทีมเลขาธิการคณะรัฐมนตรีร่วมงานเมื่อวานนี้ (15 พฤศจิกายน) ที่เทศบาลตำบลทรายขาว  อ.คลองท่อม  จ.กระบี่

บ้านใหม่  ชีวิตใหม่ในที่ดิน ส.ป.ก.เขาพนม

ล่าสุดวันนี้ (17 พฤศจิกายน)  ดร.วิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข  เลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) และนายปฏิภาณ  จุมผา  รักษาการผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชนฯ ได้เดินทางมาร่วมกิจกรรมเนื่องในวันที่อยู่อาศัยโลกที่แปลงที่ดิน ส.ป.ก.เขาพนม  อ.เขาพนม  จ.กระบี่   โดยร่วมพิธียกเสาเอกบ้านมั่นคงในที่ดิน ส.ป.ก.  และติดตามความคืบหน้าการพัฒนาที่อยู่อาศัย  ส่งเสริมอาชีพให้แก่ประชาชนที่เข้าอยู่อาศัยและทำกินในที่ดิน ส.ป.ก.

นายปฏิภาณ  รักษาการ ผอ.พอช.(ยืนซ้ายสุด) และ ดร.วิณะโรจน์  เลขาธิการ ส.ป.ก. (ที่ 3 จากซ้าย) มอบหนังสือเข้าทำประโยชน์ให้ประชาชน

ที่ดิน ส.ป.ก.เขาพนม  มีเนื้อที่ทั้งหมดประมาณ 991 ไร่  เดิมมีบริษัทเอกชนขออนุญาตเข้าใช้ประโยชน์เพื่อปลูกปาล์มน้ำมันตั้งแต่ปี 2552 แต่ในสมัยรัฐบาล คสช. รัฐบาลมีนโยบายนำที่ดิน ส.ป.ก.ทั่วประเทศที่มีการเข้าทำประโยชน์หรือครอบครองโดยไม่ถูกต้องกลับคืนมา  เพื่อนำมาจัดสรรให้แก่ประชาชนที่ยากไร้หรือไม่มีที่ดินทำกิน  โดยยึดที่ดินแปลงดังกล่าวกลับคืนมาในปี 2559 

ต่อมาในช่วงต้นปี 2564  ส.ป.ก.ได้จัดสรรที่ดินให้แก่ประชาชนที่ยากไร้  จำนวน 72 ครอบครัวๆ ละ 3 ไร่  เพื่อเข้าอยู่อาศัยและทำกิน  แต่ไม่ให้กรรมสิทธิ์  ในรูปแบบของสหกรณ์  ใช้ชื่อว่า ‘สหกรณ์การเกษตรเมืองใหม่เขาพนม จำกัด’  ขณะที่สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชนฯ หรือ พอช. สนับสนุนการพัฒนาที่อยู่อาศัยตามโครงการบ้านมั่นคงชนบท  เพื่อก่อสร้างบ้านใหม่  รวม  72  ครอบครัว  งบประมาณรวม 3.4 ล้านบาทเศษ (เฉลี่ยครอบครัวละ 40,000 บาท) ขณะนี้สร้างบ้านแล้ว 26 หลัง นอกจากนี้หน่วยงานต่างๆ จะสนับสนุนด้านสาธารณูปโภค  การพัฒนาอาชีพ  ส่งเสริมคุณภาพชีวิต ฯลฯ

โดยในวันนี้เลขาธิการ ส.ป.ก.และรักษาการผู้อำนวยการ พอช. ได้ร่วมพิธียกเสาเอกสร้างบ้านใหม่ของนางอมลวรรณ  สุดจันทร์จรัส  ร่วมปล่อยพันธุ์ปลาในบ่อของนางหนูพิน  ศิริพงษ์  ขณะที่สมาชิกชุมชนต่างกล่าวขอบคุณผู้แทนทั้ง 2 หน่วยงานที่สนับสนุนที่ดินทำกิน  ที่อยู่อาศัย  ส่งเสริมอาชีพ  ทำให้มีชีวิตใหม่  เพราะเดิมส่วนใหญ่จะมีอาชีพทำงานรับจ้าง  ไม่มีที่ดินเป็นของตัวเอง  เมื่อได้ที่ดินและที่อยู่อาศัยแล้วก็จะร่วมกันพลิกฟื้นที่ดินให้เป็นแปลงเกษตรกรรมอินทรีย์  ปลูกข้าวไร่แบบแปลงรวม  ปลูกผักต่างๆ เพื่อกินและขาย  และเลี้ยงปลาในบ่อ

มอบบ้านให้ชาวชุมชนในที่ดิน ส.ป.ก.

รมว.พม.ร่วมงานวันที่อยู่อาศัยโลกที่ตำบลคลองเคียน  จ.พังงา

หลังการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรที่จังหวัดกระบี่  ในช่วงบ่าย  นายจุติ  ไกรฤกษ์  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ได้เดินทางมาที่ศูนย์ช่วยเหลือสังคมตำบลกะไหล  อ.ตะกั่วทุ่ง  จ.พังงา  เพื่อเยี่ยมเยียนและมอบสิ่งของจำเป็นให้แก่กลุ่มเป้าหมาย  ผู้ด้อยโอกาส  เช่น  มอบรถวีลแชร์ให้ผู้พิการ  มอบนมผงให้แม่วัยใส  และมอบถุงยังชีพให้ครอบครัวผู้พิการ  ฯลฯ

ความสวยงามของอ่าวพังงา  มองจากจุดชุมวิวที่ตำบลคลองเคียน

จากนั้น รมว.พม.ได้เดินทางมาร่วมงานวันที่อยู่อาศัยโลกที่ชุมชนชาวประมงตำบลคลองเคียน  อ.ตะกั่วทุ่ง  จ.พังงา  ซึ่งเป็นชุมชนชาวประมงพื้นบ้าน  มีรายได้น้อย  ไม่มีความมั่นคงในที่ดินและที่อยู่อาศัย  เนื่องจากชาวบ้านส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในที่ดินของหลายหน่วยงาน  เช่น  ที่ดินป่าชายเลน  ป่าไม้  อุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา

นายอนันต์  ทอดทิ้ง  อายุ 40 ปี  ผู้ประสานงานโครงการบ้านมั่นตำบลคลองเคียน  บอกว่า  ตำบลคลองเคียนมีทั้งหมด 8 หมู่บ้าน  พื้นที่ทั้งหมดประมาณ 42,000 ไร่  ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ในเขตอุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา (ประมาณ 60 %)  ชาวบ้านส่วนใหญ่มีอาชีพประมงพื้นบ้าน  สัตว์น้ำที่สำคัญ  คือปูม้าและกุ้งแชบ๊วย  แตไม่มีความมั่นคงในที่ดินที่อยู่อาสัย  เพราะปลูกสร้างบ้านอยู่ในที่ดินของหน่วยงานต่างๆ

“ที่ผ่านมาชุมชนพยายามแก้ไขปัญหาที่ดินตามแนวทางของคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ หรือ คทช. ที่ให้ชุมชนเสนอเรื่องไปยัง คทช.จังหวัดที่มีผู้ว่าฯ เป็นประธาน  เพื่อให้ตรวจสอบข้อมูลครัวเรือน  ผู้อยู่อาศัย  จัดทำแผนที่  แล้วให้ คทช.จังหวัดส่งเรื่องการขอใช้ที่ดินไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อขออนุญาตใช้ที่ดินอย่างถูกต้อง  ซึ่งทางชุมชนได้ดำเนินการตามแนวทางนี้ตั้งแต่เมื่อประมาณ 3-4 ปีที่แล้ว และเมื่อต้นปีนี้  ทางชุมชนก็ได้ทำบันทึกความร่วมมือเพื่อแก้ไขปัญหาที่ดินกับหน่วยงานเจ้าของที่ดินแล้ว  ขณะนี้เรื่องอยู่ในระหว่างการดำเนินงานของหน่วยงานเจ้าของที่ดิน”  อนันต์บอก

ส่วนการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยนั้น  เขาบอกว่า  พอช.ได้มาสนับสนุนชุมชนเพื่อซ่อมสร้างบ้านตามโครงการบ้านมั่นคงชนบท  เพื่อซ่อมสร้างบ้านเรือนที่ทรุดโทรม  เพราะที่ผ่านมาการจะปลูกสร้างบ้านหรือซ่อมบ้านนั้น  ชาวบ้านจะต้องได้รับอนุญาตจากหน่วยงานเจ้าของที่ดิน  หากไม่ขออนุญาตจะมีความผิด  แต่เมื่อ พอช.ทำบันทึกความร่วมมือกับหน่วยงานต่าง ๆ แล้วจึงทำให้ลดปัญหาลงไป  โดยมีการสำรวจข้อมูลผู้เดือดร้อนในชุมชนเพื่อนำมาจัดทำโครงการตั้งแต่ต้นปีนี้

ชุมชนชาวประมงตำบลคลองเคียน

“ตำบลคลองเคียนมี 8 หมู่บ้าน  สำรวจความเดือดร้อนด้านที่อยู่อาศัย  บ้านเรือนทรุดโทรมทั้งหมด 866 ครอบครัว  แต่จะเริ่มทำก่อนในช่วง 2 ปีนี้  จำนวน 337 ครอบครัว  พอช.อนุมัติงบประมาณ 12 ล้านบาทเศษ  ตอนนี้ซ่อมสร้างไปแล้ว 58 หลัง  ส่วนที่เหลือจะทำให้แล้วเสร็จภายในปี 2565”  อนันต์บอก

นายจุติ  ไกรฤกษ์  รมว.พม.  กล่าวว่า  กระทรวง พม. มีความรับผิดชอบเรื่องบ้าน   อยากจะทำเยอะๆ  แต่มีงบประมาณจำกัด  ทั้งประเทศวันนี้ต้องการบ้าน 700,000 หลังภายใน 5 ปีข้างหน้า  แต่รัฐบาลไม่สามารถสนับสนุนได้ทั้งหมด รัฐมนตรีจึงตั้งบริษัทลูกจากการเคหะแห่งชาติเพื่อทำบ้านเช่าราคาถูก  เป็นอีกทางเลือกของพี่น้องประชาชนในการมีบ้าน  ส่วน พอช.ทำงานกับพี่น้องประชาชนอยู่แล้วในการช่วยเหลือประชาชนผู้มีรายได้น้อยให้มีที่อยู่อาศัยที่มั่นคง

รมว.พม.มอบงบประมาณสนับสนุนการซ่อมสร้างบ้านรวม 337 ครัวเรือน 12.5 ล้านบาทเศษ

พอช.ต่อยอดพัฒนาที่อยู่อาศัยชุมชนชายฝั่งทะเลอันดามัน 6 จังหวัด

นายธีรพล  สุวรรณรุ่งเรือง  ผู้จัดการ ‘โครงการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์กลุ่มจังหวัดพื้นที่อันดามัน 6 จังหวัด’  กล่าวว่า  พื้นที่อันดามันภาคใต้ 6 จังหวัด  คือ  ระนอง  พังงา  กระบี่  ภูเก็ต  ตรัง  กระบี่  และสตูล  รวม 29 อำเภอ  139 ตำบล  มีชุมชนผู้มีรายได้น้อย  ไม่มีความมั่นคงในที่อยู่อาศัยและที่ดินทำกินทั้งในเมืองและชนบทเป็นจำนวนมาก  และมีชุมชนที่อาศัยและกินในเขตอุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธ์สัตว์ป่า  เขตห้ามล่า  ป่าชายเลน  กรมเจ้าท่า  ที่ดินรัฐ  และเอกชนประเภทอื่น ๆ อีกมากมาย

นายธีรพล  สุวรรณรุ่งเรือง

“ที่ผ่านมารัฐหรือหน่วยงานที่ดินในเขตป่า  และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีการหาแนวทางการแก้ไขและผ่อนปรนการอยู่อาศัยและทำกินของประชาชน เกิดแนวทางและรูปธรรมการแก้ไขปัญหาการอยู่อาศัยของประชาชนในหลายพื้นที่  เช่น  การอนุญาตให้อยู่อาศัยและทำกิน   พัฒนาคุณภาพชีวิตชุมชน   ควบคู่กับการดูแลอนุรักษ์ทรัพยากรชายฝั่ง  ฟื้นฟูระบบนิเวศน์  ดิน   น้ำ  ป่า สอดคล้องกับวิถีชุมชนดั้งเดิม  แต่เมื่อเปรียบเทียบกับปริมาณจำนวนที่ได้ดำเนินการ  พบว่ายังมีพื้นที่ที่มีปัญหาอีกจำนวนมาก  ดังนั้น พอช.จึงจัดทำแผนงานเพื่อร่วมมือกับองค์กรชุมชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น  ประชาสังคม  ภาคเอกชน  ภาคีต่าง ๆ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง  เพื่อจะร่วมมือกันพัฒนาพื้นที่ชุมชนชายฝั่งอันดามันสู่ความยั่งยืนทุกมิติ”  ผู้จัดการโครงการกล่าว  

เขาบอกว่า  โครงการนี้จะเริ่มต้นในปีนี้  โดยจะเริ่มต้นจากชุมชนชาวประมงหรือชายฝั่งทะเลก่อน  เพราะสภาพพื้นที่ 6 จังหวัดอันดามันมีชุมชนชายฝั่ง  ชุมชนในเขตป่าชายเลนจำนวนมาก  โดยมีพื้นที่ตัวอย่างที่มีการแก้ไขปัญหาไปบ้างแล้ว  เช่น ชุมชนชาวประมงในเขตเทศบาลตำบลทรายขาว  อ.คลองท่อม  จ.กระบี่  ที่มีการจัดงานวันที่อยู่อาศัยโลก (เมื่อ15 พฤศจิกายนที่ผ่านมา) รวมทั้งชุมชนตำบลคลองเคียน  จ.พังงาที่อยู่ในระหว่างการดำเนินงาน  ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องมาจากนโยบายรัฐบาลที่มีการกระจายอำนาจการจัดการทรัพยากรธรรมชาติให้ท้องถิ่นจัดการ   โดยให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) หน่วยงานเจ้าของที่ดิน  สามารถอนุญาตให้ชุมชนในเขตป่าไม้  ป่าชายเลน  ชายฝั่ง  เข้าอยู่อาศัยและทำกินอย่างถูกต้อง  และช่วยกันดูแลทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้  ขณะที่ พอช.ก็สามารถเข้าไปสนับสนุนการแก้ไขปัญหาที่ดิน  ที่อยู่อาศัย  และพัฒนาคุณภาพชีวิตชาวชุมชนได้

รองนายกรัฐมนตรี  วิษณุ  เครืองาม  ร่วมงานที่ชุมชนชาวประมงเทศบาลตำบลทรายขาว  อ.คลองท่อม  จ.กระบี่

“ตอนนี้เรายังอยู่ในระหว่างการสำรวจข้อมูลพื้นที่และชุมชนเพื่อนำมาวางแผนงานระยะสั้น 3-5 ปี  โดยจะเริ่มในชุมชนที่มีปัญหาก่อน  เช่น  ชุมชนในเขตป่าชายเลน  โดยมีเป้าหมายสร้างพื้นที่รูปธรรมจังหวัดละ 1 พื้นที่นำร่องเพื่อนำไปขยายผล  จะมีการแก้ไขปัญหาที่ดินและที่อยู่อาศัย  การซ่อมสร้างบ้าน  การพัฒนาอาชีพ  ซึ่งจะทำให้เกิดการจ้างงาน  เศรษฐกิจหมุนเวียน  คนจนได้รับการดูแล  ได้รับโอกาสในการพัฒนา  โดยมีหน่วยงานต่างๆ เข้ามาสนับสนุน  มาร่วมมือกัน  และถือเป็นส่วนหนี่งของแผนแม่บทการพัฒนาที่อยู่อาศัยผู้มีรายได้น้อย 20 ปีของรัฐบาลด้วย  คือ  คนไทยทุกคนมีที่อยู่อาศัยที่มั่นคง  และมีคุณภาพชีวิตที่ดีภายในปี 2579”  นายธีรพลกล่าวทิ้งท้าย

บ้านใหม่ของชาวประมงพื้นบ้านที่ได้รับการแก้ไขปัญหาที่ดินและที่อยู่อาศัยที่เทศบาลตำบลทรายขาว ซึ่งเป็นผลมาจากนโยบายการกระจายอำนาจด้านการจัดการทรัพยากรธรรมชาติให้ท้องถิ่นเข้ามาจัดการ

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รัฐบาลลุยต่อยอด 'ผ้าขาวม้าไทยฟีเวอร์' ขยายตลาดช่วยชุมชนโกยรายได้

รัฐบาลเดินหน้าส่งเสริมต่อยอด 'ผ้าขาวม้าไทยฟีเวอร์' เพิ่มมูลค่าขยายตลาด ช่วยผู้ประกอบการชุมชนโกยรายได้ กระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่น

‘วราวุธ’ รมว.พม. เยี่ยมชุมชนริมคลองเปรมประชากร ด้าน ‘พอช.’ เดินหน้าพัฒนาที่อยู่อาศัย-คุณภาพชีวิตแล้ว 17ชุมชน 1,699 ครัวเรือน

คลองเปรมประชากร/ ‘วราวุธ ศิลปอาชา’ รมว.พม.ลงพื้นที่เยี่ยมชาวชุมชนริมคลองเปรมประชากร โดยลงเรือบริเวณท่าเรือชั่วคราวสะพานสูง เขตบางซื่อ

มอบรางวัลกองทุนสวัสดิการชุมชนดีเด่น 10 ประเภท ตามแนวคิดสวัสดิการสังคมของ ‘ดร.ป๋วย อึ๊งภากรณ์’

ธนาคารแห่งประเทศไทย / แบงก์ชาติร่วมกับภาคีเครือข่ายจัดงาน ‘ธรรมาภิบาลดีเด่นแห่งปี 2567’ มอบรางวัลให้แก่ผู้ประกอบการ SME และ 10

10 กองทุนสวัสดิการชุมชนดีเด่นรับรางวัล ‘ดร.ป๋วย อึ๊งภากรณ์’ (10) กองทุนสวัสดิการชุมชนเทศบาลตำบลลาดชะโด จ.พระนครศรีอยุธยา “ย้อนรอยวิถีน้ำ คืนชีพเรือเก่า เล่าขานตำนานท้องถิ่น”

กองทุนสวัสดิการชุมชนเทศบาลตำบลลาดชะโด อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา เป็น 1 ใน 10 กองทุนสวัสดิการชุมชนจากทั่วประเทศที่ได้รับรางวัล

10 กองทุนสวัสดิการชุมชนดีเด่นรับรางวัล ‘ดร.ป๋วย อึ๊งภากรณ์’ (9) กองทุนสวัสดิการชุมชนตำบลสุไหงปาดี จ.นราธิวาส “สร้างความเป็นธรรม.....เพื่อรักษาที่ดินทำกินให้ลูกหลาน”

กองทุนสวัสดิการชุมชนตำบลสุไหงปาดี อำเภอสุไหงปาดี จังหวัดนราธิวาส เป็น 1 ใน 10 กองทุนสวัสดิการชุมชนจากทั่วประเทศที่ได้รับรางวัล