“นิติพล ผิวเหมาะ” ระดมสมองทีมคนรุ่นใหม่แก้ปัญหา เสริมจุดแข็ง สร้างความเปลี่ยนแปลงอย่างเท่าทันโลก

เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2566 นายนิติพล ผิวเหมาะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เข้าร่วมประชุมสัมมนาทีมภาคเหนือพรรคก้าวไกล เพื่อเตรียมความพร้อมการทำงานให้สอดคล้องกับปัญหาในสถานการณ์ปัจจุบันและอนาคต โดยทำหน้าที่เป็นวิทยากรนำเสนอประสบการณ์ในการใช้กลไกรัฐสภาเพื่อปัญหาของประชาชน

นายนิติพล กล่าวว่า “ต้องยอมรับว่า โลกยุคปัจจุบันเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ปัญหาก็มีความซับซ้อนหลายมิติมากขึ้น เราจึงต้องประเมินปัญหาไปพร้อมกับมองหาจุดแข็งเสริมศักยภาพ เพื่อสร้างทีมให้มีความพร้อมและเท่าทันที่สุดต่อความเปลี่ยนแปลงในรูปแบบต่างๆ โดยเบื้องต้นเราคุยกันทั้งหน้าไมค์และหลังไมค์ถึงปัญหาในพื้นที่ภาคเหนือที่พี่น้องต้องพบบ่อย ๆ เช่น 2 ปัญหานี้

ประเด็นที่หนึ่ง PM2.5 ปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของพี่น้องประชาชนคนเหนืออย่างยิ่ง ทั้งยังกระทบต่อชีวิตประจำวันและเศรษฐกิจการท่องเที่ยว ซึ่งปัญหามีความซับซ้อน โดยหลักๆ แบ่งออกเป็นปัจจัยภายในประเทศเอง โดยเฉพาะไฟป่า ที่มีสาเหตุมาจากธรรมชาติและฝีมือมนุษย์ ซึ่งต้องยอมรับว่าส่วนใหญ่เป็นปัจจัยหลัก จึงต้องใช้ทั้งงบประมาณ การสร้างความเข้าใจ การกระจายอำนาจให้พื้นที่ออกแบบการจัดการความแตกต่างไปตามบริบทปัญหา รวมถึงกลไกทางกฎหมายก็ต้องถูกนำมาพิจารณาในการใช้เป็นเครื่องมือในการกำกับดูแล

ส่วนอีกปัจจัยที่ใหญ่ไม่แพ้กันคือ ปัจจัยจากภายนอกประเทศ โดยเฉพาะที่มาจากอุตสาหกรรมเกษตรอันเป็นต้นเหตุของหมอกพิษข้ามพรมแดน แน่นอนว่าเรื่องนี้อาจต้องอาศัยกลไกที่ใหญ่กว่าระดับเครือข่ายคณะทำงาน แต่การการสร้างการตระหนักรู้และแรงกดดันไปยังภาครัฐให้ขยับเขยื้อนเพื่อจัดการปัญหา ไม่ใช่วางเฉยแก้ตัวไปวัน ๆ ดังที่ผ่านมาก็ยังจำเป็นมากเช่นเดียวกัน

ประเด็นที่สอง หลายพื้นที่ยังไม่มีไฟฟ้าใช้ เป็นเรื่องที่น่าตกใจที่เราทราบว่าปัจจุบันหลายพื้นที่ในภาคเหนือไม่มีระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน โดยเฉพาะไฟฟ้า ทำให้หลายชุมชนขาดศักยภาพไปอย่างน่าเสียดาย

เรื้องนี้ เราจะคุยกันทั้งในเรื่องข้อกฎหมาย เช่น ข้ออ้างการเป็นชุมชนในเขตป่า ทั้งที่ส่วนใหญ่เขาอยู่มาก่อนการประกาศเขตอุทยาน รวมไปถึงรูปแบบต่างๆ ในการนำไฟฟ้าไปติดตั้งให้เหมาะกับพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของพลังแสง พลังลม พลังน้ำ หรือการเดินสายเข้าไปให้ถึง และครอบคลุมไปถึงการวางแผนซ่อมบำรุง เพราะเข้าใจว่าส่วนใหญ่มีโครงการเข้าไป พอพังก็ทำอะไรไม่ได้

นอกจากนี้ ผมคิดว่าเราจะต้องมองหาโมเดลที่มีความยั่งยืน รวมถึงการเพิ่มศักยภาพด้านอื่นๆ เพื่อเปิดประตูโอกาสและเชื่อมต่อกับโลกด้วย เช่น โครงข่ายอินเทอเน็ตที่ใช้งานได้จริง ครอบคลุมจริง เพราะแค่มีมือถือเครื่องเดียวก็สามารถทำให้ผลิตภัณฑ์ที่อาจเคยซ่อนอยู่ในหุบดอยกลายเป็นที่รู้จัก เป็นความภูมิใจ การทำให้เกิดงานในท้องถิ่น เพิ่มมูลค่า เพิ่มพลังเศรษฐกิจ เปลี่ยนคุณภาพชีวิตให้ท้องถิ่นต่างๆ ได้อีกมากมาย”

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ครูจวง' แนะปวส.ท้ายเหมืองร้องนายกฯ เหตุสปีดโบ๊ทระเบิด

'ครูจวง' อ้าแขนรับ นักศึกษา ปวส.ท้ายเหมือง หลังเหตุสปีดโบ๊ทระเบิด ชี้ต้องเรียกร้องหากได้รับเยียวยาไม่สมน้ำสมเนื้อ ยันต้องได้รับความปลอดภัยทั้งใน-นอกสถานศึกษา

โลกร้อน! เอกชัยโผล่ชง กมธ.ศึกษาฯ ให้ยกเลิกเข้าแถวหน้าเสาธง

'เอกชัย' ยื่น กมธ.ศึกษาฯ ประสาน ศธ.เลิกเข้าแถวหน้าเสาธงเปิดเทอมนี้ เหตุโลกเดือดอาการร้อนจัดเป็นอันตรายต่อนักเรียน ด้าน 'ครูจวง' รับลูกจ่อเสนอ กมธ.หาทางออกร่วมกัน

ก้าวไกลให้จับตาข้าว 10 ปีประมูลให้ 'นักโทษ-ทหารเกณฑ์'

'ครูจวง' หัวเราะนายกฯ จะชิมข้าว 10 ปี บอกอย่ากินแต่กับ เหน็บถ้า 7 วันยังสบายดีจะพิจารณาทานบ้าง ขอจับตาให้ดี หวั่นถูกประมูลให้ 'นักโทษ-ทหารเกณฑ์' ที่เลือกไม่ได้

'รังสิมันต์' ชี้ปมทักษิณคุยกลุ่มชาติพันธุ์ตอกย้ำสภาวะ 1 ประเทศ 2 นายกฯ

'ปธ.กมธ.ความมั่นคงฯ' จ่อเรียกหน่วยงาน แจงปม 'ทักษิณ' เจรจากลุ่มชาติพันธุ์เมียนมา กังวล ผลผูกมัด รัฐบาล-ลดภาวะผู้นำเศรษฐา

'ก้าวไกล' รุมจวก 'เศรษฐา' เก่งแต่ใช้ปากต่อว่าคนอื่นแต่ทำงานไม่ได้เรื่อง

'ชุติพงษ์' ฟาด 'เศรษฐา' แก้ปัญหาสารเคมี ถ้าใช้ปากทำงานมาเป็นฝ่ายค้านดีกว่า ไม่ต้องเป็นรัฐบาล ชี้มีอำนาจแต่สั่งการไม่ได้ผลสักอย่าง 'ทวิวงศ์' เผยเหตุไฟไหม้โกดังเก็บสารเคมีที่อยุธยา

'ณัฐชา' ซัดอธิบดีกรมโรงงานฯ ไขก๊อกเท่ากับลอยแพลูกน้อง

'ณัฐชา' ซัดอธธิบดีกรมโรงงานอุตฯ ลาออก ลอยแพลูกน้อง ทั้งที่ควรอยู่แก้ปัญหาก่อนค่อยออก จี้ ก.อุตฯเค้นความจริง นายทุนใช้วิธีเผาสารเคมี หลังมีคำสั่งขนย้าย