ผอ.พอช.ร่วมงานสัมมนา “เปิดมุมมองใหม่ในการพัฒนาระบบสุขภาพชุมชนเข้มแข็ง” เสนอ 7 ประเด็นงานขับเคลื่อนร่วมกับชุมชนและภาคีเครือข่าย “สร้างชุมชนเข้มแข็ง”

นายกฤษดา   สมประสงค์  ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชนฯ

งานสัมมนา เรื่อง “เปิดมุมมองใหม่ในการพัฒนาระบบสุขภาพชุมชนเข้มแข็ง”

เมื่อวันที่  4 กรกฎาคม  ที่โรงแรมอัศวิน  แกรนด์  คอนเวนชั่น  กรุงเทพฯ  มีการจัดสัมมนา  เรื่อง “เปิดมุมมองใหม่ในการพัฒนาระบบสุขภาพชุมชนเข้มแข็ง” โดยมีผู้แทนหน่วยงานภาคีเครือข่ายเข้าร่วม  เช่น  สถาบันพัฒนาระบบบริการสุขภาพองค์รวม  สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)  สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน(องค์การมหาชน) ผู้บริหารโรงพยาบาล  เจ้าหน้าที่ รพ.สต. จากจังหวัดต่าง ๆ ทั่วทุกภูมิภาค  และภาคเอกชนจากบริษัทมีวนา จำกัด 

นายกฤษดา  สมประสงค์   ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) หรือ ‘พอช.’  กล่าวในประเด็น “ตัวอย่างพื้นที่ต้นแบบ  การจัดการพื้นที่เข้มแข็ง ผ่านการมีส่วนร่วมของคนในชุมชน”  มีใจความสำคัญว่า   พอช. เป็นองค์กรที่สนับสนุนการดำเนินงานของขบวนองค์กรชุมชนและประชาสังคมในการสร้างความเข้มแข็ง  ควบคู่ไปกับการแก้ปัญหาสังคม  เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีของพี่น้องประชาชน  โดยมีเป้าหมาย “ชุมชนท้องถิ่นเข้มแข็ง เต็มพื้นที่ประเทศไทย” โดย พอช. มีการขับเคลื่อนชุมชนเข้มแข็งจนเกิดพื้นที่ต้นแบบและรูปธรรมการดำเนินงาน ดังนี้

1.กองทุนสวัสดิการชุมชน หรือ ‘กองทุนวันละบาท’  โดยให้สมาชิกสมทบเงินเข้ากองทุนวันละ 1 บาท  แล้วนำเงินนั้นมาช่วยเหลือสมาชิกในยามจำเป็น  เช่น  เกิด  แก่  เจ็บป่วย  เสียชีวิต  ทุนการศึกษาเด็ก  ฯลฯ  ตามระเบียบและเงื่อนไขที่แต่ละกองทุนกำหนดเอาไว้  โดยรัฐบาลจะสมทบเงินเข้ากองทุนผ่าน พอช. รวมทั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น  และภาคเอกชนก็สามารถสมทบเงินเข้ากองทุนสวัสดิการชุมชนได้  เพื่อช่วยเหลือสมาชิกและผู้ด้อยโอกาสได้ทั่วถึง

ปัจจุบันมีการจัดตั้งกองทุนสวัสดิการชุมชนในระดับตำบล/เทศบาลทั่วประเทศ  จำนวน  5,915 กองทุน  สมาชิกกองทุนรวม  6,486,679 ราย   เงินกองทุนรวมกันจำนวน 20,413  ล้านบาท (ประมาณ 10,300 ล้านบาทมาจากการสมทบของชาวบ้าน) 

กองทุนสวัสดิการชุมชนเทศบาลตำบลบ้านส้อง  จ.สุราษฎร์ธานี  มอบสิ่งของช่วยเหลือสมาชิกที่ประสบความเดือดร้อน

ตัวอย่างเช่น  การพัฒนากองทุนเงินออมสู่กองทุนสวัสดิการชุมชนเทศบาลตำบลอุโมงค์ จังหวัดลำพูน  โดยตระหนักถึงสิทธิประโยชน์ด้านสวัสดิการให้แก่สมาชิกในชุมชน  โดยเฉพาะการจัดสรรสิทธิประโยชน์ให้แก่สมาชิกเพื่อเข้าถึงสวัสดิการสุขภาพคนในตำบล  โดยกองทุนมีค่าเดินทางให้แก่สมาชิกที่ไปรับการรักษาที่โรงพยาบาล  แต่เมื่อจำนวนสมาชิกในตำบลมีมากขึ้น  มีค่าเดินทางรวมประมาณปีละ 2 ล้านบาท  กองทุนจึงปรับเปลี่ยนระบบ  โดยนำโรงพยาบาลมาสู่ชุมชน  เพื่อให้คนทุกช่วงวัย  ตั้งแต่เด็ก  ผู้สูงอายุ  ผู้พิการ  และผู้เปราะบาง  ได้เข้าถึงบริการด้านสุขภาพที่สะดวกมากขึ้น นอกจากนี้หลายกองทุนได้ทำเรื่องอาหารปลอดภัยหรือเกษตรอินทรีย์

2.การขับเคลื่อนชุมชนเข้มแข็ง   โดยใช้สภาองค์กรชุมชนตำบลเป็นพื้นที่กลางในการสร้างการอยู่ร่วมกัน  ปัจจุบันมีการจัดตั้งสภาองค์กรชุมชนตำบล/เทศบาล  ประมาณ 7,801 แห่งทั่วประเทศ  เกือบเต็มพื้นที่ อปท. โดยให้องค์กรชุมชนที่จดแจ้งจัดตั้งมาร่วมเติมเต็มข้อมูลต่างๆ เชื่อมโยงการพัฒนาที่อยู่อาศัยของชุมชน  เช่น  บ้านพอเพียง  พอช.สนับสนุนงบประมาณซ่อมแซมบ้านเรือนที่ยากจนหลังละ 20,000 บาท  แต่บางหลังใช้งบไป 100,000  บาท ส่วนที่เกินมาจากความร่วมมือทุกภาคส่วน  หรือถ้าซ่อมไม่ถึง 20,000 บาทก็สามารถเฉลี่ยสุขให้บ้านหลังอื่นๆ ได้  และชุมชนได้จัดทำเป็นแผนตำบล   และเสนอเป็นแผนบูรณาการในระดับจังหวัด   ปัจจุบันพี่น้องเครือข่ายขบวนองค์กรชุมชนเป็นองค์ประกอบของคณะกรรมการบริหารงานจังหวัดแบบบูรณาการ (กบจ.) รวมทั้งมีการขับเคลื่อนความเข้มแข็งผ่านโครงการบ้านมั่นคงทั้งเมืองและชนบท  โดยใช้เรื่องบ้านเป็นเครื่องมือในการพัฒนา  ดูแลช่วยเหลือกัน

3.การพัฒนาเศรษฐกิจฐากราก  เช่น  เรื่องสัมมาชีพชุมชน  โดยมีโจทย์สำคัญ คือ ทำอย่างไรให้พี่น้องมีระบบการพัฒนาเศรษฐกิจที่สามารถดูแลตัวเองอย่างเข้มแข็ง  มีระบบตลาดรองรับสู่มาตรฐานอย่างยั่งยืน

4.การขับเคลื่อนการจัดการป่าชุมชน  โดยมีพื้นที่นำร่องใน 15 จังหวัด  ทั้งป่าชุมชน ป่าชายเลน ฯลฯ ทำอย่างไรจะทำให้คนกับป่าอยู่ร่วมกัน  โดยบูรณาการร่วมกับสำนักจัดการป่าไม้ และภาคีเครือข่ายต่างๆ โดยจะมีการลงนามบันทึกความร่วมมือระหว่าง พอช.และหน่วยงานต่างๆ ในวันที่ 7 กรกฎาคมนี้

5.การขับเคลื่อนศูนย์พัฒนาเด็กปฐมวัย  ผ่านรูปแบบการเรียนการสอน Active Learning โดยได้ทำความร่วมมือกับ อปท. 60 พื้นที่   เป้าหมายเพื่อให้เกิดการสร้างเด็กให้มีระเบียบวินัย  กระจายทุกภาคของประเทศไทย และสร้างพื้นที่ในการเรียนรู้กระจายไปทั่ว  ควบคู่ไปกับการสร้างองค์กรชุมชนให้เข้มแข็ง

“แต่อาจมีคำถามว่าเกี่ยวอะไรกับ พอช. ?  โดยการขับเคลื่อนเรื่องนี้  เราเน้นให้เกิดสร้างคน หรือสร้างผู้นำฟันน้ำนม  เพราะถ้าเด็กเติบโตเป็นผู้ใหญ่มีระเบียบ  มีจิตสาธารณะ เป็นผู้นำในการพัฒนาพื้นที่  สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี”  ผอ.พอช.อธิบาย

ดร.กอบศักดิ์  ภูตระกูล  ประธานกรรมการสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชนฯ ให้ความสนใจเรื่องการพัฒนาศูนย์เด็ก  โดยมีศูนย์ต้นแบบที่ อ.ท่าวุ้ง จ.ลพบุรี

6.การขับเคลื่อนแผนบูรณาการจังหวัด  มีตัวอย่างอีกหลายพื้นที่ที่ชุมชนเข้มแข็งลุกขึ้นมาจัดการตนเอง  เช่น  ‘พังงาเมืองแห่งความสุข’,  ‘รักจังสตูล’ ,  ‘อำนาจเจริญเมืองธรรมเกษตร’ ,  ‘ชัยนาทการพัฒนาที่อยู่อาศัยทั้งจังหวัด ใช้บ้านเป็นเครื่องมือ”  ฯลฯ ที่เชื่อมโยงมิติในการดูแลความเป็นอยู่ผู้คนในชุมชน  ผู้สูงอายุ  ผู้พิการ  กลุ่มคนเปราะบาง  รวมทั้งการส่งต่อการช่วยเหลือกับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์  หรือหน่วยงานต่าง ๆ นอกจากนี้ยังมีมิติเรื่องการศึกษา   มิติสิ่งแวดล้อม เป็นต้น

7.การขับเคลื่อนการเข้าถึงหลักประกันสุขภาพ ร่วมกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) โดย พอช. ร่วมมือในการสร้างความเข้าใจการเข้าถึงระบบหลักประกันสุขภาพ  เพื่อนำเงินกองทุนในพื้นที่มาใช้เพื่อการพัฒนาสุขภาพอนามัย  สร้างองค์ความรู้ขององค์กรชุมชน  และถ่ายทอดองค์ความรู้ผ่านกลไกระดับพื้นที่  ทั้งในระดับเขต ท้องที่ ท้องถิ่น  และจังหวัด  ในการพัฒนาให้พี่น้องมีส่วนร่วมทำแผน  ให้งบประมาณให้พี่น้องมาดูแลสุขภาพชุมชน  โดยใช้ รพ.สต. เป็นกลไกในการพัฒนาไปด้วยกัน 5 ภาค  โดยแต่ละภาคทำความเข้าใจ และจะขยายผลทุกท้องถิ่นที่จะนำไปสู่ความเข้มแข็งภายใต้กองทุน สปสช.   

“ในปี 2567  พอช.จะเปิดมิติในการบริบาลและส่งเสริมสุขภาพของคนในชุมชน มีนักบริบาลท้องถิ่น โดยความร่วมมือกับหน่วยงานภาคี  ใช้มิติในการทำงานเชิงวิจัย  เชื่อมโยงเป็นเครือข่ายในการทำงาน  ผลักดันให้เกิดช่องทางงบประมาณต่างๆ สนับสนุนพื้นที่  โดยมีกลไกส่งเสริมสุขภาพตำบล  โดย พอช.จะร่วมหนุนเสริมเครื่องมือ และจัดระบบสนับสนุนให้พี่น้องขบวนองค์กรชุมชนได้ร้อยเรียงผ่านแผนบูรณาการจังหวัดนำร่อง 24 จังหวัด เป็นต้น ซึ่งในส่วนนี้จะมีการทำงานร่วมกับกลุ่มเป้าหมายและภาคีทุกระดับต่อไป  โดย พอช.จะขยับขับเคลื่อนร่วมกันทั้งพื้นที่ในระดับกลุ่มจังหวัด ขบวนองค์กรชุมชนจังหวัด  ประชาสังคม  สถาบันวิชาการ  ภาคี  หน่วยงานทุกภาคส่วนในการแก้ปัญหาของชุมชนและสร้างความเข้มแข็งของชุมชน สังคม และประเทศไปด้วยกัน”  นายกฤษดา  สมประสงค์  ผอ.พอช. กล่าวในตอนท้าย

นายกฤษดา  ผอ.พอช.

************

รายงานโดย พิชยาภรณ์  หาญวณิชานนท์  เจ้าหน้าที่บริหารงานข้อมูลอาวุโส  สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน)

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

สำนักงานพัฒนาที่อยู่อาศัยกรุงเทพมหานคร จัดเวทีดำเนินโครงการบ้านมั่นคงพลัส ระดมความคิด เดินหน้าแก้ปัญหาที่อยู่อาศัย วางแผนขับเคลื่อนสู่อนาคต

นายจิตรกร พยัฆโส รองผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาที่อยู่อาศัย รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาที่อยู่อาศัย จัดเวทีโครงการบ้านมั่นคงพลัส แบ่งกลุ่มย่อยแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ร่วมกับสำนักงานเขต ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักในการขับเคลื่อนงาน

“ธรรมนัส-อัครา” มอบบ้านมั่นคง พร้อมประกาศชัด ดัน “สหกรณ์บ้านมั่นคง” ยกระดับสู่ “สหกรณ์ประเภทที่ 8”

รองนายกฯ ธรรมนัส พรหมเผ่า และ รมว.พม. อัครา พรหมเผ่า ผนึกกำลัง 2 กระทรวง ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและเป็นประธานงานสัมมนาเครือข่ายสหกรณ์บ้านมั่นคง

คนจนทั่วประเทศกว่า 5 พันคน รวมพลังยื่นข้อเสนอต่อรัฐบาล “ที่อยู่อาศัย คือสิทธิขั้นพื้นฐานของทุกคน” ไว้ในรัฐธรรมนูญ เนื่องในวันที่อยู่อาศัยโลก ปี 2568

ปัญหาการขาดแคลนที่อยู่อาศัยหรือมีที่อยู่อาศัยไม่เหมาะสมเป็นปัญหาที่สำคัญของผู้คนทั่วโลก UN-Habitat หรือ ‘โครงการตั้งถิ่นฐานมนุษย์แห่งสหประชาชาติ’

จากความไม่มั่นคงสู่ชุมชนต้นแบบ....บ้านมั่นคงเจริญชัยนิมิตใหม่

เรื่องราวของ ชุมชนเจริญชัยนิมิตใหม่ เขตจตุจักร กรุงเทพฯ เป็นบทพิสูจน์ที่ว่า การรวมพลังและหัวใจของ "คนในชุมชน" พวกเขาพลิกจากอดีตชุมชนแออัดริมทางรถไฟที่มีอายุเก่าแก่กว่า 50 ปี

ชุมชนสวนพลู จากสลัม สู่บ้านมั่นคงโมเดล ใจกลางกรุงเทพฯ

ในอดีต ชุมชนสวนพลูเป็นพื้นที่แออัดใจกลางเมืองที่ประสบปัญหามากมาย ทั้งการอยู่อาศัยอย่างไม่มั่นคงบนที่ดินกรมธนารักษ์, ปัญหาอาชญากรรม, และเศรษฐกิจที่เปราะบาง

หินเหล็กไฟ “ชุมชนผู้ไม่ยอมแพ้"

คำกล่าวที่ว่า "ไม่มีอะไรที่ได้มาง่าย ๆ และไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้" ดูจะตรงกับเรื่องราวของ "ชุมชนหินเหล็กไฟ" มากที่สุด ที่ซึ่งอดีตผู้บุกรุกที่ดินรถไฟริมทางรถไฟหัวหิน