
วันที่ 25 พ.ย.ของทุกปี ถือเป็นเดือนยุติความรุนแรง โดย UN กำหนด เป็น “วันยุติความรุนแรงต่อผู้หญิงสากล” และจัดให้มีการรณรงค์ทั่วโลก เพื่อให้ตระหนักถึงปัญหาความรุนแรงที่กระทำต่อเด็กและสตรี ที่ไม่ได้เป็นเพียงสร้างความเจ็บปวดทางร่างกายเท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างบาดแผลให้เจ็บลึกเข้าไปในจิตใจของผู้ถูกกระทำหรือเหยื่อด้วย
ในส่วนของประเทศไทยนั้น สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ได้ร่วมกับ แผนงานสุขภาวะผู้หญิงและความเป็นธรรมทางเพศ สมาคมเพศวิถีศึกษา ไซด์คิก (Sidekick) องค์กรออกแบบการสื่อสารเพื่อสังคม จัดงาน “เรา” พื้นที่พลังบวก เมื่อวันที่ 11 พ.ย.ที่ผ่านมา ที่หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร

นางภรณี ภู่ประเสริฐ ผู้ช่วยผู้จัดการกองทุน สสส. และรักษาการผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนสุขภาวะประชากรกลุ่มเฉพาะ (สำนัก 9) สสส. เปิดเผยว่า องค์กรเพื่อสตรีแห่งสหประชาชาติ (UN Women) ระบุว่า 88% ของผู้หญิงในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกถูกคุกคามทางเพศบนออนไลน์ โดยเด็กหญิงวัยรุ่น และคนกลุ่มเปราะบางรับผลกระทบมากที่สุด มีสาเหตุสำคัญจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
ข้อมูลจากมูลนิธิหญิงชายก้าวไกล ปี 2564 พบข่าวความรุนแรงในครอบครัวที่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นตัวกระตุ้น 24.7% และยาเสพติด 17.2% ผู้หญิงที่ถูกกระทำส่วนใหญ่ไม่สามารถออกจากความสัมพันธ์ได้ ชุมชนมีส่วนให้ความช่วยเหลือด้วยการเยียวยาเพื่อให้เกิดพื้นที่ปลอดภัย

ดังนั้น การควบคุมปัจจัยเสี่ยงหลัก อย่างเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ยังคงเป็นภารกิจหลักที่ สสส. มุ่งมั่นขับเคลื่อนต่อไป พร้อมผลักดันความรุนแรงเป็นประเด็นสาธารณะ เพื่อลดความรุนแรงอันเนื่องจากเหตุแห่งเพศ โดยมียุทธศาสตร์การดำเนินงาน 4 ด้าน 1.พัฒนาองค์ความรู้และแนวปฏิบัติในการลดความรุนแรง 2.พัฒนาต้นแบบในระดับชุมชนและสถานประกอบการ 3.เสริมศักยภาพแกนนำ/เครือข่ายลดความรุนแรง 4.สนับสนุนการขับเคลื่อนงานนโยบายลดความรุนแรง
สสส.ร่วมกับ ภาคีเครือข่ายดำเนินงานยุติปัญหาความรุนแรง จัดงาน “เรา” พื้นที่พลังบวก สะท้อนให้สังคมได้เห็นถึงปัญหาความรุนแรงที่เกิดขึ้นในสังคมไทย ผลักดันให้เป็นประเด็นสาธารณะ ที่ทุกภาคส่วนให้ความสำคัญร่วมแก้ไข ในงานมีการเปิดตัวแพลตฟอร์ม “เรา” ชุมชนออนไลน์เสริมพลังหญิง ให้ได้ทดลอง Public Beta Testing ก่อนใช้งานจริงในต้นปี 2567

ดร.วราภรณ์ แช่มสนิท ที่ปรึกษาแผนงานสุขภาวะผู้หญิงฯ สมาคมเพศวิถีศึกษา ชี้แจงว่า ได้รับการสนับสนุนจาก สสส. มีความห่วงใยความรุนแรงเรื่องเพศ การคุกคามทางเพศ ลดปัญหาความรุนแรงบนรถขนส่งสาธารณะ ความรุนแรงในพื้นที่สาธารณะ โดยเฉพาะในช่วงโควิดระบาด คนในสังคมอยู่กับการทำงานบนโลกออนไลน์เพิ่มขึ้น 50-70% ทั่วโลก การคุกคามทางเพศบนโลกออนไลน์ก็เพิ่มจำนวนมากขึ้น
“การใช้คำพูดเสียดแทงคนอื่น การส่งข้อความผ่านสื่อ การถูกเนื้อต้องตัวก็เป็นส่วนหนึ่งของการคุกคามทางเพศ เพราะคนที่ถูกกระทำไม่ได้รู้สึกยินดีหรือไม่ต้องการ ทำให้เครียด รู้สึกไม่ปลอดภัย ส่งผลกระทบต่อจิตใจ สร้างบรรยากาศไม่ปลอดภัยในที่ทำงาน มีการคุกคามคนรอบข้าง โดยเฉพาะคนที่เป็นหัวหน้างานกระทำต่อลูกน้องในที่ทำงาน สมัยก่อนคนถูกคุกคามไม่กล้าพูด แต่ในช่วง 6 ปีที่ผ่านมาคนถูกคุกคามทางเพศกล้าพูดมากขึ้น บอกกับสังคมว่าตัวเองถูกทำร้าย ไม่หนี คนที่คุกคามทางเพศคือคนผิดที่จะต้องรับผิดในสิ่งที่ตัวเองเป็นผู้กระทำ องค์กรหน่วยงานเมื่อมีบุคลากรคุกคามทางเพศ ต้องแก้ไขปัญหาเมื่อมีการร้องเรียน ขณะนี้มีองค์กรเรา.ASIA รับแก้ไขปัญหาทางไลน์ สมัครสมาชิก”

ปี 2564-2566 แผนงานสุขภาวะผู้หญิงฯ ร่วมกับ Sidekick และผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยา ศึกษาข้อมูลทำงานกับเยาวชนหญิงที่กำลังศึกษาในระดับมหาวิทยาลัย รวมทั้งเริ่มเข้าสู่วัยทำงานพบว่า เคยประสบเหตุการณ์ถูกคุกคาม หรือล่วงละเมิดในเรื่องที่เกี่ยวกับเพศ จำนวน 270 คน จาก 18 มหาวิทยาลัย 75% เคยถูกคุกคามทางเพศโดยคนแปลกหน้าในที่สาธารณะ ตามมาด้วยการคุกคามทางเพศในพื้นที่ออนไลน์ 58% และ 87% ของเยาวชนกลุ่มนี้บอกว่าเมื่อเจอเหตุการณ์ถูกคุกคาม หรือมีภาวะที่ถูกกระทบทางจิตใจจากเหตุการณ์ในอดีตจะเลือกหาความช่วยเหลือจากเพื่อนและคนในครอบครัว มีเพียง 20% ที่เลือกใช้ช่องทางความช่วยเหลือแบบเป็นทางการ เช่น จิตแพทย์ ตำรวจ และสายด่วนต่างๆ และยังมีอีก 10% ที่บอกว่าไม่เคยขอความช่วยเหลือจากแหล่งใดๆ เลย
“เหตุการณ์ที่เคยถูกคุกคามหรือล่วงละเมิดในอดีตได้สร้างผลกระทบทางจิตใจ มีผลไปถึงการเรียน การทำงาน และการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น รู้สึกเครียด หวาดผวา เสียความมั่นใจในตัวเอง บางส่วนต้องเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ ยกเลิกหรือเปลี่ยนบัญชีโซเชียลมีเดีย และส่วนใหญ่บอกว่าไม่กล้าเข้าสังคมและทำความรู้จักคนใหม่ๆ จึงพัฒนาแพลตฟอร์ม “เรา” โดยมีผู้เชี่ยวชาญทางจิตวิทยาเป็นที่ปรึกษา ให้ข้อมูล โดยมีรูปแบบการแชร์ประสบการณ์ การก้าวข้ามเรื่องร้ายๆ ในอดีตของบุคคลที่มีชื่อเสียง เคล็ดลับการสร้างวันดีๆ ให้กับตัวเอง ช่องทางการพูดคุยแลกเปลี่ยนออนไลน์ โดยจัดกิจกรรมเยียวยา และเสริมพลังทั้งแบบออนไลน์ และออฟไลน์ที่สมาชิกสมัครเข้าร่วมได้ มีข้อมูลหน่วยงานให้ความช่วยเหลือ สำหรับผู้ที่ต้องการ เข้าใช้งานได้ที่ www.rao.asia แพลตฟอร์มของเพื่อนที่เข้าใจ” ดร.วราภรณ์เปิดเผย
ในช่วง 6 เดือนเราไม่คาดหวังว่าปัญหาจะลดลงในเวลาสั้นๆ แต่สร้างความตระหนักรู้การคุกคามทางเพศเป็นเรื่องซับซ้อน ใครที่โดนสมัยก่อนจะเก็บเงียบไม่บอกใคร แต่ช่วงหลังอิทธิพลจากข้อมูลข่าวสารคนที่ถูกคุกคามกล้าพูดมากขึ้นในพื้นที่สังคมรับรู้จะได้ช่วยกันเปลี่ยนแปลงลดปัญหาได้

ทิพย์เกสร สุตันคำ ตัวแทนผู้ใช้งานแพลตฟอร์ม “เรา” เปิดเผยว่า ทุกวันนี้การรักษาทางจิตเวชสังคมไม่ได้รู้สึกว่าเป็นสิ่งผิดปกติ ขณะนี้แพทย์ทางจิตเวชมีจำนวนน้อย ไม่มีเวลามากพอที่จะรับฟังปัญหาอย่างละเอียด ดังนั้นช่องทางแพลตฟอร์ม “เรา” เป็นพื้นที่ปลอดภัย เป็นช่องทางให้สร้างเพื่อน สร้างกำลังใจ มอบแรงบันดาลใจให้กัน ใช้งานได้ทุกช่วงเวลา ทั้งตอนรู้สึกดาวน์ ต้องการกำลังใจ หรือช่วงเวลาที่รู้สึกดีๆ และอยากแบ่งปัน Feature ที่ชอบมากที่สุดคือ พื้นที่พูดคุยแลกเปลี่ยน ด้วยความที่ไม่ต้องเปิดเผยตัวตน จึงทำให้รู้สึกสบายใจที่จะพูดคุยกับคนอื่นๆ ในพื้นที่ชุมชนของ “เรา” มีประสบการณ์ เคยเจอเหตุการณ์คล้ายๆ กัน ก็จะเข้าใจกันมากกว่าเวลาคุยกับคนรอบข้างที่มองว่าสิ่งที่เราเจอมาเป็นแค่เรื่องเล็กน้อย จนทำให้เลือกเก็บทุกอย่างไว้คนเดียวมาตลอด พอมาเจอช่องทางที่ได้พูดและได้รับการตอบกลับมาเป็นข้อความที่ดี เป็นกำลังใจ ให้ข้อคิด ทำให้เราเจอทางออกอีกทาง
ภัสรนันท์ อัษฏมงคล หรือ เบียร์ แบ่งปันประสบการณ์ที่ได้รับบาดแผลทางใจ Trauma ที่สำคัญ เพื่อน คนรัก ครอบครัว เข้าใจ ช่วยให้ผ่านพ้นวิกฤตมาได้ “การที่เรามีคนใกล้ตัวรักเรา พร้อมที่จะรับฟัง ยิ่งบอกปัญหาได้เร็วเท่าไหร่ก็จะแก้ไขปัญหาได้เร็วเท่านั้น ถ้าเก็บปัญหาไว้กับตัวนานๆ ก็จะเกิดความเครียด การที่เราเป็นผู้ถูกกระทำได้รับความเดือดร้อน อย่าแบกปัญหาไว้คนเดียว ทุกคนพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ไม่ทิ้งเด็กไว้ข้างหลัง! หนุนแนวทางฟื้นฟูกายใจกลางวิกฤตภัยพิบัติและสงคราม
สสส. ร่วมกับภาคีเครือข่าย เปิดเวทีสื่อสาร “แนวทางการดูแลและฟื้นใจเด็กในภาวะภัยพิบัติ-สงคราม” หวังก้าวผ่านผ่านวิกฤตเยียวยาฟื้นฟูทั้งทางกายและจิตใจของผู้ที่ได้รับผลกระทบ
ขับเคลื่อน...ข้อมูลสุขภาพ กุญแจหยุดโรคเรื้อรังของสังคมไทย
ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของสังคม เศรษฐกิจ และวิถีชีวิตยุคดิจิทัล โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง หรือ NCDs ได้ค่อยๆ แทรกซึมเข้ามาเป็นภัยเงียบของคนไทยอย่างต่อเนื่อง จากเดิมที่โรคเบาหวาน
สสส. สานพลัง เครือข่ายเล่นเปลี่ยนโลก-เครือข่ายเด็ก เยาวชนภาคใต้ เดินหน้าหนุนชุมชนสร้าง “ลานเล่นอิสระ” ใกล้บ้าน
น.พ.พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า เหตุการณ์วิกฤตน้ำท่วมใหญ่ในพื้นที่ภาคใต้ที่ผ่านมา ส่งผลให้ประชาชนในพื้นที่ต้องเผชิญกับความยากลำบากในการใช้ชีวิต เกิดผลกระทบโดยตรงต่อสุขภาพทั้งด้านร่างกายและจิตใจ
สสส. ปลื้ม แนวคิด “Happy Workplace” ช่วยคนทำงานอุตสาหกรรมขนส่ง 102 แห่ง สุขภาวะดี-ลดป่วย NCDs-ลดอุบัติเหตุทางถนน เดินหน้าสานพลัง สมาคมขนส่งสินค้าฯ เปิดเวที “TRUCK HERO : ฮีโร่รถบรรทุก ขับเคลื่อนความปลอดภัย ใส่ใจสุขภาวะ”
สสส. สานพลัง สมาคมขนส่งสินค้าและโลจิสติกส์ไทย จัดกิจกรรม “TRUCK HERO: ฮีโร่รถบรรทุก ขับเคลื่อนความปลอดภัย ใส่ใจสุขภาวะ” ภายใต้โครงการขับเคลื่อนและขยายผลการเสริมสร้างสุขภาวะในองค์กรแก่บุคลากรในธุรกิจขนส่ง ณ อาคารศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)
รัฐบาลไทยเร่งแก้ปัญหาท้องในวัยรุ่น บูรณาการความร่วมมือ 3 หน่วยงาน ถอดบทเรียน 8 คู่มือปฏิบัติงานเสริมสร้างกลไภความเข้มแข็งในระดับพื้นพื้นที่
นายพัฒนา พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธาน พิธีเปิด "การประชุมวิชาการแลกเปลี่ยนเรียนรู้เพื่อส่งมอบผลงานโครงการเสริมสร้างความเข้มแข็งในการดำเนินงาน ป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่นของประเทศ" โดยจัดขึ้นร่วมกันระหว่างสมาคมแพทย์สตรีแห่งประเทศไทยในพระบรมราชินูปถัมภ์ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)
สสส. ผนึกกำลัง 10 หน่วยงาน 100 ภาคี เตรียมจัดงานThailand National PM 2.5 Forum #2 เปลี่ยนระบบ เชื่อมข้อมูล ขับเคลื่อนอากาศสะอาด
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) แถลงข่าวเตรียมความพร้อมการประชุมระดับชาติ เรื่อง มลพิษทางอากาศ PM2.5 ครั้งที่ 2 (Thailand National PM2.5 Forum #2)

