ตัดเกรด7เดือน “หนู”ในดง“สิงห์”

ช่วงเทศกาลสงกรานต์ ถึงฤดูตัดเกรดทางการเมืองเริ่มขึ้นแล้ว หลายกระทรวงทำผลงานได้เข้าเป้า บางกระทรวงผลงานยังไม่ออกมา เพราะติดปัญหาต่างๆ  ถูกสกัดด้วยเรื่องข้อกฎหมาย งบประมาณ และเกมการเมืองต่างๆ 

ต่ในสายตาชาวบ้าน ร้านตลาด คนหาเช้ากินค่ำ ไม่มีเวลามานั่งฟังข้ออ้าง คำปลอบใจ แต่ดูกันที่ความสำเร็จของผลงาน ที่จับต้องได้เท่านั้น  

ในความวังเวงปรากฏว่ากระทรวงมหาดไทย ในการกำกับของ “มท.หนู” อนุทิน ชาญวีรกูล  รองนายกฯ และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคลองหลอด (มท.1) ได้สร้างผลงานขึ้นได้เรื่อยๆ 

แค่ “หนู” แต่มาคุม “สิงห์” แค่ชื่อ ก็เรียกได้ว่าสร้างสีสันไม่ใช่น้อย 

ขณะที่รูปแบบการทำงาน ได้สร้างความกระชุ่มกระชวยและปลุก ให้กับกระทรวงที่เคยเงียบเหงา ให้กระตือรือร้น  และถือเป็นมิติใหม่ ทั้งในแง่ของบรรยากาศและการทำงาน เพราะ นายอนุทิน เดินเกมรุก ปลุกสิงห์ ให้กลับมาผงาดอีกครั้ง

ข้าราชการที่เคยเซื่องซึม  บัดนี้กระฉับกระเฉงขึ้นทันตา เช่นเดียวกับพื้นที่ข่าวของกระทรวง ที่จองหน้าสื่อต่างๆ แบบรายวัน ด้วยความเคลื่อนไหวที่เร้าสังคม 

แถมยังมีซีนดราม่า นำมาซึ่งการวิจารณ์เป็นระยะกับภารกิจ แก้ทุกข์ สร้างสุข กับชาวบ้าน ที่นายอนุทิน ขนทุกองคาพยพมาช่วยขับเคลื่อนงาน

ตั้งแต่จับผสถานบันเทิงเถื่อน จับบ่อนการพนัน จับมาเฟีย ไทยเทศ  ไหนจะปราบปรามเรื่องยาเสพติดในชุมชุม แก้ปัญหาหนี้นอกระบบ  แก้ปืนเถื่อนและอีกสารพัด

ตลอด 7 เดือนทั้งแต่รับตำแหน่ง มท. 1    นายอนุทิน ลงพื้นที่จริงไปกับฝ่ายปฏิบัติการด้วย หาใช่นักรบห้องแอร์ ที่เน้นสั่ง ไม่เน้นเสี่ยง แต่เป็นแม่ทัพทะลวงฟันไปไหน ไปกัน กับลูกน้อง จนปรากฏช็อตโหดมันฮา ของนายอนุทิน หลายต่อหลายครั้ง

แต่มันก็เป็นภาพจำที่ประทับใจมวลชน และคนทำงาน ถึงขั้นที่ระหว่างบุกผับ มีสาวมาขอกอดจนเป็นไวรัลดัง ซึ่งมันก็สะท้อนว่านายอนุทิน มาถูกทาง กลายเป็นขวัญใจคนอยู่ไม่น้อย

สำหรับ “อนุทิน ”  ถือเป็นหนึ่งในรัฐมนตรีที่ติด TOP3 ด้านผลงานมาในทุกยุคทุกสมัย ย้อนไปวันที่ 3 มี.ค. ที่ผ่านมา สำนักวิจัย ซูเปอร์โพล เปิดผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน เรื่องประเมินผลงานรัฐบาล 6 เดือน กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ อายุ 18 ปีขึ้นไป ดำเนินโครงการทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) รวมจำนวน 1,289 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 28 ก.พ.-2 มี.ค. 67 ที่ผ่านมา

นายอนุทิน เข้ามาเป็นอันดับ 2 รัฐมนตรีที่ประชาชนพอในในเรื่องผลงานการแก้หนี้นอกระบบ ส่วนในเรื่องของการแก้ปัญหายาเสพติด ชื่อของนายอนุทิน ก็เข้ามาเป็นที่ 2 เช่นกัน 

ขณะที่เรื่องของการแก้ที่ดินทำกิน นายอนุทิน พุ่งเข้ามาเป็นอันดับที่ 3 จะเห็นได้ว่า นายอนุทิน เป็นรัฐมนตรีที่ติดชาร์จเรื่องผลงาน และเป็นเช่นนี้มาตั้งแต่แก้ปัญหาโควิดในรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา สมัยเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พาระบบสุขภาพไทยทะยานขึ้น TOP5 ของ โลก 

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ พรรคฝ่ายค้านอย่างพรรคประชาธิปัตย์ ยังเคยออกปากชมว่า นายอนุทิน เป็น 1 ใน3 รัฐมนตรี สอบผ่านการทำงาน  หลังรัฐบาลเข้ามาทำงานสองเดือนที่ผ่านมา

รศ.ดร.โอฬาร ถิ่นบางเตียว รองคณะบดี คณะรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา กล่าวถึงการทำงานมหาดไทย  “ยุคหนูคุมสิงห์”  ว่าต้องย้อนกลับไปทำความเข้าใจว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ถือเป็นนักการเมือง ที่เข้ามามีบทบาทสำคัญและเด่นชัดที่สุด ทั้งเรื่องพลังการเมืองหนุนหลัง และ การทำงาน  

 ซึ่งเป็นผลพวงจากประสบการณ์ที่สั่งสมมาในเวทีการเมืองและ ก่อนหน้าทำธุรกิจ  พอมาถึงตำแหน่ง รมว.มหาดไทย ในรัฐบาลผสมชุดปัจจุบัน ก็สามารถจัดการความสัมพันธ์กับข้าราชการในกระทรวงได้อย่างดี และแก้ปัญหาให้ชาวบ้านได้   

“กระทรวงมหาดไทย มีความสัมพันธ์ภายในที่ซับซ้อนมาก  นายอนุทินก็สามารถมอบนโยบายให้ปฏิบัติตามได้อย่างเคร่งคัด อย่างกรณี ยาเสพติด หรือผับเถื่อน ซึ่งเจ้าหน้าที่กรมการปกครองก็ทำงานได้มีประสิทธิภาพ เป็นประเด็นที่น่าสนใจมากสำหรับเรื่องนี้ และมันก็สะท้อนว่า กระทรวงไหนก็ตามถ้าเจ้ากระทรวงเอาจริง ก็ย่อมสร้างผลงาน สร้างความสำเร็จได้” รศ.ดร.โอฬาร กล่าว

ผศ.ดร.วันวิชิต บุญโปร่ง อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ ม.รังสิต ให้ความเห็นเรื่องการบุกจับบ่อน และยาเสพติด ของกระทรวงมหาดไทยยุคนี้ที่ต่างไปจากเดิมว่า  ปกติเราไม่เห็นฝ่ายปกครองออกแอ็กชั่นขนาดนี้  ส่วนใหญ่ ฝ่ายปกครองจะทำงานดูแลความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ ถ้าจับบ่อน ก็จับบ่อนขนาดเล็ก ถ้าจับยาเสพติด ขนาดเล็ก เช่นกัน  แต่การที่ฝ่ายปกครอง ในยุคของนายอนุทิน ขยับมาทำเรื่องที่ใหญ่ขึ้น มันก็สะท้อนว่า กระทรวงมหาดไทย เปลี่ยนไปแล้ว ซึ่งถือเป็นเรื่องดี เพราะกระทรวงมหาดไทยมีความสามารถในการทำเรื่องลักษณะนี้ได้ ด้วยเครือข่าย ด้วยอำนาจหน้าที่ 

"ยังเป็นการส่งสัญญาณไปถึงผู้กระทำผิด ว่าต้องระวังมากขึ้นไปอีก เพราะ มีอีกหน่วยงานมาจับตามองคุณแล้ว และเขาเอาจริงด้วย ทั้งยังเป็นการกระตุ้นให้หน่วยงานอื่น รู้สึกว่า จะอยู่เฉยไม่ได้แล้ว"  อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ ม.รังสิต  เคยกล่าวไว้

นี่คือผลงาน 7 เดือนของ “มท.หนู”  ที่มุ่งเน้นเรื่องจัดระเบียบสังคม หลังจากนี้ต้องดูว่าจะมีนโยบายอะไร แก้ปัญหาปากท้อง และเศรษฐกิจให้ชาวบ้านแบบเป็นชิ้นเป็นอันหรือไม่  ซึ่งถือเป็นโจทย์ใหญ่ที่ท้าทายรัฐบาลชุดนี้ 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'อนุทิน' การันตี ภท. ไม่ปรับ ครม. ชี้ 8 รมต. ทำงานคืบหน้า

'อนุทิน' ย้ำรัฐมนตรีภูมิใจไทย 8 คน ไม่มีขยับ ชี้ทุกคนทำงานเต็มที่ผลักดันนโยบายคืบหน้าตลอด นายกฯ ยังไม่ส่งสัญญาณปรับ ครม. พร้อมอุ้ม 'เกรียง' มอบ พช. ดูแลเพิ่มอีกกรม

“อนุทิน” อวยพรสงกรานต์ ขอ “ประชาชน” ไร้ทุกข์ ไร้โศก มีแต่ความสุขกายสบายใจ

13 เมษายน 2567 นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวเนื่องในเทศกาลสงกรานต์

'อนุทิน' จ่อถอดเทป 'เศรษฐา' จ้อสื่อนอก ลั่น 'กัญชาเสรี' อยู่ในนโยบายรัฐบาล

'อนุทิน' ยัน 'กัญชา' มีประโยชน์ทางการแพทย์-เศรษฐกิจ บรรจุในนโยบายรัฐบาลแล้ว หลังนายกฯ ระบุจะนำกลับบัญชียาเสพติด ชี้หากเปลี่ยนแปลงต้องแก้กฎหมายหลายตัว เยียวยาผู้ทำถูกต้อง