“พาณิชย์-DITP” เผย “อาหารพร้อมทานแช่แข็ง” มีโอกาสเจาะตลาดจีน

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ เผย “อาหารพร้อมทานแช่แข็ง” มีโอกาสเจาะตลาดจีน หลังเป็นคลื่นลูกใหม่ที่กำลังเติบโต และได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ชี้ช่องหาพันธมิตรธุรกิจในจีนและร่วมกันพัฒนาเมนูอาหารให้มีความเป็นเอกลักษณ์ มั่นใจบูมแน่ ย้ำห้ามลืมเรื่องคุณภาพ มาตรฐาน และการป้องกันโควิด-19

นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์เปิดเผยว่า ตามนโยบายนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่ได้สั่งการให้ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ หรือทูตพาณิชย์ มองหาโอกาสทางการค้าให้กับผู้ประกอบการไทย ล่าสุดกรมฯ ได้รับรายงานจากทูตพาณิชย์ ณ เมืองเซี่ยเหมิน สาธารณรัฐประชาชนจีน ถึงโอกาสตลาดอาหารพร้อมทานแช่แข็ง ที่มีแนวโน้มเติบโตได้สูงในตลาดจีน และเป็นโอกาสในการขยายการส่งออกอาหารพร้อมทานแช่แข็งเข้าสู่ตลาดจีนได้เพิ่มมากขึ้น

โดยในปัจจุบันตลาดอาหารพร้อมทานแช่แข็งในจีน ถือเป็นตลาด Blue Ocean คลื่นลูกใหม่ที่กำลังเติบโตและมีการแข่งขันสูงมากขึ้นเรื่อย ๆ แต่ยังไม่มีคู่แข่งทางการค้าที่ผูกขาดในตลาดจีน จึงเป็นอีกหนึ่งตลาดใหม่ที่น่าสนใจและเป็นโอกาสทางการค้าสำหรับผู้ประกอบการไทย โดยในปี 2563 ที่ผ่านมา รายได้ของธุรกิจอาหารพร้อมทานแช่แข็งในจีนคิดเป็นมูลค่า 31,381 ล้านหยวน (ประมาณ 156,905 ล้านบาท) ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนราวร้อยละ 20 ของธุรกิจอาหารแช่แข็งทั้งหมดในจีน และคาดการณ์ว่าในปี 2568 จะมีมูลค่าตลาดอยู่ที่ 600,000 ล้านหยวน (3,000,000 ล้านบาท)

นอกจากนี้ ยังพบว่า เริ่มมีแบรนด์อาหารพร้อมทานแช่แข็งหลากหลายแบรนด์ในจีน ที่เริ่มออกผลิตภัณฑ์เมนูอาหารใหม่ ๆ วางจำหน่ายในตลาดจีน ซึ่งหนึ่งในนั้น มีเมนูอาหารไทย โดยเฉพาะเมนูอาหารต้มยำกุ้ง ซึ่งจะเห็นได้ว่า อาหารไทยมีโอกาสและช่องว่างทางการค้าในจีนอีกมาก ผู้ประกอบการไทยจึงควรสำรวจพฤติกรรมความต้องการบริโภคของผู้บริโภคชาวจีนและแนวโน้มสินค้าในตลาดจีน เพื่อนำสินค้ามาบุกตลาดจีนได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยควรหาพันธมิตรทางธุรกิจในจีนและร่วมกันพัฒนาเมนูอาหารให้มีความเป็นเอกลักษณ์ มีความแปลกใหม่ หรือผสมผสานความเป็นไทย-จีนเข้าไว้ด้วยกัน เพื่อสามารถเข้าถึงผู้บริโภคชาวจีนได้มากขึ้น

ขณะเดียวกัน จะต้องให้ความสำคัญกับการป้องกันโควิด-19 เพราะในสถานการณ์โควิด-19 ที่ยังคงดำเนินต่อไป อาจส่งผลกระทบต่อการขนส่งอาหารในห่วงโซ่ความเย็นไม่มากก็น้อย ซึ่งผู้ประกอบการไทยควรให้ความสำคัญในด้านอาหารปลอดภัยและสุขอนามัยของสินค้า โดยปฏิบัติตามกฎระเบียบและข้อบังคับของมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 และมาตรการการควบคุมโลจิสติกส์ห่วงโซ่ความเย็นของจีนอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันผลกระทบจากการแพร่ระบาด และเพื่อไม่ให้เสียโอกาสและผลประโยชน์ทางการค้า อีกทั้ง ยังควรศึกษากฎระเบียบและเกณฑ์มาตรฐานสาหรับอาหารแช่แข็งของจีน เพื่อขจัดปัญหาข้อจำกัดในด้านการนำเข้าสินค้า

นางสาวนันท์นภัส งามแม้น ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองเซี่ยเหมิน สาธารณรัฐประชาชนจีน กล่าวว่า หลังจากโควิด-19 ระบาดมาเป็นเวลากว่า 2 ปี ส่งผลให้พฤติกรรมการบริโภคของชาวจีนเปลี่ยนไป เริ่มนิยมรับประทานอาหารพร้อมทานแช่แข็งมากขึ้น และด้วยข้อจำกัดการเดินทางกลับไปหาครอบครัวและเลี้ยงฉลองในช่วงเทศกาลตรุษจีน ทำให้ผู้บริโภคชาวจีนหันมาเลือกบริโภคเมนูอาหารจัดเลี้ยงตรุษจีนในรูปแบบอาหารพร้อมทานแช่แข็งกันมากขึ้น โดยเฉพาะคนวัยหนุ่มสาว ทำให้เมนูอาหารจัดเลี้ยงตรุษจีนในรูปแบบอาหารพร้อมทานแช่แข็งกลายเป็นเทรนด์ใหม่ในตลาดจีน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

‘พิชัย’ ลงนาม MOU ก้าวสำคัญทางการค้า “ไทยกับสหราชอาณาจักร” ยกระดับการเป็นหุ้นส่วนทางการค้าในอุตสาหกรรม 20 สาขา พร้อมเดินหน้าเจรจาจัดทำ FTA ร่วมกัน

เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2567 เวลา 17.00 น. ที่นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้พบหารือกับนายดักลาส อเล็กซานเดอร์ (The Rt Hon Douglas Alexander) รัฐมนตรีการค้าของสหราชอาณาจักร

'พาณิชย์'จ่อใช้ยาแรงสกัดกั้นการนำเข้าขยะ

กระทรวงพาณิชย์โดยกรมการค้าต่างประเทศ เตรียมยกระดับมาตรการสกัดกั้นการนำเข้าขยะ หากยังพบว่ามีการสำแดงสินค้าว่าเป็นเศษกระดาษที่คัดแยกประเภทแล้วนำเข้ามาเพื่อรีไซเคิล แต่ข้อเท็จจริงกลับพบว่าสินค้ามีขยะเจือปนอยู่จำนวนมาก ซึ่งเป็นของเสียอันตรายที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพของประชาชน และก่อให้เกิดมลพิษอย่างร้ายแรงต่อสิ่งแวดล้อม

“พิชัย” แถลง 10 นโยบายพาณิชย์ เร่งเครื่องฟื้นฟูเศรษฐกิจไทย ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ขยายโอกาส

วันที่ 15 กันยายน 2567 เวลา 10.30 น. นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ แถลงทิศทางและนโยบายสำคัญของกระทรวงพาณิชย์ โดยมีนายนภินทร ศรีสรรพางค์