"ภูมิใจไทย" ปล่อยคลิปEP.1 "เวิร์กชอป บ้านเกิดเมืองนอน : สู่การพัฒนาท้องถิ่นที่ยั่งยืน” ลงโซเชียลพรรค ยกเลิกเพดานการดำรงตำแหน่งของผู้บริหารท้องถิ่น 2 สมัย

พรรคภูมิใจไทย ได้ปล่อยคลิปEP.1 "เวิร์กชอป บ้านเกิดเมืองนอน : สู่การพัฒนาท้องถิ่นที่ยั่งยืน" ลงในโซเชียลของพรรค ในคลิปได้กล่าวถึงการให้ประชาชนมีทางเลือกผู้บริหารท้องถิ่นมีอายุ 25 ปีขึ้นไป เรื่องภาษีบ้านเกิดเมืองนอน ประชาชนเลือกได้จะให้ภาษีไปใช้พัฒนาท้องถิ่นใดๆ
.
นางสาวซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้กล่าวถึง พ.ร.บ.บ้านเกิดเมืองนอน ว่า กลไกลสำคัญของการพัฒนาคือเงินงบประมาณ และท้องถิ่นนั้นไม่สามารถเลือกโครงการต่างๆ ซึ่งมีความสำคัญกับพี่น้องประชาชนจริงๆ ได้ เพราะสุดท้ายแล้วต้องอยู่ที่ส่วนกลางเป็นคนเลือก เป็นคนตัด แต่ท้องถิ่นสามารถเลือกได้ถ้าเรามี พ.ร.บ.บ้านเกิดเมืองนอน เกิดขึ้น


.
ด้านนายไชยชนก ชิดชอบ สส.บุรีรัมย์ ในฐานะเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย ได้เปิดรับฟังความเห็นจากหลายฝ่ายในการทำกฎหมายนี้ กล่าวว่า ในความคิดกรรมการบริหารชุดใหม่ เรามีความตั้งใจที่จะให้มีวิธีการทำงานของทางพรรคภูมิใจไทยมีส่วนร่วมกับพี่น้องประชาชนมากขึ้น อยากให้ทุกคนเข้ามามีส่วนร่วมในการตัดสินใจ ทิศทางและการขับเคลื่อนของพรรคภูมิใจไทยในหลายๆ มิติ จึงทำให้เกิดการทำเวิร์กชอป ความเจริญต้องมาจากการพัฒนา การพัฒนาก็ต้องใช้งบประมาณ และงบประมาณอย่างเดียวคงจะไม่ได้ ต้องมี 1.งบประมาณที่เพียงพอ 2.งบประมาณไม่มีการผูกมัด 3.มีผู้บริหารท้องถิ่นที่มีศักยภาพ มีความสามารถ มีวิสัยทัศน์ และมีจิตสำนึกที่จะทำเพื่อประโยชน์ส่วนรวม จะนำไปสู่การพัฒนา และความเจริญได้


.
นางสาวพิมพฤดา ตันจรารักษ์ สส.พระนครศรีอยุธยา ในฐานะรองเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย ได้อธิบายถึงเวิร์กชอปกระจายอำนาจว่า เราไม่ควรให้ปัญหาเพดานการดำรงตำแหน่ง มาเป็นอุปสรรคหรือเป็นสิ่งขัดขวางที่ท้องถิ่นจะทำโครงการขนาดใหญ่หรือโครงการระยะยาว ดังนั้นวันนี้พรรคภูมิใจไทย ภูมิใจที่จะนำเสนอให้ยกเลิกเพดานการดำรงตำแหน่ง 2 สมัย ซึ่งกฎหมายไม่ควรเป็นสิ่งที่ปิดกั้น และไม่ควรกำหนดว่า ผู้บริหารชุดนี้จะได้อยู่ต่อไปหรือไม่ แต่ประชาชนผู้มีอำนาจสูงสุด ควรเป็นคนกำหนดว่าผู้บริหารชุดนี้ควรได้ไปต่อหรือไม่ ตามกฎหมายการจัดตั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้กำหนดว่า ผู้ที่จะมาสมัครเป็นผู้บริหารท้องถิ่นต้องมีอายุ 35 ปีขึ้นไป เราอยากจะเปิดโอกาสให้บุคลที่มีอายุ 25 ปีขึ้นไป มาเป็นหนึ่งในตัวเลือก ให้กับประชาชนเพื่อเพิ่มความหลากหลายมากขึ้น จะเห็นว่าอายุไม่ใช่สิ่งพิสูจน์ ไม่ใช่ข้อจำกัด ไม่ใช่ปัจจัย แต่ความสามารถต่างหากคือ สิ่งที่พิสูจน์ความสำเร็จ
.
ด้านนางสาวผกามาศ เจริญพันธุ์ สส.สุรินทร์ รองโฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ข้อจำกัดของเงินที่ภาครัฐ เรารู้กันอยู่ว่าเงินไม่เพียงพอ งบถูกสอดไส้ เพราะ ตามพ.ร.บ.กระจายอำนาจ พ.ศ.2548 รัฐบาลมีหน้าที่มอบเงินจัดเก็บ 30 เปอร์เซนต์ให้แก่ อปท.ซึ่งเงินส่วนนี้ควรจะเป็นเงินที่สามารถบริหารจัดการตามโครงการที่อยากจะทำ แต่กลายเป็นว่างบประมาณนี้ถูกสอดไส้ไปเป็นเงินสวัสดิการ เงินคนพิการ เงินผู้สูงวัย เงินผู้ป่วยเอชไอวี เป็นต้น
.
ขณะที่ นายชลัฐ รัชกิจประการ สส.แบบบัญชีรายชื่อ และกรรมการบริหารพรรค ได้กล่าวถึงพ.ร.บ.บ้านเกิดเมืองนอน ที่นำเอาภาษีมาช่วยพัฒนาท้องถิ่นตนเอง ว่า รายได้บุคคลธรรมดา แน่นอนว่าตัวนี้มาจากแรงกาย แรงใจความเหนื่อยยากของตัวเอง ที่ต้องแยกจากครอบครัวเข้าไปทำงานในเมืองใหญ่ เพื่อที่จะได้มีรายได้มากขึ้น และส่งเงินกลับมาให้ครอบครัว และมั่นใจว่าทุกคนจะเห็นด้วยว่า ควรจะเป็นอำนาจของประชาชนผู้เสียภาษี ขอแค่ 30 เปอร์เซนต์ ของภาษีนิติบุคคลคือ 195,000 ล้านบาทไปกระจายสู่ท้องถิ่น ให้อำนาจผู้เสียภาษีสามารถกรอกได้ว่า อยากเสียภาษีที่ไหน จำนวนเท่าไหร่
.
นายไชยชนก ได้กล่าวปิดท้ายว่า เราหวังว่าจะเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ที่พี่น้องประชาชนสามารถตัดสินใจในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณของประเทศไม่มากก็น้อย เพื่อนำไปสู่การขับเคลื่อนพัฒนาท้องถิ่นของผู้บริหารทุกท่าน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ภท.' ลั่นเห็นด้วยแก้ รธน.แต่ต้องอยู่บนพื้นฐานความถูกต้องชอบธรรม!

'ภูมิใจไทย' ยันเห็นด้วย 'แก้ รธน.' แต่ต้องอยู่บนพื้นฐานความถูกต้อง-ชอบธรรม-ไม่สร้างปัญหาในอนาคต บอก ไร้ปัญหาพรรคร่วม เหตุเป็นความเห็นของแต่ละพรรค

ถกแก้รัฐธรรมนูญเริ่มแล้ว! ไปไม่ถึงไหนขอพักการประชุม

ประชุมร่วมรัฐสภาถกวาระแก้ รธน.เริ่มแล้ว 'ไชยชนก' รีบแจ้งประธาน 'ภท.' ขอไม่ร่วมพิจารณา ด้าน 'หมอเปรมศักดิ์' เสนอญัตติด่วนขอสมาชิกโหวตส่งศาล รธน.ตีความอำนาจหน้าที่

ระทึก! ศึกแก้รัฐธรรมนูญ ได้ไปต่อหรือจอดป้ายแค่วาระแรก?

เส้นทางแก้รัฐธรรมนูญเพื่อเปิดทางสู่การร่างฉบับใหม่ อาจจอดป้ายตั้งแต่วาระแรก เมื่อแรงเสียดทานจากหลายฝ่ายเริ่มปะทุหนัก

'ภูมิธรรม' บอกภูมิใจไทยตัดสินใจแล้วก็ต้องรับผิดชอบ หลังประกาศไม่ร่วมถกแก้รธน.

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีที่พรรคภูมิใจไทยระบุว่าจะเข้าร่วมประชุมสภาผู้แทนราษฎรแต่ไม่ร่วมโหวตแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยอ้างว่าสุ่มเสี่ยงต่อการผิดกฎหมายเนื่องจากยังไม่มีการทำประชามตินั้น