"ทุกคนหายใจอากาศเดียวกัน" หยุดเผา..หยุด PM2.5

เมื่อเข้าสู่ช่วงต้นปี หลายพื้นที่ของประเทศไทยต้องเผชิญกับฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งในปี 2566 ติดอันดับเมืองที่มีคุณภาพอากาศแย่ที่สุดในโลก สาเหตุหลักของปัญหานี้มาจากไฟป่า การเผาในที่โล่งแจ้ง และฝุ่นควันข้ามพรมแดนจากประเทศเพื่อนบ้าน ด้วยสถานการณ์ที่ทวีความรุนแรงขึ้น ภาครัฐจึงตั้งเป้าลดการเผาในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ ป่าสงวน และพื้นที่เกษตรกรรมลง 50% ภายในปี 2567

ในวิกฤตที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนโดยตรง สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในการผลักดันมาตรการ "หยุดเผา หยุด PM2.5" ผ่านการทำงานร่วมกับภาครัฐ ภาคเอกชน และเครือข่ายภาคประชาสังคม ด้วยแนวทางที่อาศัยข้อมูลเชิงลึกเพื่อสร้างแนวทางแก้ไขปัญหาที่ยั่งยืน

ดร.นพ.ไพโรจน์ เสาน่วม รองผู้จัดการ สสส. เปิดเผยในงาน PM2.5 Talk Forum ว่า ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ในประเทศไทยเป็นวิกฤตที่ต่อเนื่องมากว่า 15 ปี และยังมีแนวโน้มรุนแรงขึ้น โดยส่งผลกระทบโดยตรงต่อสุขภาพ ทำให้ประชาชนเสี่ยงต่อโรคระบบทางเดินหายใจ หัวใจและหลอดเลือด รวมถึงมะเร็งปอด โดยเฉพาะในภาคเหนือที่ค่าฝุ่นอยู่ในระดับอันตรายต่อสุขภาพมากกว่าครึ่งปี

จากรายงานสถานการณ์ของ สสส. พบว่า การเผาไร่นาและข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เป็นสาเหตุสำคัญของฝุ่นพิษ โดยในปี 2567 มีการเผาในพื้นที่เกษตรสูงถึง 11 ล้านไร่ จากพื้นที่เผาทั้งหมด 19 ล้านไร่ แม้ว่าพื้นที่ไฟป่าจะลดลงจาก 7 ล้านไร่ เหลือ 3.2 ล้านไร่ แต่การเผาพืชผลทางการเกษตรกลับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

สสส. กับแนวทางแก้ปัญหามลพิษทางอากาศ

เพื่อรับมือกับปัญหานี้ สสส. ได้ดำเนินการในหลายมิติผ่านแนวทาง "4 พลัง" ได้แก่ นโยบาย ปัญญา สังคม และการสื่อสาร รวมถึงการสนับสนุนให้เกิด พระราชบัญญัติอากาศสะอาด ซึ่งเป็นกฎหมายสำคัญในการบริหารจัดการมลพิษทางอากาศแบบยั่งยืน

  1. 1. ขับเคลื่อนนโยบายเพื่ออากาศสะอาด สสส. มีบทบาทในการผลักดัน ร่าง พ.ร.บ.บริหารจัดการเพื่ออากาศสะอาด ซึ่งจะเป็นกฎหมายสำคัญในการควบคุมแหล่งกำเนิดมลพิษ และกำหนดมาตรการป้องกันปัญหาฝุ่น PM2.5 ในระยะยาว โดยให้ความสำคัญกับการลดการเผาในภาคเกษตรกรรม และควบคุมการปล่อยมลพิษจากอุตสาหกรรมและยานพาหนะ
  2. 2. ใช้ข้อมูลขับเคลื่อนสังคมเพื่อแก้ปัญหา สสส. ร่วมกับ Rocket Media Lab และภาคีเครือข่าย ขับเคลื่อนสังคมด้วยข้อมูล (Data-Driven Society) เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 และนำเสนอข้อเท็จจริงที่สามารถขยายผลเป็นแนวทางแก้ไขปัญหา โดยรายงาน "จากไฟป่า สู่ไฟเกษตร" ได้นำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับจุดเผาไหม้ ไฟป่า ฝุ่นควันข้ามแดน และผลกระทบต่อสุขภาพในช่วงปี 2566-2567
  3. 3. รณรงค์สร้างความตระหนักรู้และเปลี่ยนพฤติกรรม สสส. สนับสนุนให้เกิดการลดการเผาในภาคเกษตร โดยส่งเสริมแนวทาง "เกษตรปลอดการเผา" (Zero Burn Agriculture) เช่น การไถกลบตอซังแทนการเผา หรือการนำวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรไปใช้ประโยชน์ เช่น ผลิตเป็นปุ๋ยหมักหรือเชื้อเพลิงชีวมวล

นอกจากนี้ยังมีการจัดทำ "PM2.5 Forum" เพื่อเปิดพื้นที่แลกเปลี่ยนองค์ความรู้และแนวทางแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ พร้อมทั้งให้ความรู้ประชาชนเกี่ยวกับอันตรายของฝุ่น PM2.5 ผ่านสื่อต่าง ๆ

ความร่วมมือข้ามพรมแดน: ควบคุมมลพิษข้ามแดน

อีกหนึ่งประเด็นสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อค่าฝุ่น PM2.5 คือ ฝุ่นควันข้ามแดนจากประเทศเพื่อนบ้าน โดยข้อมูลจาก GISTDA พบว่า เมียนมา ลาว และกัมพูชา มีจุดเผาไหม้สูงที่สุด ส่งผลให้ฝุ่นควันถูกพัดเข้ามายังประเทศไทย นอกจากนี้ ปัญหานี้ยังเชื่อมโยงกับการนำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่กระตุ้นให้เกิดการเผาในประเทศเพื่อนบ้าน

สสส. ได้ผลักดันให้มีการเจรจาความร่วมมือระหว่างประเทศ เพื่อจัดทำ มาตรการลดจุดเผาไหม้ในประเทศเพื่อนบ้าน รวมถึงสนับสนุนแนวทางการคุมเข้มการนำเข้าสินค้าเกษตรที่เกี่ยวข้องกับการเผา

นายนครินทร์ ภระมรทัต ผอ.สำนักสนับสนุนการควบคุมปัจจัยเสี่ยงทางสุขภาพ (สำนัก 2) สสส. เปิดเผยว่า ขณะนี้ ประชาชนป่วยจากมลพิษทางอากาศเพิ่มขึ้นถึง 14% โดยเฉพาะในจังหวัดที่มีค่าฝุ่นเกินมาตรฐานตลอดทั้งปี เช่น เชียงใหม่ แพร่ ลำปาง และแม่ฮ่องสอน

ด้วยเหตุนี้ สสส. จึงเน้นย้ำว่า การแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 ต้องเป็นความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ไม่ใช่แค่ภาครัฐหรือภาคเอกชนเท่านั้น แต่ประชาชนเองก็ต้องมีบทบาทในการลดการเผาและสนับสนุนนโยบายอากาศสะอาด

“เราหายใจอากาศเดียวกัน ดังนั้น ทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกัน ไม่เช่นนั้น PM2.5 จะกลายเป็นภัยเงียบที่คุกคามสุขภาพของคนไทยต่อไป”

นางสาวศิวพร  รังสิยานนท์ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านการจัดการคุณภาพอากาศและเสียง กรมควบคุมมลพิษ เปิดเผยว่าปัญหามลพิษเป็นปัญหาของโลก ไม่ใช่ปัญหาของประเทศไทยเท่านั้น ดังนั้นการทำงานแก้ไขปัญหาต้องร่วมมือกันทำงานเป็นทีม แหล่งกำเนิดมลพิษทางอากาศ จากปัญหาจราจร โรงงานอุตสาหกรรม การเผาปฐมภูมิ ทุติยภูมิ เป็นสิ่งที่่ต้องควบคุม เราจะอยู่แต่ในบ้านไม่ต้องเจอฝุ่นก็ไม่ได้ เราก็ต้องเจอกับพระพิรุณพระพาย เราต้องรู้สถานการณ์ต่อไปในวันข้างหน้า ต.ค.-พ.ย.เป็นช่วงฤดูแล้ง ค่าฝุ่นสูงขึ้น ปัจจัยหลักสืบเนื่องมาจากการเผา การร่วมมือกันทำงานทุกภาคส่วนจึงสำคัญอย่างยิ่ง Aerosol Optical Depth (AOD) การใช้ภาพถ่ายดาวเทียมละอองลอย  เราทุกคนมีส่วนร่วมทำให้เกิดฝุ่น และจะต้องมีส่วนสำคัญในการแก้ไขปัญหาฝุ่นด้วย การมีแผนปฏิบัติการ เป็นการป้องกันไว้ก่อน เพราะทุกคนมีสิทธิที่จะหายใจเอาอากาศสะอาด ด้วยการกำหนดแผนงาน 3ปี 5ปี เพื่อทำให้ค่าฝุ่นอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ลดการเผาป่าลงครึ่งหนึ่ง ขณะนี้ี้มีการลงนาม10ประเทศ ร่วมกันป้องกันมลพิษหมอกควันข้ามแดน  .

PM2.5 ภัยคุกคามที่ต้องจัดการอย่างเป็นระบบ

ดร.วีระศักดิ์ โควสุรัตน์ ประธานสภาลมหายใจกรุงเทพ เปิดเผยว่า ในช่วงต้นปี กรุงเทพฯ และหลายพื้นที่ของไทยเผชิญปัญหามลพิษทางอากาศจาก PM2.5 อย่างหนัก เนื่องจากการเผาซังข้าวและอ้อยที่เพิ่มขึ้นในภาคการเกษตร ประกอบกับทิศทางลมที่พัดพาฝุ่นควันจากประเทศเพื่อนบ้านเข้าสู่ไทย

ทิศทางลมกับการกระจายฝุ่น ตั้งแต่ลมหนาวจาก สปป.ลาว และการเผาอ้อย-ข้าวในภาคอีสาน ส่งผลให้ฝุ่นแพร่กระจายเข้าสู่ภาคกลาง พื้นที่อย่างเขาใหญ่ แม้ไม่มีการเผาโดยตรง แต่ได้รับผลกระทบจากการเผาในลพบุรี ฉะเชิงเทรา และสระแก้ว ลมตะเภาในช่วงเปลี่ยนฤดู ส่งฝุ่นจากป่าตะวันตก (ราชบุรี ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี) สู่ภาคกลางและภาคเหนือ "เราต้องใช้ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ แทนการโทษกันไปมา" ดร.วีระศักดิ์กล่าว พร้อมย้ำว่า การเผาในภาคเกษตรกรรมยังคงเป็นปัญหาหลัก ทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกันจัดการไฟป่าและควบคุมการเผาอย่างจริงจัง

ปัญหาฝุ่น PM2.5 ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป การหยุดเผาอาจไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ถ้าทุกฝ่ายร่วมมือกัน เราก็สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืน และทำให้ทุกคนได้สูดอากาศที่สะอาดขึ้นอีกครั้ง

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

“น้ำท่วมหาดใหญ่” สสส. ไม่ทอดทิ้ง! ผนึกกำลังภาคีเครือข่ายฯ เตรียมเปิดโมเดล 3 เฟส ช่วยทันที-ฟื้นบ้าน-สร้างภูมิคุ้มกันภัยพิบัติ

นพ.พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่อำเภอหาดใหญ่

สสส.-สถาบันยุวทัศน์ ฯ ผนึกเทศบาลนครเกาะสมุย เดินหน้า “นักเรียนปลอดบุหรี่-บุหรี่ไฟฟ้า” ผ่านสถานศึกษา 4 แห่ง

นายรามเนตร ใจกว้าง นายกเทศมนตรีนครเกาะสมุย อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า เทศบาลนครเกาะสมุย มียุทธศาสตร์การดำเนินงานเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตคนในพื้นที่

เด็กไทยเสี่ยงบนโลกออนไลน์ ถึงเวลามีสติรู้เท่าทันยุค AI

ทุกธุรกิจบนโลกใบนี้ล้วนเริ่มจาก “ความกลัว” ของมนุษย์-กลัวมืดจึงมีหลอดไฟ กลัวมองไม่เห็นจึงมีแว่นตา และในยุคที่โลกย้ายมาอยู่ในจอ ความกลัวรูปแบบใหม่ก็ผุดขึ้นเป็นรายวัน ตั

ไทยเข้าสู่สังคมสูงอายุสมบูรณ์เต็มรูปแบบ!!! สสส. สานพลัง Rocket Media Lab เปิดข้อมูลสถานการณ์ผู้สูงอายุ เตือน 3 ปัจจัยเสี่ยง สุขภาพ-เศรษฐกิจ-ที่อยู่อาศัย

ไทยเข้าสู่สังคมสูงอายุสมบูรณ์เต็มรูปแบบ!!! สสส. สานพลัง Rocket Media Lab เปิดข้อมูลสถานการณ์ผู้สูงอายุ เตือน 3 ปัจจัยเสี่ยง สุขภาพ-เศรษฐกิจ-ที่อยู่อาศัย ป่วย NCDs สูง ขาดเงินออม แถม 90% บ้านไม่เอื้อต่อการใช้ชีวิต กดดันให้สังคมไทยสู่ภาวะเปราะบาง แนะป้องกันปัญหาสุขภาพระยะยาว พร้อมส่งต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผลักดันสู่วัยสูงอายุด้วยความภาคภูมิใจ

สสส. เฟ้นสุดยอดนวัตกรรม! 'พื้นรองเท้าอัจฉริยะ เพิ่มกิจกรรมทางกาย-สติ๊กเกอร์ลดบุหรี่-ระบบเฝ้าระวังการขับขี่อัจฉริยะ AI-IoT' คว้ารางวัลชนะเลิศ 'Prime Minister’s Award for Health Promotion Innovation 2025'

สสส. เฟ้นสุดยอดนวัตกรรม! “พื้นรองเท้าอัจฉริยะ เพิ่มกิจกรรมทางกาย-สติ๊กเกอร์ลดบุหรี่-ระบบเฝ้าระวังการขับขี่อัจฉริยะ AI-IoT” คว้ารางวัลชนะเลิศ “Prime Minister’s Award for Health Promotion Innovation 2025” เติมเต็ม “จักรวาลสุขภาวะ” เยาวชน-สตาร์ทอัพ-ภาคีเครือข่าย-ประชาชนทั่วไป 178 ทีมทั่วประเทศ ส่งไอเดียประชันนวัตกรรมลดปัจจัยเสี่ยงสุขภาพ-ลดป่วย NCDs “รองนายกฯ โสภณ” ปลื้มผลงาน 7 ปี สสส. ปั้นนวัตกรไทย 1,660 ทีม พัฒนานวัตกรรมสุขภาพตอบโจทย์สังคม สร้างสภาพแวดล้อมเอื้อคนไทยมีสุขภาวะดีอย่างยั่งยืน

เยาวชนพิการ กทม. เรียนดี มีงานทำ มหกรรมแนะแนวการศึกษาและอาชีพสำหรับคนพิการแห่งเดียวในประเทศไทย

สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) มูลนิธินวัตกรรมทางสังคม มูลนิธิด้วยกันเพื่อคนพิการและสังคม มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว.) เปิดพื้นที่ให้เยาวชนพิการเข้าถึงข้อมูลการศึกษาต่อ ค้นพบศักยภาพ พร้อมสร้างโอกาสการมีงานทำที่มั่นคงในอนาคต ผ่านงาน เยาวชนพิการ กทม. เรียนดี มีงานทำ