‘รมว.นฤมล’ย้ำ เดินหน้าแก้หนี้ครู ผลักดัน พ.ร.บ.การศึกษาฯ ปรับระบบวิทยฐานะ เพิ่มตำแหน่ง พร้อมขอให้เน้นวิชาประวัติศาสตร์ มอง เด็กควรเข้าใจหน้าที่พลเมืองไทย

เมื่อวันที่ 25 ก.ย. ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานเปิดการประชุมผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษาทั่วประเทศ ครั้งที่ 1/2568 โดยมี ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน,ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา 245 เขต และบุคลากรที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมกว่า 400 คน เข้าร่วม ณ โรงแรมรามาการ์เด้นส์ กรุงเทพมหานคร 

ศ.ดร.นฤมล กล่าวว่า ปัจจุบันคณะรัฐมนตรีกำลังเตรียมแถลงนโยบายต่อรัฐสภาในวันที่ 29-30 ก.ย.นี้ ซึ่งเมื่อการแถลงนโยบายเสร็จสิ้นแล้ว รัฐมนตรีของแต่ละกระทรวงจะสามารถเริ่มลงนามในเอกสารทางราชการและออกคำสั่งในเชิงปฏิบัติได้เต็มรูปแบบ ดังนั้นในการประชุมครั้งนี้จึงยังไม่ได้ถือเป็นการมอบนโยบายอย่างเป็นทางการ แต่เป็นการพูดคุยเพื่อทำความเข้าใจร่วมกันและเตรียมการล่วงหน้า โดยประเด็นเร่งด่วนที่กระทรวงศึกษาธิการจะดำเนินการทันที คือ การลดภาระค่าครองชีพและการแก้ไขปัญหาหนี้สินครู ซึ่งตนได้หารือกับนายกรัฐมนตรี และจะถูกรวมไว้ในนโยบายรัฐบาลกลุ่ม หนี้สินภาคประชาชน

ศ.ดร.นฤมล กล่าวต่อถึงการผลักดันร่างพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติว่า ต้องการให้สำเร็จภายในรัฐบาลชุดนี้ เนื่องจากในอดีต พ.ร.บ.การศึกษาเคยถูกเลื่อนพิจารณาออกไปหลายครั้งเมื่อเข้าสู่การประชุมสภา จนถูกเรียกว่าเป็นอาถรรพ์ แต่ครั้งนี้รัฐบาลและกระทรวงศึกษามุ่งมั่นที่จะทำให้ร่างกฎหมายการศึกษาได้รับการเห็นชอบจากรัฐสภาให้ได้ โดยได้หารือกับกรรมาธิการการศึกษาทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านซึ่งต่างมีท่าทีพร้อมสนับสนุน หากมีการปรับปรุงแก้ไขรายละเอียดให้เหมาะสม

“หาก พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ ผ่านความเห็นชอบ จะเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญของการปฏิรูประบบการศึกษาไทย ทั้งด้านโครงสร้างหลักสูตร การประเมินคุณภาพผู้เรียน การกระจายอำนาจการบริหารจัดการ และการกำหนดบทบาทหน่วยงานด้านการศึกษาให้ชัดเจนยิ่งขึ้น”รมว.ศึกษาธิการ กล่าว

ศ.ดร.นฤมล ยังกล่าวต่อถึงการปรับปรุงระบบวิทยฐานะว่า ที่ผ่านมาเกณฑ์ประเมินมักไม่สอดคล้องกับภารกิจของครู ทำให้ครูจำนวนไม่น้อยไม่สามารถก้าวหน้าทางวิชาชีพได้อย่างเป็นธรรม แนวทางใหม่จะมีการปรับโครงสร้างผู้ประเมิน โดยกำหนดให้ผู้ประเมินต้องมีประสบการณ์ตรงในสายงาน เช่น ครูประถมต้องได้รับการประเมินจากผู้มีประสบการณ์ด้านประถมศึกษา ขณะที่ครูมัธยมต้องถูกประเมินโดยผู้ที่เข้าใจบริบทมัธยมศึกษา เพื่อให้การตัดสินเป็นธรรมมากขึ้น พร้อมทั้งเปิดทางเลือกให้ครูใช้ผลงานการสอน หรือผลงานเชิงประจักษ์ แทนผลงานวิจัยเพียงอย่างเดียว คล้ายแนวทาง “teaching track” และ “research track” ของต่างประเทศ รวมทั้งกำหนดให้ จำนวนครูที่สามารถเลื่อนวิทยฐานะได้ เป็นหนึ่งใน KPI ของผู้อำนวยการเขตพื้นที่ฯ เพื่อสร้างแรงจูงใจให้ผู้บริหารสนับสนุนครูอย่างจริงจัง นอกจากนี้ยังต้องจัดทำหลักเกณฑ์การประเมินที่ชัดเจน โปร่งใส และเปิดให้ตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน

นอกจากนี้ จะมีการเพิ่มตำแหน่งสายสนับสนุน จำนวน 1,706 อัตรา เพื่อบรรเทาภาระงานที่ไม่ใช่งานสอน เช่น งานธุรการ งานพัสดุ งานซ่อมบำรุง ฯลฯ โดยคาดว่าจะสามารถจัดสรรให้เขตพื้นที่การศึกษาต่าง ๆ ได้ภายในสัปดาห์ถัดไปหลังการแถลงนโยบายรัฐบาล ทั้งนี้เพื่อให้ครูสามารถทุ่มเทเวลาและพลังไปกับ การสอนและดูแลเด็กได้อย่างเต็มศักยภาพ

รมว.ศึกษาธิการ กล่าวย้ำว่า การศึกษาไม่ได้จำกัดอยู่เพียงวิชาทางสาย STEM อย่าง วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรม และคณิตศาสตร์ เท่านั้น แต่ยังต้องส่งเสริมความถนัดด้านอื่นของเด็ก ไม่ว่าจะเป็นศิลปะ ดนตรี กีฬา ภาษา หรือทักษะทางสังคม รวมถึง วิชาประวัติศาสตร์และหน้าที่พลเมือง ต้องได้รับความสำคัญเพิ่มขึ้น ทั้งในด้านการจัดการเรียนการสอน และการบรรจุเข้าสู่ระบบการสอบ เพื่อสร้างความเข้าใจในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เพื่อให้เด็กเข้าใจระบบการปกครอง และบทบาทของพระมหากษัตริย์ว่า ทรงอยู่เหนือการเมืองอย่างไร เพื่อจะเป็นการป้องกันไม่ให้เด็กได้รับข้อมูลที่ผิด ๆ

“อาจารย์ขอฝากให้ผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษาและบุคลากรในพื้นที่ ให้ร่วมกันสนันสนุนให้ครูเลื่อนวิทยฐานะเพื่อมาช่วยกันพัฒนาการศึกษาของไทย และขอให้สนับสนุนการสอนวิชาประวัติศาสตร์และหน้าที่พลเมือง เพื่อสร้างความเข้าใจต่อระบอบประชาธิปไตย บทบาทพลเมือง และสถาบันหลักของชาติ” ศ.ดร.นฤมล กล่าว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'นฤมล' ลงพื้นที่ จ.พัทลุง ขับเคลื่อน 'เรียนดี มีคุณธรรม' แก้หนี้ครู 1 แสนล้าน

รมว.ศึกษาธิการ ลงพื้นที่จังหวัดพัทลุง ตรวจเยี่ยมการศึกษาในพื้นที่ โดยได้เดินทางไปยังวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีพัทลุงตรวจเยี่ยมการจัดการศึกษาตามนโยบาย เรียนดี มีคุณธรรม

‘รมว.นฤมล’ ลงพื้นที่ จ.นราธิวาส มอบทุนเด็กชายแดนใต้ รับฟังปัญหาครู พร้อมดันการศึกษา Learn to Earn สร้างรายได้ระหว่างเรียน

ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ลงพื้นที่จังหวัดนราธิวาส ตรวจเยี่ยมการจัดการศึกษาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้

“รมว.นฤมล”เปิดปฐมนิเทศทุน ODOS รุ่น 3 หนุนเยาวชน 1,200 คน สู่โอกาสเรียนต่อ ปั้น ‘ช้างเผือก’ไทยสู่เวทีโลก ย้ำ การศึกษาเป็นกุญแจสร้างคน พัฒนาชาติ

เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2568 เวลา 13.00 น. ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) เป็นประธานการปฐมนิเทศออนไลน์โครงการทุนการศึกษาเพื่อขยายโอกาสและพัฒนาประเทศ (Outstanding Development Opportunity Scholarship: ODOS)

“รมว.นฤมล” นั่งหัวโต๊ะบอร์ดคุรุสภา เคาะเกณฑ์ใหม่สอบตั๋วครู ยกเลิกสอบวิชาเอก เหลือเฉพาะวิชาครู มีผล ม.ค. 69 ลดภาระผู้สอบ เชื่อ มหาลัยคุมคุณภาพได้

เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2568 เวลา 09.30 น. ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการคุรุสภา ครั้งที่ 11/2568 โดยมีคณะกรรมการ และผู้ช่วยศาสตราจารย์อมลวรรณ วีระธรรมโม

“รมว.นฤมล”นำ ศธ.ร่วมลงนาม MOU พัฒนาคุณภาพชีวิตคนทุกช่วงวัยทั่วไทย ขับเคลื่อนโครงการสวัสดิการบ้านพักครูทั่วประเทศ เตรียมปรับปรุง 14,900 หลัง เฟสแรกเริ่มปีนี้

วันนี้ 29 ตุลาคม 2568 ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมด้วยนายองอาจ วงษ์ประยูร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ข้าราชการการเมือง และผู้บริหารกระทรวงศึกษาธิการ เข้าร่วมพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ในงาน “บูรณาการความร่วมมือเพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตคนทุกช่วงวัยทั่วไทย”

“รมว.นฤมล”น้อมนำพระราชดำรัส ร.10 เน้นวิชาประวัติศาสตร์ให้เด็กได้คิดวิเคราะห์ เผย 29 ต.ค.เซ็น MOU การเคหะ ซ่อมสร้างบ้านพักครู เตรียมปรับหลักเกณฑ์วิทยฐานะครูใหม่

เมื่อวันที่ 24 ต.ค.68 ที่โรงแรมเดอะ คาวาลิ คาซ่า รีสอร์ท จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ