แนวโน้มราคาทองไตรมาศสุดท้าย เมื่อเงินบาทยังแข็งค่า

เป็นที่จับตามองมาอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี 2025 สำหรับ แนวโน้มราคาทองทั้งในและต่างประเทศที่ขยับขึ้นอย่างต่อเนื่อง กระตุ้นการลงทุนจากผู้ที่กำลังมองหาสินทรัพย์ปลอดภัย (Safe Haven) ในช่วงที่เศรษฐกิจโลกเต็มไปด้วยความไม่แน่นอนไปได้ไม่น้อย

อย่างไรก็ตาม สำหรับนักลงทุนไทย สิ่งที่ต้องจับตามองไม่แพ้กันคือ ผลกระทบของค่าเงินบาทที่แข็งค่าอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจกลายเป็นตัวแปรสำคัญที่ “ชะลอแรงขึ้นของราคาทองในประเทศ” แม้ว่าราคาทองคำโลกจะปรับตัวสูงขึ้นก็ตาม

ภาพรวมตลาดทองคำในตลาดโลก 2025

เมื่อดูข้อมูลราคาของทองคำในตลอดปี 2025 เราจะเห็นได้ชัดว่าราคาทองคำมีการปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี สูงสุดที่ 4,200 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ในช่วงกลางเดือนตุลาคม 2025  และคาดว่าจะยังปรับตัวขึ้นเล็กน้อย เนื่องราคาที่สูงขึ้นมากจะไปต้านทานกับอุปสงค์โดยรวมของนักลงทุนรายใหญ่และกองทุน EFT นั่นเอง

ราคาทองคำที่พุ่งสูง เมื่อเทียบกับปี 2024

หากเราเจาะลึกที่ราคาทองคำในช่วงเดียวกันของปี 2024 จะพบว่า ราคาทองเฉลี่ยอยู่ราว 2,600–2,700 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เมื่อเปรียบเทียบกับราคาทองในปี 2025 กลับเห็นได้ชัดว่า ราคามีการปรับเพิ่มขึ้นกว่า 40–50% ซึ่งตัวเลขนี้สะท้อนถึงความกังวลของนักลงทุนต่อเศรษฐกิจโลกได้เป็นอย่างดี

สอดคล้องกับรายงานจากเว็บไซค์ Compareforexbrokers ที่ชี้ให้เห็นว่า ความต้องการทองคำของนักลงทุนรายใหญ่และกองทุน ETF ยังคงสูงต่อเนื่อง เพราะตลาดยังไม่มั่นใจว่าเศรษฐกิจโลกจะฟื้นตัวอย่างยั่งยืนหลังการลดดอกเบี้ยของสหรัฐฯ เมื่อเร็ว ๆ นี้

ราคาทองคำไทยจะเป็นอย่างไรในไตรมาสสุดท้าย ?

แม้ราคาทองคำโลกจะปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง แต่ด้วยปัจจัยอีกหลายด้าน รวมถึง ค่าเงินบาทที่ยังมีโกาสกลับมาแข็งค่าขึ้น ทำไตรมาศสุดท้ายของปีนี้มีโอกาศที่ราคาทองคำในไทยจะมีการปรับตัวขึ้นเพียงเล็กน้อยหรือทรงตัวเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม นี่เป็นเพียงการคาดการณ์เบื้องต้นเท่านั้น การเคลื่อนไหวของราคาทองคำในไทยอาจเกิดการเปลี่ยนแปลงได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อ Fed ประกาศลดดอกเบี้ยในจำนวนมาก หรือค่าเงินบาทอ่อนลง ซึ่งจะส่งผลให้เราได้เห็นการพุ่งขึ้นของราคาทองคำในไทยที่ชัดเจนขึ้นกว่าปัจจุบัน

ทำไมค่าเงินบาทจึงมีผลกระทบต่อราคาทองในไทย ?

ราคาทองคำในประเทศไทยจะอ้างอิงหลายปัจจัย แต่ปัจจัยหลักนั่นคือ ราคาทองคำโลก (Gold Spot) ซึ่งมีการซื้อขายเป็นดอลลาร์สหรัฐ ก่อนที่จะนำมาคำนวณเป็นเงินบาท ตามอัตราการเปลี่ยนแปลง ณ วันที่มีการซื้อขาย ทำให้การเปลี่ยนแปลงของค่าเงินบาทส่งผล ดังต่อไปนี้

• เงินบาทแข็งค่า หมายถึง เงิน 1 ดอลลาร์ แลกได้ เงินบาทน้อยลง

“เราจึงไม่จำเป็นต้องใช้เงินบาทที่สูงในการซื้อทองคำ หรือก็คือ เกิดแรงฉุดราคาทองคำโลก ส่งผลให้ราคาทองในไทยลดลง หรือ ขึ้นช้ากว่าราคาในระดับโลก”

• เงินบาทอ่อนค่า หมายถึง เงิน 1 ดอลลาร์ แลกได้ เงินบาทมากขึ้น

“เราจึงต้องใช้เงินบาทเพิ่มในการซื้อทอง ส่งผลให้ราคาทองในไทยเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาทองคำโลก”

ปัจจัยหนุนและกดดันราคาทองในไตรมาศสุดท้าย 2025

แม้ค่าเงินบาทจะมีผลโดยตรงต่อการขึ้นลงของราคาทองคำไทย แต่อย่าลืมว่ายังมีอีกหลายปัจจัยที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็น

นโยบายการเงินของธนาคารกลางแห่งสหรัฐ หรือ Fed

จากสภาพเศรษฐกิจปัจจุบันของสหรัฐอเมริกา ทำให้มีการคาดการณ์จากนักวิเคราะห์หลายแห่งว่า Fed มีโอกาสที่จะประกาศลดดอกเบี้ยต่อเนื่อง 0.25–0.50% ในปลายปี 2025 เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่กำลังซบเซา

หากเกิดขึ้นจริง ราคาทองคำโลกจะพุ่งสูงขึ้น แต่เราก็อาจต้องมาดูอีกทีว่า ณ ขณะนั้นค่าเงินบาทของเราจะไปในทิศทางไหน หากเงินบาทยังคงแข็งค่า ราคาทองคำในไทยก็คงไม่ปรับตัวขึ้นมากนัก

ราคาน้ำมันดิบโลก

ในกรณีที่ราคามันดิบมีการปรับลดลง จะส่งผลให้แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยบางรายการ รวมถึง ทองคำ ชะลอตัวลงตามไปด้วย เมื่ออุปสงค์ลดลงก็มีโอกาสที่เราจะได้เห็นราคาทองคำปรับลงในระยะสั้น ๆ

นโยบายการเงินจากธนาคารกลางไทย (ธปท.)

เป็นที่ทราบกันดีว่าราคาเงินบาทที่แข็งค่าไม่มีเป็นผลดีนักต่อความสามารถในการแข่งขันของภาคการส่งออกและการท่องเที่ยวในไทย ดังนั้น มีความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางของไทยจะเข้าแทรกแซงเพื่อปรับค่าเงินบาทเข้ามาอยู่ในจุดที่พอดี

หาก ธปท. เข้าซื้อดอลลาร์จริง อาจส่งผลให้ราคาทองคำในประเทศปรับลดลงได้

ผลกระทบจากเงินบาทที่นักลงทุนทองไทยควรระวัง

หากคุณสะสมทองคำไทยเพื่อการลงทุน ต่อไปนี้คือข้อควรระวังในช่วงท้ายของปีนี้

• ราคาทองในไทยมีโอกาสที่จะ “ขึ้นช้า” หรือ “ทรงตัว” แม้ราคาทองโลกจะทำจุดสูงสุดใหม่ หากค่าเงินบาทกลับมาแข็งค่าอีกรอบ
• นักลงทุนระยะสั้น อาจเผชิญปัญหาด้านราคาที่ขยับตัวน้อย โดยเฉพาะในช่วงที่เงินบาทแข็งแรงสุด
• ผู้ถือทองคำระยะยาวยังคงได้เปรียบ เนื่องจากทองคำยังเป็นสินทรัพย์ป้องกันเงินเฟ้อในระยะยาว และแนวโน้มโลกยังเป็นขาขึ้น
• ร้านทองและผู้ประกอบการอาจต้องปรับกลยุทธ์สต็อกทอง เพื่อบริหารความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน เพราะการแข็งค่าของเงินบาททำให้กำไรลดลงได้

คุณควรลงทุนอย่างไรในไตรมาสสุดท้ายของปี?

แม้จะไม่มีกฎตายตัวในการลงทุนกับทองคำ แต่นี่คือตัวอย่างที่น่าสนใจสำหรับสถานการณ์ในตอนนี้

1. แบ่งการลงทุนเป็นรอบ หรือที่เรียกว่า “DCA” เพื่อเฉลี่ยต้นทุน และลดความเสี่ยงจากความผันผวนของค่าเงิน
2. ติดตามข่าวสารทางการเงิน โดยเฉพาะการประกาศจาก FED อย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้คุณพลาดจังหวะการปรับตัวของราคาทองคำและค่าเงิน
3. หากคุณสะสมทองอยู่แล้ว สามารถถือต่อเนื่องได้ เพราะราคาทองคำยังมีแนวโน้มระยะยาวเป็นขาขึ้น ยิ่งในกรณีที่ Fed ลดดอกเบี้ยต่อเนื่อง

สรุป แนวโน้มราคาทองในโค้งสุดท้าย 2025

แม้ราคาทองคำในไทยจะค่อย ๆ ไต่ขึ้นและหยุดเคลื่อนไหวบ้างเป็นบางระยะ เนื่องจากเงินบาทของเรามีการแข็งค่าขึ้นในบางช่วง แต่ในความเป็นจริง ราคาทองคำโลกยังอยู่ในขาขึ้น เนื่องจากแรงซื้อของนักลงทุนและธนาคารกลางของหลายประเทศ

หากเรามองเฉพาะปัจจัยหลักข้างต้น เราจะเห็นได้ว่า ราคาทองในไทย อาจทรงตัวหรือขยับขึ้นเล็กน้อย หากราคาทองคำโลกปรับตัวขึ้นพร้อม ๆ กับเงินบาทที่แข็งตัวขึ้น แต่ในทางกลับกัน ราคาทองในไทยก็อาจพุ่งขึ้นแตะจุดสูงสุดใหม่ในช่วงท้ายปี หากราคาทองคำโลกปรับขึ้น และค่าเงินบาทของเราอ่อนค่าลง

คำเตือน

บทความนี้ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้เป็นคำแนะนำทางการเงิน คุณควรศึกษาข้อมูลการลงทุนด้วยตัวเอง หรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางการเงินที่ได้รับใบอนุญาตทุกครั้งก่อนการลงทุน