ไทยลุยซ้อมต่อ ประกาศทวงแชมป์อาเซียนพาราเกมส์ 2023 ที่กัมพูชา

ทัพนักกีฬาคนพิการไทยคว้ารองแชมป์ อาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 11 ที่เมืองสุราการ์ตา (โซโล) ประเทศอินโดนีเซีย ต้องกลับมาเตรียมความพร้อมเพื่อไปทวงแชมป์อาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 12 ที่ประเทศกัมพูชา ปี 2023  
 
มหกรรรมกีฬาคนพิการ อาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 11 ที่เมืองสุราการ์ตา (โซโล) ประเทศอินโดนีเซีย ระหว่างวันที่ 30 กรกฎาคม – 6 สิงหาคม 2565  การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) และกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ให้การสนับสนุนทัพนักกีฬาคนพิการไทย และเจ้าหน้าที่รวมทั้งสิ้น 479 คน ร่วมชิงชัย  สถานีโทรทัศน์เพื่อการท่องเที่ยวและกีฬา  T Sports 7 ถ่ายทอดสดตลอดการแข่งขัน ทุกแพลตฟอร์ม ทั้ง ทาง ช่อง T Sports 7 และ เฟซบุ๊ค แฟนเพจ T Sports 7 โดยทัพนักกีฬาไทย ทำได้ 116 เหรียญทอง  111 เหรียญเงิน 90 เหรียญทองแดง คว้าตำแหน่งรองเจ้าเหรียญทอง โดย อินโดนีเซียเจ้าภาพได้เจ้าเหรียญทองสมัยที่ 3 ทำได้ 171 เหรียญทอง 138 เหรียญเงิน 110 เหรียญทองแดง  
 
ทัพนักกีฬาไทย ได้เดินทางกลับถึงประเทศไทยแล้วเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม โดย พลตรีโอสถ ภาวิไล ประธานสหพันธ์กีฬาคนพิการแห่งอาเซียน และเลขาธิการคณะกรรมการพาราลิมปิกแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า นักกีฬาของทุกสมาคมฯ จะกลับมาเตรียมความพร้อมอีกครั้งเพื่อไปคว้าตำแหน่งเจ้าเหรียญทองอาเซียนพาราเกมส์ให้ได้อีกครั้ง ในการแข่งขันครั้งที่ 12 ที่ประเทศกัมพูชา ปี 2023 โดยประเทศไทยนั้นเป็นเจ้าเหรียญทองของการแข่งขันอาเซียนพาราเกมส์มากที่สุด 6 สมัย จากการแข่งขันทั้งหมด 10 ครั้ง (การแข่งขันครั้งที่ 10 ที่ฟิลิปปินส์ถูกยกเลิก)
 
“กีฬาอาเซียนพาราเกมส์ครั้งต่อไปที่กัมพูชา อาจจะมีการบรรจุกีฬาหมากรุกชิงชัยเหรียญทองมากถึง 30 เหรียญทอง เพราะเป็นกีฬาที่เจ้าภาพถนัด  ซึ่งอาจจะส่งผลต่อการลุ้นตำแหน่งเจ้าเหรียญทองของไทย ดังนั้น สหพันธ์กีฬาคนพิการอาเซียน และคณะกรรมการพาราลิมปิกแห่งประเทศไทย จะพยายามดำเนินการเรื่องนี้ให้ออกมาเหมาะสมที่สุด แต่สุดท้ายแล้ว เรายังมองว่าถ้านับการชิงชัยในชนิดกีฬาสากล ประเทศไทยมีศักยภาพมากพอที่จะทวงแชมป์กลับมาได้”
 
สำหรับการแข่งขันอาเซียนพาราเกมส์ ในยุคปัจจุบันนี้ พลตรีโอสถ กล่าวว่า แต่ละประเทศตอนนี้จะมีตำแหน่งที่เรียกว่า “ผู้ตรวจระดับความพิการ” ซึ่งถือเป็นด่านแรกของกีฬาคนพิการที่จะทำให้เกมการแข่งขันมีความเสมอภาค ไม่เอาเปรียบกัน เพราะการตรวจสอบที่แน่นอนในการจัดคลาสถือเป็นเรื่องสำคัญ  ที่จะทำให้การแข่งขันอยู่ในระดับสากล สามารถรับรองคลาสได้อย่างมีมาตรฐาน  
 
นอกจากนี้ ยังมีเรื่องของตำแหน่งผู้แทนฝ่ายเทคนิค (Technical Delegation) หรือ “ทีดี” ประจำภูมิภาค ซึ่งในการแข่งขันของอาเซียนที่ผ่านมาจะต้องเชิญ “ทีดี” จากชาติภูมิภาคอื่นมาร่วมดำเนินการ หากในอาเซียนมีเจ้าหน้าที่ของตัวเองก็จะช่วยในเรื่องของการลดค่าใช้จ่ายได้อย่างมาก จึงอยากให้สมาคมกีฬาคนพิการในประเทศไทยได้มีการเรียนรู้และพัฒนา ยกระดับมาตรฐานบุลคลากรไปสู่สากล  และประการสุดท้ายคือ อยากให้มีการจัดแข่งขันชิงแชมป์อาเซียนของกีฬาแต่ละชนิดให้มากขึ้น เพื่อที่จะช่วยในการควอลิฟายนักกีฬาที่จะได้ไปแข่งขันมหกรรมกีฬาพาราลิมปิกเกมส์ ต่อไป  
 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'บิ๊กเล็ก' เบรกด่วน! ยังไม่ส่งตัวเชลยศึกเขมร 'มทภ.2' คาดระเบิดใหม่

'บิ๊กเล็ก' สั่งเลื่อนส่งมอบตัวเชลยศึก พร้อมทำหนังสือประท้วง สั่งแม่ทัพภาคที่ 2 ตรวจสอบระเบิดใหม่หรือเก่า ส่อของใหม่ ฮึ่มหากพบเจตนา ต้องดำเนินการมากกว่านี้แน่

เขมรยังลอบกัด! ทหารไทยเหยียบกับระเบิด ขาขาดรายที่ 7

กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี เกิดเหตุกำลังพลเหยียบกับระเบิดบริเวณพื้นที่ห้วยตามาเรีย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ขณะปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนเส้นทาง

‘ไทย-เขมร’ตกลงทำกำแพง8กม.

เปิดหนังสือกระทรวงการต่างประเทศ ไทย-กัมพูชาเห็นพ้องสร้างรั้วชายแดนฝั่งจันทบุรี-ตราด ระยะทางกว่า 8 กม. หลักเขต 52-59 ด้าน "ทูตประศาสน์" เตรียมลงพื้นที่ งบก่อสร้างพร้อมแล้ว

เปิดเอกสาร 'ไทย-กัมพูชา' เห็นพ้อง สร้างรั้วชายแดนฝั่งจันทบุรี-ตราด กว่า 8 กม.

เปิดเอกสารไทย-กัมพูชา เห็นชอบสำรวจและสร้างรั้วชายแดนช่วงหลักเขตที่ 52–59 ฝั่งจันทบุรี-ตราด ระยะทางกว่า 8 กิโลเมตร หลังร่วมประชุมค

สีหศักดิ์ยอมรับ 12พฤศจิกายน ปล่อย‘18เชลย’

๐ “นายกฯ” ไม่ตอบปมไทยจ่อปล่อย 18 เชลยศึกกัมพูชา ขณะที่ “สีหศักดิ์” รับเตรียมปล่อย 12 พ.ย.นี้ ด้าน “บิ๊กเล็ก” เผยมีเงื่อนไขต้อง “ถอนอาวุธหนัก-เก็บกู้ทุ่นระเบิด” สำเร็จค่อยพิจารณา

​'บิ๊กเล็ก' แจงยิบ ปมปล่อยตัว 18 เชลยศึกเขมร ไม่ฟันธง 12 พ.ย.

​'บิ๊กเล็ก' แจงปล่อยตัวเชลยศึกเขมร 18 นาย ต้องบรรลุ 2 เงื่อนไข 'ถอนอาวุธหนัก-เก็บกู้ทุ่นระเบิด' อาจไม่ใช่ 12 พ.ย. เผยกัมพูชารับปากเร่งจบเฟสแรก ย้ำไม่แตะมาตรการเปิดด่านจนกว่าทุกอย่างเรียบร้อย