เมื่อวันพุธที่ 24 พฤษภาคม 2566 เวลา 10.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการกีฬาแห่งประเทศไทย(กกท.) นำคณะนักกีฬาพาราลิมปิกตัวแทนทีมชาติไทย และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าพบ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในโอกาสที่นักกีฬาพาราลิมปิกไทยจะเดินทางไปเข้าร่วมการแข่งขัน กีฬาอาเซียนพาราเกมส์ครั้งที่ 12 ระหว่างวันที่ 3-9 มิถุนายน 2566 ที่กรุงพนมเปญ ราชอาณาจักรกัมพูชา
โดยนายก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าฯ กกท. กล่าวว่า วัตถุประสงค์ของการแข่งขันกีฬาอาเซียนพาราลิมปิกเกมส์ เพื่อเชื่อมสัมพันธไมตรีและมิตรภาพของมวลมนุษยชาติในภูมิภาคอาเซียน แลกเปลี่ยนความรู้ วัฒนธรรม ประเพณี และแสดงความสามารถด้านกีฬาของภูมิภาค การแข่งขันกีฬาอาเซียน พาราลิมปิกในครั้งนี่มีประเทศสมาชิกส่งนักกีฬาเข้าร่วม 11 ประเทศ ครบทุกชาติในอาเซียน โดยประเทศไทยส่งเข้าร่วมทั้งสิ้น 13 ชนิดกีฬา รวมนักกีฬาและเจ้าหน้าที่เข้าร่วมการแข่งขัน 479 คน ประกอบด้วย นักกีฬา 304 คน ผู้ฝึกสอนและผู้ช่วยนักกีฬา 113 คน คณะกรรมการและเจ้าหน้าที่ 43 คน
จากนั้นพล.อ.ประวิตร ให้โอวาทว่า "ขอแสดงความยินดี และชื่นชมความสามารถของนักกีฬาทุกคนที่ได้รับการคัดเลือกให้เป็นตัวแทนนักกีฬาคนพิการในนามทีมชาติไทย ที่จะส่งไปร่วมการแข่งขันกีฬาอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 12 ที่กรุงพนมเปญ ราชอาณาจักรกัมพูชา ในช่วงวันที่ 3-9 มิ.ย.2566 การเล่นและการแข่งขันกีฬานับว่าเป็นปัจจัยหลัก ที่สำคัญอย่างหนึ่ง ในการพัฒนาประชากรภายในประเทศให้มีสุขภาพพลานามัยแข็งแรงสมบูรณ์ และปราศจากโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ อันเป็นวิถีการนำไปสู่การมีคุณภาพชีวิตที่ดีและเป็นบุคคลที่มีคุณค่าของประเทศสืบไป การแข่งขันกีฬาในระดับนานาชาติมีประโยชน์อย่างยิ่ง เพราะเป็นเวทีแห่งการแสดงขีดความสามารถระดับสูงสุดของนักกีฬาแต่ละประเทศนั้น"
พล.อ.ประวิตร กล่าวอีกว่า "และที่สำคัญอีกประการหนึ่งคือ การแข่งขันกีฬาเป็นการแสดงออกทางด้านวัฒนธรรมของชนชาตินั้น ทั่วโลกได้ประจักษ์ถึงความเจริญรุ่งเรือง มีการส่งเสริมและพัฒนาทางด้านเทคโนโลยี และทางด้านวิทยาศาสตร์การกีฬากันอย่างมาก จึงขอให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหลายจงได้ตระหนัก และนำเอาความรู้จริงใหม่ ๆ มาประยุกต์ใช้ให้เกิดผลดีที่สุดในการพัฒนาขีดความสามารถของนักกีฬาทีมชาติไทยและประชาชนภายในประเทศต่อไปด้วย จึงขอฝากไว้ว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดในวันนี้ คือการมองไปข้างหน้า ค้นคว้า เรียนรู้วิทยาการใหม่ๆ ที่จะทำให้นักกีฬาคนพิการไทย มีขีดความสามารถสูงสุดทัดเทียมกับอารยประเทศอย่างยั่งยืนต่อไป
ในโอกาสนี้ ผมขอแสดงความชื่นชมนักกีฬาคนพิการทีมชาติไทย ผู้ฝึกสอน ผู้บริหาร ตลอดจนขอขอบคุณผู้ให้การสนับสนุนทุกภาคส่วน และขอเป็นกำลังใจให้กับคณะนักกีฬาคนพิการทุกคน ขอให้ประสพผลสำเร็จในการชิงชัยครั้งนี้ และนำชื่อเสียงมาสู่ประเทศชาติของเราต่อไป"