'กัปปิตัน เพชรยินดีอะคาเดมี่' แชมป์ RWS 2023 ขอสร้างเป้าหมายใหม่ที่ยิ่งใหญ่เดิม

นับเป็นระยะเวลากว่า ทศวรรษแล้วที่ กัปปิตัน เพชรยินดีอะคาเดมี่ ได้โลดแล่นอยู่ในเส้นทางวงการมวยไทย ซึ่งการคว้าแชมป์รุ่นซูเปอร์ไลท์เวทของศึก RWS ราชดำเนิน เวิลด์ ซีรีส์ด้วยการเอาชนะคะแนนหนึ่งล้านเล็ก จิตรเมืองนนท์ก็ถือเป็นสิ่งที่กัปปิตันพูดออกมาอย่างเต็มปากเลยว่าเป็นหนึ่งในความภาคภูมิใจที่สุดในชีวิตการเป็นนักมวยของเขา

สิ่งที่ผมค้างคาใจมานาน 22 ปีของชีวิตนักมวย วันนี้ผมทำมันสำเร็จแล้ว ผมเลิกค้างคาใจแล้วครับ” นักมวยวัย 30 จากจังหวัดหนองบัวลำภูกล่าวบนเวทีหลังคาดเข็มขัดแชมป์พร้อมรับเงินรางวัล ล้านบาท

เพราะตลอดที่ผ่านมา เส้นทางชีวิตของกัปปิตันต้องต่อสู้ผ่านความยากลำบากมามากมายเลยกว่าจะก้าวมาถึงความสำเร็จอย่างที่เห็นในวันนี้

กัปปิตัน เจ้าของฉายา ไอ้หนุ่มซินตึ๊ง” มีชื่อจริงว่า อนึ่ง คัฒมารศรี เกิดเมื่อวันที่ 24 มีนาคม ปี พ.. 2536 ซึ่งเหตุผลที่ทำให้เขาหันมาชกมวยก็เป็นเพราะความชอบส่วนตัวของเขาล้วนๆ ไม่มีใครมาบังคับหรืออยากหารายได้มาช่วยเหลือที่บ้าน โดยช่วงนั้นมีค่ายมวยมาตั้งที่หมู่บ้านพอดี ตนก็เลยรู้สึกสนใจอยากลองชกมวยดูบ้าง ในการขึ้นชกครั้งแรกตนรู้สึกตื่นเต้นมาก แต่ก็แพ้น็อกไปเพราะยังออกอาวุธไม่เป็น ซึ่งหลังชกเสร็จ แม่ของเขาก็ไม่เห็นด้วยเลยที่ลูกชายเลือกที่จะทำอะไรแบบนี้ แต่กัปปิตันก็ยังดื้อดึงขอชกมวยต่อไปเพราะสัมผัสได้ว่านี่แหละคือสิ่งที่เขาหลงไหลและชื่นชอบอย่างแท้จริง

ในช่วงแรกๆที่ขึ้นชก กัปปิตันมีสถิติแพ้ติดต่อกัน 7 ไฟต์เลย แต่ก็ไม่เคยรู้สึกย่อท้อ ชกทำผลงานและสั่งสมประสบการณ์มาเรื่อยๆจนได้มีโอกาสย้ายมาอยู่ค่ายมวยที่กรุงเทพฯ หลังจบป.4 แต่ก็ต้องตระเวนชกตามเวทีภูธรเหมือนเดิมเพื่อเก็บประสบการณ์และชื่อเสียงให้เป็นที่ยอมรับ ก่อนจะได้ขึ้นชกที่เวทีลุมพินีเป็นครั้งแรกช่วงต้นปี 2550 และพัฒนาการชกอย่างต่อเนื่องจนได้ครองแชมป์ประเทศไทยรุ่น 154 ปอนด์เมื่อกลางปี 2559 ตามมาด้วยแชมป์ของเวทีลุมพินีเมื่อปี 2562

อีกเรื่องที่น่าสนใจเกี่ยวกับกัปปิตันก็คือเขาเป็นนักมวยที่เคยปล่อยน้ำหนักขึ้นไปชกถึงพิกัด 160 ปอนด์มาแล้ว โดยสาเหตุที่เป็นอย่างนั้นก็เพราะว่าตอนรับราชการทหาร เขาต้องฝึกซ้อมมวยด้วยตัวเองในค่ายทหาร ไม่มีคนดูแล ส่งผลให้ควบคุมน้ำหนักไม่ค่อยได้และหาตัวคู่ชกลำบากมากเนื่องจากรุ่นน้ำหนักใหญ่ๆไม่ค่อยมีนักมวยเท่าไหร่ จนกระทั่งเมื่อปี 2562 ได้ย้ายมาอยู่ค่ายเพชรยินดีอะคาเดมีที่มีการนำเอาวิทยาศาสตร์การกีฬามาช่วย ทำให้เขาเริ่มลดน้ำหนักจนลงมาชกได้ถึงพิกัด 140 ปอนด์ ส่งผลให้เขาได้มีรายการขึ้นชกบ่อยมากขึ้นเพราะการหาตัวคู่ชกในช่วงน้ำหนักประมาณนี้ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไปแล้ว

อีกสิ่งสำคัญในช่วงนี้เลยก็คือการที่ “เสี่ยโบ๊ท” ณัฐเดช วชิรรัตนวงศ์ เจ้าของค่ายเพชรยินดีอะคาเดมี่ได้ตั้งชื่อใหม่ให้กับเขาว่า “กัปปิตัน” หลังจากที่ก่อนหน้านี้เขาเป็นที่รู้จักในวงการมวยไทยภายใต้ชื่อ “ดีเซลเล็ก อู๊ดดอนเมือง”

ส่วนฉายา “ไอ้หนุ่มซินตึ๊ง” ของเขาก็ไม่มีอะไรซับซ้อน สาเหตุก็มาจากการที่กัปปิตันชอบตัดผมทรงเกาลัด แถมมีใบหน้าคล้ายคนจีน ทำให้สื่อและแฟนมวยนิยมเรียกเขาว่าไอ้หนุ่มซินตึ๊งตามชื่อหนังจีนยอดนิยมนั่นเอง ถือเป็นอีกหนึ่งเอกลักษณ์ประจำตัวที่กลายเป็นภาพจำของเขาในสายตาแฟนมวยเลยก็ว่าได้

ปรากฎว่าการได้ย้ายมาอยู่กับค่ายเพชรยินดีและขึ้นชกในชื่อ กัปปิตัน เพชรยินดีอะคาเดมี่” ก็ได้ทำให้เส้นทางอาชีพของเขาผงาดขึ้นยิ่งกว่าครั้งไหนๆ มีฟอร์มดีต่อเนื่องจนได้โอกาสไปชกในศึกวัน แชมเปียนชิพ และได้ครองแชมป์โลกคิกบ็อกซิ่งรุ่น 145 ปอนด์จากการชนะน็อกอลาเวอร์ดี รามาซานอฟ นักชกรัสเซียชื่อดังในยกที่สองเมื่อปี 2564

อย่างไรก็ตาม ในเวลาต่อมา กัปปิตันก็มีอันต้องเสียแชมป์เส้นดังกล่าวไปด้วยการแพ้คะแนนให้ฮิโรกิ อากิโมโตะ นักมวยชาวญี่ปุ่นเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งหลังจากนั้น ตัวกัปปิตันก็ได้เบนเข็มหันมาชกในศึก RWS จนได้แชมป์รุ่น 140 ปอนด์มาครอง

“สำหรับเงินรางวัล ล้านบาทที่ได้มาผมตั้งจะใจจะเอาไปโปะหนี้จาการกู้แบ๊งก์ไปสร้างบ้านที่หนองบัวลำภู เป็นบ้านที่ให้พ่อแม่ได้อยู่สบายขึ้นหลังจากลำบากมานาน ตัวผมเองชกเสร็จก็กลับไปอยู่ที่บ้านเป็นส่วนใหญ่ ผมยังไม่แต่งงาน เคยมีแฟนแต่เลิกรากันไป ตอนนี้ผมโฟกัสกับการชกมวย อยากซ้อมอย่างเต็มที่ เอาครอบครัวก่อน ไม่เอาคนอื่น”

กัปปิตันบอกว่าเขารักอาชีพนักมวย อาจจะมีบ้างที่หมดไฟ แต่ก็ฮึดจนกลับมาได้ทุกครั้ง นักมวยไทยเป็นอาชีพที่ทำให้เขามีทุกอย่างที่อยากได้ มีฐานะที่ดีขึ้น พ่อแม่สบายขึ้น ซึ่งตอนนี้ตนก็ยังสนุก อยากขึ้นชกอยู่ตลอดเวลา

“ผมอยากสร้างผลงาน สร้างชื่อเสียงให้ตัวเองขึ้นไปเรื่อยๆ ทำค่าตัวให้มากที่สุด ทำให้อนาคตชีวิตดีขึ้นและมีความสุข”

 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ลุ้น'แดเนียล โรดริเกวซ' โชว์'ฝานลูกบวบ' อาวุธมวยไทยในศึกป้องกันแชมป์ราชดำเนิน

หนึ่งในนักชกที่มีศิลปะการชกครบเครื่องทั้งหมัด เท้า เข่า ศอก ในยุคนี้ไม่ได้มีเพียงนักมวยชาวไทยเท่านั้น แดเนียล โรดริเกวซ นักมวยเชิงดุจากสวิตเซอร์แลนด์เชื้อสายโดมินิกันก็เป็นหนึ่งในนักมวยตัวท็อปดีกรีแชมป์เปี้ยนรุ่นซูเปอร์เวลเตอร์เวตคนปัจจุบันของเวทีมวยราชดำเนินที่มีแม่ไม้มวยไทยที่สวยงามและหาชมยากหลายกระบวนท่า ไม่ว่าจะเป็นการเตะก้านคอ ศอกกลับ เข่าลอย โดยเฉพาะอาวุธศอกนั้นสามารถทำได้ทั้งศอกตี,ศอกตัด และศอกงัด ซึ่งถือว่าเป็นนักมวยผู้ที่มีส่วนอนุรักษ์แม่ไม้มวยไทยดั้งเดิมไม่ให้สูญหายไป

เปิดใจ'สมทรง ไตรวาสน์' เบื้องหลังวงปี่กลอง คู่บารมีเวทีราชดำเนินกว่า30ปี

สมทรง ไตรวาสน์ หัวหน้าคณะวงปี่กลองคู่บุญผู้อยู่คู่เวทีมวยราชดำเนินมากว่า 30 ปีประทับใจพัฒนาการของ “บ้านมวยไทย” รวมถึงให้ความสำคัญของคณะดนตรีซึ่งทำหน้าที่ทุกวันที่มีการชก ชี้วงปี่มวยไทยคือองค์ประกอบสำคัญของมวยไทยที่แท้จริง

'ขุนศึกน้อย'มั่นใจชนะ'เพชรสมาน' แย่งแชมป์ซูเปอร์แบนตัมราชดำเนิน ศึกRWSเสาร์7มิ.ย.นี้

ศึก RWS ที่เวทีราชดำเนินในวันเสาร์ที่ 7 มิ.ย. นี้ คู่สำคัญ “เพชรสมาน ส.สมานการ์เม้นต์”แชมป์ซูเปอร์ แบนตัมเวทราชดำเนิน (122 ปอนด์) จะขึ้นชกป้องกันเข็มขัดแชมป์ครั้งที่ห้ากับผู้ท้าชิงก็คือ “ขุนศึกน้อย บูมเด็กเซียน” นักชกจากอำเภอกระนวน จังหวัดขอนแก่น ซึ่งเป็นแฝดน้องของ ขุนศึกเล็ก บูมเด็กเซียน เจ้าของตำแหน่งแชมป์ แบนตัมเวทราชดำเนิน ซึ่งหาก “ขุนศึกน้อย” สามารถพลิกล็อคเอาชนะเพชรสมานและกลายเป็นแชมป์คนใหม่ได้ก็จะสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่กลายเป็นนักมวยคู่แฝดที่ครองแชมป์เวทีราชดำเนินพร้อมกันอีกด้วย

'ขุนศึกเล็ก'พร้อมบู๊'เหนือพยัคฆ์' ป้องกันแชมป์แบนตัมเวท เวทีราชดำเนิน24พ.ค.นี้

ขุนศึกเล็ก บูมเด็กเซียน มีโปรแกรมขึ้นชกป้องกันเข็มขัดแชมป์รุ่นแบนตัมเวทของเวทีราชดำเนินในวันที่ 24 พ.ค. นี้โดยจะเจอกับ "เหนือพยัคฆ์ ว.สังข์ประไพ" โดยถือเป็นส่วนหนึ่งของ “MAYHEM” พฤษภาฯ มหาโหด เดือดทะลุปรอท" และเป็นไฟต์ที่ต้องการชัยชนะเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองการคว้ารางวัลนักมวยไทยยอดเยี่ยมแห่งปี 2567 มาครองได้ถึง 4 สถาบัน

'พญาหงส์ บัญชาเมฆ' แชมป์105ปอนด์เวทีราชดำเนิน ทั้งเก่งกาจและน่ารัก

สนามมวยราชดำเนินซึ่งเป็นสังเวียนมวยที่มีอายุเก่าแก่มากที่สุดในโลกก้าวเข้าสู่ปีที่ 80 ของการก่อตั้งแล้ว และมีแผนจะยกระดับทั้งมาตรฐานของสนามและคู่มวยที่จัดชกในทุกรายการให้ก้าวเข้าสู่ระดับอินเตอร์

'เอกลักษณ์มวยไทย' กับหัวใจที่ไม่หยุดนิ่ง ของเวทีมวยราชดำเนิน

สนามมวยราชดำเนินเฉลิมฉลองปีที่ 80 ปีของการก่อตั้งสนามด้วยการสร้างกระแสฮือฮาจากผู้ชมทั้งชาวไทยและต่างประเทศในการเปิดตัว Immersive Muay Thai เทคโนโลยีการฉายภาพเสมือนจริงบนโดมคอนกรีตเหนือเวทีสุดตระการตา เป็นการพบกันครั้งแรกระหว่างความล้ำสมัยของระบบแสงสีเสียงกับโครงสร้างที่ผ่านเวลายาวนานมากว่าเจ็ดสิบปี เสมือนการผสมผสานประวัติศาสตร์แห่งความภาคภูมิใจเข้ากับความร่วมสมัยในปัจจุบัน เช่นเดียวกับหลายสิ่งหลายอย่างในสนามมวยแห่งนี้ ที่ยังคงเก็บรักษาอัตลักษณ์ของมวยไทยไว้อย่างเข้มข้นด้วยความภาคภูมิใจในความเป็นเวทีมวยไทยที่แท้จริง