ยังคงทำสถิติต่อไป สำหรับ สมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี และ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย หลังได้ขยับมานั่งตำแหน่งรองนายกฯ ใน ครม.เศรษฐา 1

งานสุดท้ายของ “เนติบริกร” หรือ วิษณุ เครืองาม รองนายกฯฝ่ายกฎหมายของรัฐบาลประยุทธ์ ทิ้งทวนทำเรื่องทูลเกล้าฯพระราชทานอภัยลดโทษ”ทักษิณ ชินวัตร” จาก ติดคุก 8 ปี เหลือเพียง 1 ปีต้อนรับรัฐบาลใหม่แห่งความปรองดอง

ภายหลังคณะรัฐมนตรี(ครม.)เข้าเฝ้าเพื่อถวายสัตย์ปฏิญาณตน ถือเป็นอาณัติสัญญาณ “รัฐบาลเศรษฐา1” เริ่มทำงานได้อย่างเป็นทางการ นักวิชาการหลายท่านฝากถึงข้อห่วงใยไปยังรัฐมนตรีประจำกระทรวงต่างๆ

ลงพื้นที่กรุงเทพฯ ครั้งแรกของนายกฯ หลังจาก “เสี่ยนิด” เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ภายหลังได้รับเลือกเป็นนายกฯ โดยการลงพื้นที่ครั้งนี้ได้ลงพื้นที่ไปที่ตลาดเมืองไทยภัทร ซึ่ง “นายกรัฐมนตรี” ลงพื้นที่รับฟังปัญหาประชาชน พ่อค้า แม่ค้า และภาคเอกชน เดินทางโดยรถไฟฟ้าใต้ดิน (MRT) สถานีเพชรบุรี

ทำหน้าที่ ‘ตัวชน’ ให้คนชัยภูมิมาตั้งแต่สมัยที่แล้ว สำหรับ ‘มิสเตอร์เกษตร’ สัมฤทธิ์ แทนทรัพย์ สส.ชัยภูมิ พรรคภูมิใจไทย ในเขต อ.เทพสถิต อ.บำเหน็จณรงค์ และอ.ซับใหญ่

เป็นพรรคเดียวที่ไม่มีข่าวต่อรองเก้าอี้ตำแหน่งรัฐมนตรีเหมือนกับพรรคร่วมอื่นๆ สำหรับพรรคชาติไทยพัฒนา ภายใต้การนำของ ลูกท็อป วราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

อ.วิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ถือเป็นแหล่งข่าวลำดับต้นๆ ที่เมตตาให้ข่าวแก่สื่อมวลชน ทำเนียบรัฐบาล ตลอด9ปี ทั้งเรื่องประเด็นข้อกฎหมาย จารีตแบบแผนในการบริหารราชการแผ่นดิน และทิศทางการทำงานของรัฐบาล แบบถึงไหนถึงกัน ซักถามทุกประเด็นจนเกิดความกระจ่าง

แม้เป็นเพียงการเลือกตั้งซ่อมสส. จังหวัดระยอง เพียงเขตเลือกตั้งเดียว คือเขต 3 อำเภอแกลง และอำเภอเขาชะเมา แต่ดูเหมือนครั้งนี้ “ประชาธิปัตย์” มุ่งมั่นตั้งใจ ต้องคว้าเก้าอี้ตัวนี้ให้ได้ เพราะการได้เพิ่ม 1 สส.ตอนนี้มีค่าและมีความหมายกับพรรคประชาธิปัตย์มาก

ภารกิจที่เรียกว่า ที่แรก ของว่าที่นายกฯคนใหม่ อย่างเศรษฐา ซึ่งถือว่าเป็นการลงพื้นที่ จังหวัดภูเก็ต และจังหวัดพังงา เพื่อพบปะพูดคุยกับผู้ประกอบการเรื่องการท่องเที่ยว

นับถอยหลังรัฐบาล “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ที่ล่าสุดเจ้าตัวได้โพสต์เฟซบุ๊กถึงช่วงเวลา 9 ปีของการดำรงตำแหน่งนายกฯเป็นช่วงที่มีความหมายที่สุดของชีวิต พร้อมโชว์ผลงานสำเร็จ 9 ด้าน ขณะที่บรรดารัฐมนตรีบางคนก็โพสต์เตรียมอำลาไปพร้อมรัฐบาลลุงตู่เช่นกัน

สื่อและคอการเมืองไทยสะท้อนจัดตั้งรัฐบาล ที่มีพรรคเพื่อไทย เป็นแกนนำ และมีพรรคสองลุง คือ รัฐบาลสลายขั้ว สลายสีเสื้อหรือ หรือ ผสมพันธุ์ข้ามขั้ว ขณะที่สื่อนอกมองว่า พรรคเพื่อไทย ร่วมกับ 11 พรรคการเมืองได้ “เศรษฐา ทวีสิน” เป็นนายกฯคนที่ 30

อยู่กันมานาน ตั้งแต่ปี 2557 สำหรับรัฐมนตรีหลายคนในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา โดยเฉพาะเสนาบดีที่อยู่มาตั้งแต่รัฐบาลชุดคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) อย่าง ‘เนติบริกร’ วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี มือกฎหมายคนสำคัญ

ขณะที่การเมืองในสภากำลังวุ่นวายจนตกเป็นประเด็นสนใจ “จิตภัสร์ ตั๊น กฤดากร” อดีตสส.พรรคประชาธิปัตย์ ส่งข่าวคราวความไม่ชอบมาพากลในวงการกีฬามาฟ้องสังคมให้จับตาคู่ขนานกับการเมืองที่กำลังเข้มข้น

สัปดาห์นี้มีแต่เรื่องเซอร์ไพรส์ เพราะวันที่ 22 ส.ค. จะเป็นวันเลือกนายกรัฐมนตรีที่พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ส่วนวันที่ 21 ส.ค. คือวันคล้ายวันเกิดของบุคคลสำคัญในพรรค คือ อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย

หลังมีความชัดเจนแล้วว่า “พรรครวมไทยสร้างชาติ” หรือ “รทสช.” ตัดสินใจร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย และพร้อมโหวตให้แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของเพื่อไทย ในการประชุมสภาวันอังคารที่ 22 สิงหาคมนี้ ด้านความเคลื่อนไหวในรวมไทยสร้างชาติก็คึกคักในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ต้องจับตา 4 เก้าอี้ตามโควตาที่แว่วมาว่าได้แล้วเก้าอี้กระทรวงพลังงาน

ไม่ได้โฟกัสเรื่องการจัดตั้งรัฐบาล แต่ สส.คนงามเมืองโอ่ง หนูแคมป์ น.ส.กุลวลี นพอมรบดี สส.ราชบุรี เขต 1 พรรครวมไทยสร้างชาติ โฟกัสแต่งานในพื้นที่

“สีส้ม” เวลานี้ อาจกลายเป็นสีแสลงตาของบรรดาแกนนำพรรคเพื่อไทย หลังจากช่วงเลือกตั้งถือเป็นคู่แข่งโดยตรง และทำให้พรรคแดงพลาดเป้าแลนด์สไตล์ไปมาก

โหวตนายกฯ กำหนดแบบคร่าวๆ ต้องรอผลวินิจฉัยของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญก่อนว่าจะรับคำร้องหรือไม่รับคำร้อง กรณีห้ามเสนอชื่อแคนดิเดตนายกฯซ้ำในสมัยประชุมเดียวกัน ยกเว้นมีสถานการณ์เปลี่ยนแปลงไป

ตอนนี้เรื่องการเมืองก็ยังคงวุ่นอยู่กับการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่ง พรรคเพื่อไทย เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล

เก็บตกสีสันของ “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม หลังจากผ่านสนามการหาเสียงเลือกตั้งและประกาศวางมือทางการเมือง ส่วนใหญ่ก็นั่งทำงานอยู่ในทำเนียบรัฐบาล ภารกิจลงพื้นที่พบมวลชนลดน้อยลง