การเดินเข้าพรรคพลังประชารัฐของ มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์เมื่อ 7 ธันวาคมที่ผ่านมา ถูกมองในทางการเมืองว่า
” เปิดตัวเกินเบอร์”

โหมดการเมืองนับจากนี้ อยู่ระหว่างช่วงรอเข้าสู่ขั้นตอนการนำร่างพรบ.การเลือกตั้งส.ส.และร่างพรบ.พรรคการเมือง ขึ้นทูลเกล้าฯ เพื่อประกาศใช้เป็นกฎหมาย หลังศาลรัฐธรรมนูญไฟเขียว ร่างพรบ.ทั้งสองฉบับ ไม่ขัดรัฐธรรมนูญ

หลังมีกระแสข่าว “พี่ป้อม พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ”สิ้นสุดทางเดินร่วมกันที่พลังประชารัฐ กับ”น้องตู่ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา”โดยทั้งสองคนได้มีการคุยเปิดใจกันแบบลึกๆ ที่บ้านป่ารอยต่อฯ เมื่อ 20 พฤศจิกายน ว่า 3 ป. ควรแยกกันเดิน

จับอาการทางการเมืองระหว่าง บิ๊กตู่ พลเอกประยุทธ์ นายกรัฐมนตรีกับพรรคพลังประชารัฐ

สามแกนนำพรรคพลังประชารัฐ ที่เป็นระดับ ตัวเอ้ คือ บิ๊กป้อม พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค สันติ พร้อมพัฒน์ เลขาธิการพรรค และสมศักดิ์ เทพสุทิน ประสานเสียง การันตี ส.ส.และแกนนำพรรคพลังประชารัฐ กลุ่มต่างๆ

พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ ยังคงปฏิบัติหน้าที่รักษาการแทนนายกรัฐมนตรีติดต่อกันทุกวัน สุดสัปดาห์นั่งเป็นประธาน ศบค.นัดส่งท้าย เปิดราชการวันจันทร์เดินทางไปที่สำนักงานตำรวจแห่งชาตินั่งเป็นประธาน ก.ตร.

หลังบัญชีแต่งตั้งโยกย้ายเลื่อนขั้นระดับนายพล ประจำปีของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือโผตำรวจ ฝุ่นตลบมาได้หลายวัน โดยเฉพาะช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่ข่าวว่า โผไม่ลงตัว เพราะมีบางคน ขอรื้อโผบางตำแหน่ง ทำเอาวงการยุทธจักรโล่เงิน ฝุ่นตลบ

แวดวง “สีกากี-รั้วปทุมวัน”ที่อยู่ในช่วงกำลังจัดทัพแต่งตั้งโยกย้ายบิ๊กตำรวจประจำปี 2565 กำลังเกิดสภาพปั่นป่วน ฝุ่นตลบไปทั่วรั้วปทุมวัน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

มติที่ประชุมตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ที่รับคำร้องคดีแปดปี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไว้วินิจฉัย พร้อมกับ มีมติ 5 ต่อ 4 เสียง ให้ พล.อ.ประยุทธ์หยุดปฏิบัติหน้าที่