‘รมว.ดีอีเอส’ แย้ม พรฎ.กำกับแพลตฟอร์มดิจิทัล ใกล้นำมาบังคับใช้แล้ว

รมว.ดีอีเอส ชี้ปิดแพลตฟอร์ม รอศาลสั่ง วอนอินฟูเอนเซอร์-เอเจนซี่โฆษณา ระมัดระวังเนื้อหาก่อนโพสต์ จ่อใช้ พรฎ.กำกับแพลตฟอร์มดิจิทัล คลอดเร็วๆนี้

9 พ.ค.2565-นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัล เพื่อเศรษฐกิจและสังคม(ดีอีเอส) กล่าวถึงถึงกรณีนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นเรื่องขอให้ร้องศาลสั่งปิดเว็บไซต์และแพลตฟอร์มขายสินค้าชื่อดังที่ปล่อยให้มีการเผยแพร่โฆษณาที่มีเนื้อหาหมิ่นสถาบันว่า ดีอีเอสได้ติดตามเรื่องนี้ตั้งแต่ได้ทราบข่าวว่ามีการโพสต์ไม่เหมาะสมในแพลตฟอร์มชื่อดัง จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานจากทุกช่องทาง ยูทูป เฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ พบว่ามี 42 ยูอาร์แอลที่แชร์ข้อมูล จึงได้ประสานงานกับทางแพลตฟอร์มให้มีการปิดกั้น เทคดาวน์ไปแล้ว และจะดำเนินคดีตามกฎหมายให้ถึงที่สุดกับผู้มีความผิด และจะขอคำสั่งศาลสั่งปิดกั้นด้วยหากแพลตฟอร์มยังไม่ปิดกั้น แต่คิดว่าน่าจะปิดได้หมด ไม่มีปัญหา

“ฝากเตือนไปยังอินฟลูเอนเซอร์ หรือผู้ที่จะโพสต์ข้อความ คลิปต่างๆ รวมถึงเอเจนซี่โฆษณาอยากให้มีความระมัดระวัง โพสต์ที่จะ กระทบความรู้สึกของคนไทยหรือผิดกฎหมาย ผิดจรรยาบรรณสื่อในการโฆษณา จึงอยากให้ทำงานด้วยความระมัดระวัง ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก ทั้งนี้จะดำเนินคดีตามกฎหมายให้ถึงที่สุดกับผู้กระทำผิดทั้งหมดไม่ว่าจะเป็น นาราเครปกระเทย ที่เป็นเจ้าของโพสต์บริษัทโฆษณา ตัวแพลตฟอร์ม ประกอบด้วย 3 กลุ่มนี้ซึ่งต้องดำเนินคดีทั้ง3กลุ่ม ส่วนใครจะมี ความผิดอย่างไรต้องดำเนินไปตามกฎหมาย”

ถามว่าจะเชิญบริษัทโฆษณา เอเจนซี่ มาทำความเข้าใจรูปแบบการนำเสนอหรือไม่ นายชัยวุฒิ กล่าวว่า เป็นหน้าที่ของสมาคมโฆษณาที่มีมาตรฐานวิชาชีพ มีจรรยาบรรณ ที่จะต้องดูแลกันเอง ตนเชื่อว่าเขาได้พูดคุยกันอยู่แล้วในการบังคับใช้มีจริยธรรมอย่างจริงจังและควรมีบทลงโทษคนที่ฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมหรือจรรยาบรรณของสมาคมโฆษณา สื่อโฆษณา ซึ่งอยากให้พวกเขากำกับกันเองมากกว่าเพราะหากเราไปใช้อำนาจรัฐก็เท่ากับไปแทรกแซง หรือทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจ ทางสมาคมเขาจะกำกับดูแลกันเองส่วนทางเราก็คอยไปประสานงาน

“ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีกเพราะกระทบความรู้สึกคนไทยโดยเฉพาะแพลตฟอร์มเองก็โดนกระทบมาก ที่กระทำไม่เหมาะสม คนไทยรับไม่ได้ ถือเป็นอุทาหรณ์ให้กับแพลตฟอร์มหรือการค้าออนไลน์การโฆษณาต่างๆที่จะต้องมีความระมัดระวัง การกระทำใดที่ผิดศีลธรรม ผิดกฎหมาย ขัดความรู้สึกของคนไทยสังคมจะลงโทษทั้งนั้น”

ถามว่า มีบางฝ่ายเสนอให้รัฐบาลออกกฎหมายการให้บริการดิจิทัล (Digital Services Act – DSA) ที่เหมือนกับกฎหมายของสหภาพยุโรป (อียู) เพื่อใช้มากำกับดูแลแพลตฟอร์มต่างๆ นายชัยวุฒิ กล่าวว่า กฎหมายที่จะดูแลเรื่องแพลตฟอร์มเราได้ร่างแล้ว เพื่อให้มีมาตรฐานสากลเหมือนในยุโรป ขณะนี้อยู่ระหว่างคณะกรรมการปฏิรูปกฎหมายกำลังยกร่างซึ่งใกล้เสร็จแล้วจะได้เข้าสู่สภา แต่อย่างไรก็ตามเรามีพระราชกฤษฎีกา กำกับแพลตฟอร์มดิจิทัล ซึ่งได้เสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีไปแล้วขณะนี้อยู่ระหว่างสำนักงานกฤษฎีกากำลังตรวจร่าง ก่อนจะประกาศ ซึ่งจะ มีการบังคับให้แพลตฟอร์มดิจิทัล อีคอมเมิร์ซ ต่างๆ จะต้องมาจดแจ้งการประกอบการ ต้องมีมาตรการในการควบคุมการใช้งานไม่ให้ผิดกฎหมาย หรือกระทบต่อศีลธรรมอันดีของประชาชน เพื่อมีมาตรการกำกับดูแล เช่น เขาต้องมีตัวแทนในประเทศไทย มีอัลกอริทึมที่เหมาะสมในการโพสต์หรือแชร์ มีการควบคุมไม่ให้มีปัญหา กำกับดูแลโดยพระราชกฤษฎีกา(พ.ร.ฎ.)กำกับแพลตฟอร์มดิจิทัล จะออกเร็วๆนี้ ซึ่งผ่านที่ประชุมคณะรัฐมนตรีไปแล้ว กฤษฎีกาตรวจร่างยังไม่เสร็จ จึงยังไม่ได้ประกาศใช้

นายชัยวุฒิ กล่าวว่า เห็นด้วยว่าเราควรจะทำให้เร็ว รัฐบาลให้ความสำคัญ พยายามแก้กฎหมาย ปรับปรุงกฎระเบียบต่างๆตลอดเวลา ก็ต้องเร่งให้เร็วที่สุด แต่ต้องมีความรอบคอบ มีการรับฟังความคิดเห็น ตรวจร่างให้ถูกต้อง จึงต้องใช้เวลา แต่ โดยหลักการวันนี้ปัญหาใหญ่คือประชาชนจะต้องระมัดระวัง ในการใช้โซเชียลมีเดียในการโพสต์หรือแชร์ รวมถึงบริษัทที่ทำโฆษณา หรือ ผู้ขายทางออนไลน์ อินลูเอนเซอร์ จะต้องมีจรรยาบรรณถูกกฎหมาย และถูกบริบทของสังคมด้วย การทำอะไรขอให้ระมัดระวังไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก

“ประเด็นเรื่องการปิดแพลตฟอร์ม เป็นเรื่องที่จะต้องให้ศาลเป็นผู้พิจารณา ซึ่งโดยหลักกฏหมายแพลตฟอร์มเป็นตัวกลาง ไม่ใช่คนโพสต์ เมื่อแพลตฟอร์มทราบว่ามีคนโพสต์หรือการให้ข้อมูลที่ผิดกฎหมาย หรือทางกระทรวงดิจิทัลแจ้งไป แล้วเขาปิด หรือเทคดาวน์เขาก็จะไม่มีความผิดเพราะเป็นแค่ตัวกลาง ไม่ใช่คนดำเนินการ แต่ถ้าเขาไม่ปิดปล่อยให้มีการโพสต์เช่นนั้นต่อไปก็จะมีส่วนร่วมในการกระทำความผิด ถือว่าเป็นผู้ร่วมกระทำความผิด ก็จะดำเนินคดีพ่วงกันไปเลยทั้งคนโพสต์และตัวกลาง จึงอยู่ที่ว่าหลังจากนี้เขาทำอย่างไรต่อไป ก็ต้องดูที่ข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย อยู่ดีๆจะไปปิดเขาเลยไม่ได้ จะต้องใช้กระบวนการทางกฎหมาย ประเทศไทยเรามีสิทธิเสรีภาพให้กับพี่น้องประชาชน การจะไปจำกัดสิทธิ หรือไปลงโทษก็ต้องผ่านกระบวนการทางกฎหมายก่อนคือให้ศาลเป็นคนตัดสินจะไปปิดเลยไม่ได้เพราะกระทบสิทธิของเขา”

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

งามไส้! คุก 2 เดือน 'ลูก รมต.' เมาขับฝ่าด่าน

นายประยุทธ เพชรคุณ โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยความคืบหน้าเรื่องนี้ว่า วันที่ 18 เม.ย.ที่ผ่านมา พนักงานอัยการสำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีศาลเเขวง 1

‘สาธิต’ บอกยังงงเหมือนทุกคน ทำไม ‘ผบ.ตร.’ ถอนฟ้อง ‘บิ๊กโจ๊ก’

สาธิต ปิตุเตชะ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) และอดีตสมาชิกพรรค ปชป. โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า “ทุกคนรวมทั้งผมคง งง? ทำไม ผบ.ตร. ถอนฟ้องบิ๊กโจ๊ก

โปรดเกล้าฯ ให้ผู้พิพากษาสมทบในศาลเยาวชนและครอบครัวพ้นจากตำแหน่ง 10 ราย

ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีเรื่อง ให้ผู้พิพากษาสมทบในศาลเยาวชนและครอบครัวพ้นจากตำแหน่ง