18 พ.ค.2565 - นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. พรรคประชาธิปัตย์ หมายเลข 4 ลงพื้นที่เขตคลองเตย พร้อมนายปานชัย แก้วอัมพรดี ผู้สมัคร ส.ก. หมายเลข 6 โดยนายสุชัชวีร์ ถึงแนวทางแก้ปัญหาสถานการณ์น้ำท่วม ว่า ถ้าผู้ว่าฯ กรุงเทพฯ ที่เข้ามาแล้วคิดเหมือนเดิม ทำแบบเก่า ปัญหาน้ำท่วม 4 ปี จะหนักกว่านี้ เพราะฝนไม่ได้ตกน้อยลง ขอให้คนกรุงเทพฯ เปิดรับสิ่งใหม่ๆ เพราะมีการพิสูจน์ยืนยันแล้วว่า การทำแบบเดิมๆ นี้ เราเสียเงินงบประมาณไปทุกปีแล้วไม่ได้ประโยชน์ ตนมาตรงนี้เพื่ออาสานำสิ่งที่ดีๆ ของบ้านเมืองอื่นมาทำที่กรุงเทพฯ บ้าง ไม่เช่นนั้นก็ไม่กล้าประกาศตัวเป็นผู้ว่าฯ ที่ขอแค่ลอกท่อ ลอกคลอง เพราะยังไงก็ช่วยแก้ปัญหาไม่ได้ ซึ่งกรุงเทพฯ รอผู้ว่าฯ คนใหม่ที่มาพร้อมกับสิ่งใหม่ๆ เรามาเริ่มต้นทำสิ่งที่ถูกต้องกันเสียที ไม่เช่นนั้นกรุงเทพฯจมแน่
เมื่อถามว่า สำหรับสิ่งที่เกิดขึ้นวานนี้มีรถติด ต้องอยู่บนท้องถนน 2-3 ชั่วโมง และมีน้ำท่วมขัง สัญจรไปมาไม่สะดวกนั้นรู้สึกอย่างไร นายสุชัชวีร์ กล่าววว่า รู้สึกแค้นใจว่าความจริงแล้ว ปัญหาน้ำท่วมกรุงเทพฯ ไม่ได้หนักหนาเท่ากับบ้านอื่นเมืองอื่นที่เขาเคยเจอหนักกว่าเรามาถึงวันนี้ได้อย่างไร และเรากำลังหาเสียงด้วยความคิดแบบเดิม เพราะวันนี้มันเป็นข้อพิสูจน์แล้วว่าเรื่องน้ำท่วมนั้นเป็นภัยที่ชี้ชะตาคนกรุงเทพฯ ในอนาคต หากเราปล่อยเรื่องนี้ไปตัวเรา ตัวท่านอาจทนได้ แต่ลูกหลานเราจะอยู่อย่างไร
“วันนี้ต้องเริ่มต้นใหม่เกี่ยวกับแผนการจัดการน้ำท่วมที่ทันสมัยทันยุค ถึงจะแก้ปัญหาน้ำท่วมได้ นี่ยังไม่ได้พูดถึงน้ำทะเลหนุนซึ่งหนักหนาสาหัสขึ้นทุกวัน แค่น้ำฝนเราก็ไม่รอด เมื่อน้ำทะเลหนุนขึ้นมาประจวบกับน้ำเหนือบ่าลงมา แล้วลูกหลานเราจะอยู่ตรงไหน ไม่ใช่คนหาเสียงเป็นผู้ว่าฯ จะทำเรื่องนี้ได้ทุกคน เรื่องนี้เป็นงานเฉพาะ เป็นงานที่ต้องใช้พลัง ความรู้ทางด้านวิศวกรรม ด้านวิชาการมาต่อสู้ ผมเอาพลังของผม เอาสิ่งที่ผมทำมาทั้งชีวิต ผมตั้งใจจะเป็นผู้ว่าฯ ที่แก้ปัญหาน้ำท่วมให้ได้ บ้านอื่นเมืองอื่นเขาทำได้ คนไทยก็เก่งไม่แพ้เขา ผมมั่นใจว่าเปลี่ยนกรุงเทพฯ เรื่องน้ำท่วม เราทำได้”
นายสุชัชวีร์ กล่าวต่อว่า หลายเขตบอกว่าไม่มีคนไปเปิดประตูน้ำ กับเครื่องสูบน้ำ ที่บางกอกน้อยก็ฟ้องมา วันนี้เรายังทนแบบนี้ได้อย่างไร ทั้งที่ระบบอัตโนมัติ บ้านอื่นเมืองอื่นเขาทำกันหมดแล้ว ฝนตกมาเครื่องสูบน้ำ ประตูระบายน้ำทำงานอัตโนมัติ สอดประสานกันทันที แต่เมื่อเรารอคนมันก็ท่วมอย่างนี้ ซึ่งสิ่งที่ตนจะทำทันทีคือ ลงไปสังคายนาระบบเปิด-ปิดประตูน้ำ กับเครื่องสูบน้ำให้ทำงานประสานกันด้วยระบบอัตโนมัติ ซึ่งจะสอดคล้องกับนโยบายไวไฟฟรี ที่นอกจากประชาชนจะได้ใช้อินเทอร์เน็ตเท่านั้น ตัว กทม. เองก็ใช้เครือข่ายนี้เพื่ออำนวยการแก้ปัญหาน้ำท่วมให้ทันท่วงที ประทังชีวิตคนกรุงเทพฯ ไปก่อนได้ และเป็นสิ่งที่ตนอยากทำ เพราะที่เห็นอยู่มันทำผิดไปหมดเลย สุดท้ายกรุงเทพฯ ย้อนยุคไปเป็นร้อยปีที่แล้ว กลายเป็นคลองไปหมดเลย เอาจะอยู่กันอย่างนี้ได้อย่างไร
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
นิด้าโพลสำรวจชาวกรุง เช็กผลงาน 3 ปีครึ่งผู้ว่าฯชัชชาติ
ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลการสำรวจเรื่อง “3 ปีครึ่ง ผู้ว่าฯ ชัชชาติ” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 25 พฤศจิกายน - 2 ธันวาคม 2568 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป และมีสิทธิเลือกตั้งในกรุงเทพมหานคร ครอบคลุมพื้นที่ทั้ง 50 เขต
รู้จักน้อยไปจริง! กระทุ้ง 'อนุทิน' เผยตัวตนให้มากขึ้น
นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต สส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า หรือเรารู้จักท่านนายกรัฐมนตรีน้อยไปจริงๆ
ยิ่งกว่าหนังซอมบี้! 'หัวหน้าเอ้' เห็นคนหนีตายน้ำท่วมหาดใหญ่ เสนอ 6 ทางรอด แต่รัฐบาลทำแค่อย่างเดียว
ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ หัวหน้าพรรคไทยก้าวใหม่ ลงพื้นที่น้ำท่วมหาดใหญ่ พร้อมโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า เที่ยงคืนที่ หาดใหญ่ "มืดมิด" เกินวิกฤตแล้ว
‘หัวหน้าเอ้’ โชว์กึ๋นรัวๆ เสนอ 6 ข้อเร่งด่วน ต้องทำใน 24 ชม.ช่วยคนหาดใหญ่
นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ หรือ “ดร.เอ้” หัวหน้าพรรคไทยก้าวใหม่ โพสต์เฟซบุ๊กว่า 6 ข้อเสนอเร่งด่วน ต้องทำ “24 ชั่วโมงจากนี้” เพื่อช่
'ไทยก้าวใหม่' เปิดตัว 15 ผู้ประสงค์ลงสมัคร สส.กทม. ผุดไอเดียแก้น้ำท่วม 'แก้มลิงเจ้าพระยา'
'ไทยก้าวใหม่' เปิดตัว 15 ผู้ประสงค์ลงสมัคร สส. กทม. ขณะ 'สุชัชวีร์' ชูคนรุ่นใหม่ แก้ปัญหาแบบใหม่ ไม่วนอยู่ในหลุมดำ ผุดไอเดียแก้น้ำท่วม 'แก้มลิงเจ้าพระยา' ร่วมมือวิศวกรระดับโลก ป้องกัน กทม. จมทะเล
ประชาธิปัตย์“ฉบับรีแบรนด์ใหม่” “คว้ากระแส”หรือตามเงา"พรรคส้ม"
การที่พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นพรรคการเมืองเก่าแก่ที่สุดของประเทศ กำลังเผชิญกับความท้าทายครั้งสำคัญ ทั้งจากผลการเลือกตั้งที่ถดถอย ความไม่ชัดเจนในทิศทางของพรรค และการสูญเสียบุคลากรทางการเมืองที่สำคัญ จนส่งผลให้ภาพลักษณ์ของพรรคที่เคยเป็น ‘พรรคต่อสู้กับเผด็จการ’ หรือ ‘พรรคที่ยึดมั่นในอุดมการณ์’ ได้เลือนหายไป จนอาจถูกมองว่าเป็นเพียง ‘พรรคระดับพื้นที่’ ไปเสียแล้ว

