ซูเปอร์โพลเผย ม็อบรุนแรง - ยุยงในโซเชียล ทำความสุขลดลง

12 มิ.ย. 2565 – นายนพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) เสนอผลสำรวจ เรื่อง ความสุขชุมชน กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศโดยดำเนินโครงการทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) จำนวน 1,195 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 8 – 11 มิถุนายน พ.ศ. 2565 ที่ผ่านมา พบว่าประชาชนส่วนใหญ่หรือร้อยละ 94.4 มีความหวัง ความสุข หลัง ถอดหน้ากาก เปิดประเทศ ฟื้นฟูเศรษฐกิจ ท่องเที่ยว กลับใช้ชีวิตปกติ นอกจากนี้ ความสุขชุมชนมากที่สุด เมื่อคะแนนเต็ม 10 คะแนนได้แก่ คะแนนความสุขชุมชน ด้านครอบครัว ความสัมพันธ์ของคนในครอบครัวได้ 7.17 คะแนน ในขณะที่ ความสุขชุมชนด้าน สถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์และประชาชน ความรักความสามัคคีเป็นหนึ่งเดียว จงรักภักดี ช่วยกันปกป้องรักษาไว้ได้ 7.00 คะแนน ความสุขชุมชนเมื่อนำหลักเศรษฐกิจพอเพียงไปใช้แท้จริงได้ 6.94 คะแนน ความสุขชุมชนด้านสุขภาพได้ 6.77 คะแนนความสุขด้านเศรษฐกิจปากท้องได้ 5.38

ที่น่าเป็นห่วงคือ คะแนนความสุขชุมชน เมื่อนึกถึง ความขัดแย้งของคนในชาติ ม็อบรุนแรง การยุยงให้เกิดความแตกแยกของคนในชาติ ผ่านโซเชียลมีเดีย เป็นตัวฉุดความสุขชุมชนลดลงเหลือ 4.92 คะแนน และความสุขชุมชนโดยรวมได้ 6.10 คะแนน อย่างไรก็ตาม ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 96.5 กังวล บ้านเมืองจะวุ่นวาย ประชาชนไร้สุข เพราะคนในชาติแตกแยก ขัดแย้งรุนแรงบานปลาย ในขณะที่เพียงร้อยละ 3.5 ไม่กังวล และส่วนใหญ่หรือร้อยละ 92.7 ชี้ว่าโซเชียลมีเดีย มีส่วนเป็นตัวเร่ง ทำคนไทยแบ่งเป็นสองขั้ว สร้างความแตกแยก ความเกลียดชังต่อกันของคนในชาติ ในขณะที่ร้อยละ 7.3 ระบุไม่มีส่วน

ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าวว่าในผลการศึกษาทัศนคติและพฤติกรรมของประชาชนในโลกโซเชียลในหลายประเทศพบว่า โซเชียลมีเดียมีส่วนทำให้คนในแต่ละประเทศแบ่งออกเป็นสองขั้วสองฝ่ายเผชิญหน้ากันจริง เช่น เมืองฮ่องกง และกลุ่มประเทศในตะวันออกกลางบางประเทศ รวมทั้งประเทศเพื่อนบ้านของไทยในภูมิภาคนี้ จึงทำให้บางประเทศมีระบบคัดกรองเนื้อหาและมีกฎหมายห้ามการใช้โซเชียลมีเดียและห้ามประชาชนในประเทศพูดเรื่องการเมืองที่ทำลายความสมดุลในความแตกต่างทางความคิดของคนในชาติ เพื่อป้องกันสกัดกั้นความแตกแยกของประชาชน เช่น ประเทศสิงคโปร์ มีกฎหมายเป็นเครื่องมือสร้างความสมดุลของการแสดงออกทางการเมืองในที่สาธารณะ ไม่สร้างความแตกแยกของคนในชาติ เป็นต้น

“ที่น่าสนใจคือ การแสดงออกในที่สาธารณะต้องแสดงออกในพื้นที่ที่จัดไว้ให้อย่างปลอดภัย โดยไม่ต้องขออนุญาตถ้าเป็นไปตามระเบียบกฎหมายของสิงคโปร์ แต่คนที่ออกมาแสดงความคิดเห็นในประเด็นสาธารณะได้ต้องเป็นพลเมืองของสิงคโปร์เท่านั้นและคนเข้าร่วมฟังก็ต้องเป็นพลเมืองด้วย โดยไม่มีเนื้อหากระทบต่อศาสนา ชาติพันธุ์ ไม่สร้างความเกลียดชัง แตกแยกของคนในชาติ แต่ในประเทศไทย แกนนำทางการเมืองมักพูดและทำเพื่อเอาใจรักษาฐานเสียงของตนเองมากกว่าจะออกแบบเพื่อสร้างความสมดุลและความรักความสามัคคีของคนในชาติ เช่น ล่าสุด นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ได้รับการเลือกตั้งเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครให้สัมภาษณ์เรื่องม็อบลงถนนว่าเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่ต้องดูแลให้ปลอดภัย เป็นต้น เป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายน่าจะช่วยกันพิจารณา ประเด็นคือ เมื่อเปิดประเทศถอดหน้ากากออกกลับสู่สภาวะปกติแล้วก็ไม่น่ามีความแตกแยกของคนในชาติจากม็อบต่าง ๆ มาขัดขวางการฟื้นตัวของประเทศ ดังนั้น ถ้าปล่อยให้ทำเหมือนที่เคยทำ ก็ยากจะหลุดพ้นวงจรอุบาทว์” ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รัฐบาลเปราะบาง ปชช.จับตาอุบัติเหตุการเมือง

ซูเปอร์โพล ชี้ผลสำรวจ ปชช.กังวลปัญหาเศรษฐกิจปากท้อง รวมทั้งเสถียรภาพรัฐบาลที่มีความเปราะบาง นอกจากนี้ยังห่วงเรื่องความแตกแยกและอุบัติเหตุทางการเมือง

ซูเปอร์โพลชี้ผลสำรวจคนไทยมีความทุกข์มากขึ้น แต่ยังมั่นใจฝีมือ 'อิ๊งค์'

นายนพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัย ซูเปอร์โพล ได้ทำการสำรวจความคิดเห็นของประชาชน เรื่อง สังคม เศรษฐกิจ และการเมือง ในสายตาของประชาชน กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ ดำเนินโครงการทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) รวมจำนวนตัวอย่างในการวิเคราะห์ทางสถิติทั้งสิ้น 1,215 ราย ดำเนินโครงการระหว่างวันที่ 15 - 19 เมษายน 2568 ที่ผ่านมา

ซูเปอร์โพลชี้ 'ตึกถล่ม' กระทบศรัทธาประชาชน จี้รัฐฟื้นเชื่อมั่นด่วน

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัย ซูเปอร์โพล เสนอผลสำรวจเรื่อง ถอดบทเรียนตึกถล่มจากเหตุแผ่นดินไหวในใจประชาชน กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ ดำเนินโครงการทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) และการวิจัยเชิงคุณภาพ

โพลชี้ ปชช. ส่วนใหญ่ขอให้หน่วยงานรัฐติดตามแผ่นดินไหว  พร้อมแจ้งสถานกาณ์ทันที

ความต้องการของปชช.ส่วนใหญ่ ขอให้หน่วยงานรัฐ ปรับปรุง พร้อมรับมือเหตุฉุกเฉิน พบส่วนใหญ่ หรือร้อยละ 87.1 ต้องการให้ เฝ้าระวัง ติดตามพื้นที่เสี่ยง สื่อสาร ไลฟ์สดจากรัฐบาล นายกรัฐมนตรีไลฟ์สดทันที ตอบสนองรับมือเหตุฉุกเฉิน แก้วิกฤต และฟื้นฟูเยียวยา

ซูเปอร์โพลเผยผู้ปกครองห่วงบุหรี่ไฟฟ้าระบาดกลุ่มเด็กและเยาวชน

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยสำนักวิจัย ซูเปอร์โพล เสนอผลสำรวจเรื่อง ความกังวลของผู้ปกครองต่อบุหรี่ไฟฟ้าในกลุ่มเด็กและเยาวชน กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ ดำเนินโครงการทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) และการวิจัยเชิงคุณภาพ

ซูเปอร์โพลเปิดผลสำรวจพบชีวิตคนไทยเวลานี้แย่ลง

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัย ซูเปอร์โพล เสนอผลสำรวจเรื่อง ชีวิตคนไทย ดีขึ้น เหมือนเดิม หรือ แย่ลง กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ ดำเนินโครงการทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) และการวิจัยเชิงคุณภาพ